เมื่อพูดถึงตลาดสมาร์ทโฟน ซึ่งมีการแข่งขันสูงมาก และมีแบรนด์ยักษ์ใหญ่ครองตลาดอยู่แต่เดิมเอาไว้อย่างเหนียวแน่น การที่แบรนด์สักแบรนด์จะแจ้งเกิดและเติบโตจนได้รับความนิยมจากผู้บริโภคนั้นย่อมไม่ใช่เรื่องง่ายๆ ทว่าก็มีแบรนด์สมาร์ทโฟนดาวรุ่งสัญชาติจีนอย่าง realme ที่ได้รับการตอบรับอย่างถล่มทลายในกลุ่มคนรุ่นใหม่ และเติบโตขึ้นอย่างรวดเร็วต่อเนื่องชนิดก้าวกระโดดเป็นประวัติการณ์ ซึ่ง THE STANDARD คิดว่าเป็นเรื่องน่าทึ่งเอามากๆ ที่แบรนด์สมาร์ทโฟนสัญชาติจีนที่เพิ่งเปิดตัวไปได้เพียง 2 ปี แต่กลับประสบความสำเร็จได้ถึงขนาดนี้ โดยพุ่งทะยานขึ้นไปครองตำแหน่งสมาร์ทโฟนอันดับ 7 ของโลก เราจึงขออาสาพาทุกคนไปไขความลับว่า เพราะอะไรที่ทำให้ realme ขึ้นแท่นเป็นแบรนด์สมาร์ทโฟนที่มาแรงและเติบโตเร็วที่สุดในโลก ณ ขณะนี้

แบรนด์สมาร์ทโฟนดาวรุ่งมาแรง ซึ่งเติบโตเร็วที่สุดในโลก

ความน่าทึ่งอยู่ที่การเติบโตขึ้นอย่างรวดเร็ว นับตั้งแต่ realme ก่อตั้งขึ้นเมื่อเดือนพฤษภาคม 2561 ตั้งแต่เปิดตัว ทางแบรนด์ก็มีจุดยืนที่โดดเด่นคือ มุ่งนำเสนอสมาร์ทโฟนซึ่งมีทั้งประสิทธิภาพและการออกแบบที่ทันสมัย พุ่งเป้าไปที่การเป็นสมาร์ทโฟนสำหรับคนรุ่นใหม่ ซึ่งทันทีที่เปิดตัวที่อินเดีย ก็มีกระแสตอบรับที่ดีมากชนิดคาดไม่ถึง โดยภายในระยะเวลาเพียงแค่ 3 วันเท่านั้นของเทศกาลดิวาลี realme สามารถจำหน่ายโทรศัพท์มือถือไปได้ถึง 1 ล้านเครื่องเลยทีเดียว นอกจากนี้ realme ยังได้ทำลายสถิติยอดขายอันดับ 1 ในช่องทาง Lazada และเอเชียตะวันออกเฉียงใต้อีกด้วย  

• บุกยุโรป…ขยายตลาดทั่วโลก: ปัจจุบัน realme ขยายตลาดออกไปแล้วกว่า 22 ประเทศทั่วโลก ไม่ว่าจะเป็น จีน อินเดีย อินโดนีเซีย เวียดนาม ไทย มาเลเซีย ปากีสถาน อียิปต์ ฯลฯ และเมื่อวันที่ 10 พฤษภาคมของปีที่แล้ว realme ก็ได้ฤกษ์เปิดตัวอย่างเป็นทางการในฝั่งยุโรป ซึ่งก็ได้รับกระแสตอบรับที่ดีมากเช่นเดียวกัน 

• ครองตำแหน่งสมาร์ทโฟนอันดับ 7 ของโลก: ด้วยความมุ่งมั่นนำเสนอสมาร์ทโฟนคุณภาพ นำสมัย รวมไปถึงการบริการหลังการขาย และคิดค้นเทคโนโลยีใหม่ๆ ออกมานำเสนอเพื่อตอบโจทย์การใช้งานและไลฟ์สไตล์ในปัจจุบันให้มากที่สุด ส่งผลให้ realme ได้รับการตอบรับที่ดีเยี่ยม และได้รับการการันตีถึงคุณภาพในหมู่ผู้ใช้งานแบบปากต่อปาก จนส่งผลให้ realme ก้าวขึ้นมาเป็นแบรนด์สมาร์ทโฟนที่เติบโตเร็วที่สุดในโลก โดยปัจจุบันยอดการจัดส่งสมาร์ทโฟนของ realme ทั่วโลกนั้นครองตำแหน่งสมาร์ทโฟนขายดีอันดับ 7 ของโลก ตอกย้ำความสำเร็จของแบรนด์ได้เป็นอย่างดี 
• เติบโตขึ้นอย่างก้าวกระโดด: ล่าสุดจากผลวิเคราะห์ในไตรมาสที่ 1 ประจำปี 2563 ของบริษัทวิจัยยักษ์ใหญ่ อย่าง Counterpoint ระบุว่า realme ขึ้นแท่นครองอันดับ 5 แบรนด์สมาร์ทโฟนในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ แถมยังเติบโตขึ้นอย่างเหนือความคาดหมายถึง 173 เปอร์เซ็นต์ เมื่อเปรียบเทียบกับปีก่อน ซึ่งนับว่าไม่ธรรมดาเลย และที่สำหรับบ้านเราเองก็เช่นเดียวกันที่ realme ได้ก้าวขึ้นแท่นครองอันดับ 4 แบรนด์สมาร์ทโฟนของประเทศไทย โดยมีตัวเลขการเติบโตขึ้นถึง 116 เปอร์เซ็นต์ เลยทีเดียวเมื่อเทียบกับปีก่อน อย่างไรก็ตาม ทางแบรนด์ก็ยังไม่หยุดเป้าหมายความสำเร็จไว้เพียงเท่านั้น เพราะ realme ยังตั้งเป้าเดินหน้าจะขึ้นเป็นอันดับ 3 ให้ได้อีกในไตรมาสที่ 2 ของปีนี้ 
• ผู้ใช้งานเพิ่มขึ้นนับ 10 ล้านคน ใน 1 ไตรมาส: เมื่อสิ้นเดือนมกราคมที่ผ่านมา realme มีจำนวนผู้ใช้ทั่วโลก 25 ล้านคน ทว่าเพียง 4 เดือนถัดจากนั้นเท่านั้น realme มีจำนวนผู้ใช้งานทั่วโลกเพิ่มขึ้นถึงอีก 10 ล้านคน ส่งผลให้ปัจจุบัน realme มีผู้ใช้งานทั่วโลกถึง 35 ล้านคน นับเป็นตัวเลขของการเติบโตที่ไม่ธรรมดาและน่าทึ่งเอามากๆ เพราะใช้เวลาเพียงแค่ไม่กี่เดือนเท่านั้น ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความนิยมที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วของ realme ได้เป็นอย่างดี 

realme’s Key Sucess 

เพราะ ‘Dare to Leap’ จึงเติบโตอย่างก้าวกระโดด

“เพราะอะไร realme จึงโดนใจกลุ่มเป้าหมายคนรุ่นใหม่?” – นี่น่าจะเป็นคำถามสำคัญที่ทุกคนคงต้องอยากรู้เป็นแน่ 

ด้วยสโลแกน ‘Dare to Leap’ อันหมายถึง ‘กล้าที่จะก้าวกระโดดให้ไกลขึ้นและไปให้ไกลกว่าที่เคยยืน’ นั้นทำให้แบรนด์มีบุคลิกทั้งสดใหม่และเปี่ยมไปด้วยพลัง ทว่าที่สำคัญไม่ใช่เพียงแค่ภาพลักษณ์ที่สดใหม่เท่านั้น แต่สินค้าของ realme ยังได้รับการยอมรับจากบรรดากลุ่มเป้าหมาย และได้รับการคอนเฟิร์มกันแบบปากต่อปากว่ามีคุณภาพจริงๆ ทั้งในแง่ ‘Power’ หรือประสิทธิภาพการใช้งานบวกกับเทคโนโลยีอันล้ำสมัย ซึ่งตอบโจทย์ความต้องการและไลฟ์สไตล์ของกลุ่มเป้าหมายที่เป็นกลุ่มคนรุ่นใหม่ รวมถึงมี ‘Style’ หรือดีไซน์ที่ทันสมัยโดนใจ ประกอบกับการสื่อสารทางการตลาดอันทรงประสิทธิภาพพูดจาภาษาเดียวกันกับกลุ่มลูกค้าเป้าหมาย จึงได้รับการตอบรับอย่างถล่มทลายในหมู่คนรุ่นใหม่ สร้างสถิติยอดขายที่ประสบความสำเร็จมาอย่างต่อเนื่องชนิดหยุดไม่อยู่  

คนรุ่นใหม่คือกลุ่มเป้าหมายหลักผู้ใช้งาน realme 

• เข้าถึงผู้ใช้งานผ่านภาษาและความต้องเดียวกัน: นอกจากเป็นผู้นำตัวจริงด้านผลิตภัณฑ์สมาร์ทโฟนเทคโนโลยีล้ำสมัย ซึ่งออกแบบมาเพื่อคนรุ่นใหม่อย่างแท้จริงแล้ว ในแง่ของการสื่อสารการตลาด realme ยังเข้าถึงผู้ใช้งานกลุ่มเป้าหมายผ่านภาษาและความต้องการเดียวกันกับพวกเขา ด้วยการใช้ Trend Icons อย่าง Brand Ambassador ที่สะท้อนภาพลักษณ์และจิตวิญญาณของแบรนด์ได้อย่างชัดเจน อย่างในเมืองไทยนั้น realme มี ‘ใหม่-ดาวิกา โฮร์เน่’ เป็นแบรนด์แอมบาสเดอร์ของ realme ประจำประเทศไทย คอยทำหน้าที่ในฐานะ ‘Trend Mentor’ ให้กับคนรุ่นใหม่ ซึ่งไม่เพียงแต่สอดคล้องภาพลักษณ์ของแบรนด์ที่นำเทรนด์แฟชั่นทันสมัยเท่านั้น แต่ยังแสดงถึงจิตวิญญาณภายใต้แนวคิด ‘Dare to Leap’ ได้อย่างชัดเจนอีกด้วย 

• ประสบความสำเร็จด้วยช่องทางขายออนไลน์: เนื่องจากผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ส่งผลให้ยอดการส่งออกสมาร์ทโฟนทั่วโลกลดลงอย่างมากในไตรมาสที่เพิ่งผ่านมา แต่ด้วยการมุ่งเน้นตลาดออนไลน์ ซึ่งเป็นพฤติกรรมและไลฟ์สไต์ของคนรุ่นใหม่ ที่นิยมช้อปออนไลน์กันมากกว่าคนในเจอเนอเรชันก่อน ทำให้ realme เป็นหนึ่งในเพียงไม่กี่แบรนด์ที่ประสบความสำเร็จเติบโตในไตรมาสที่ 1 และไม่เพียงแค่ขึ้นแท่นครองตำแหน่งสมาร์ทโฟนอันดับ 7 ของโลกเท่านั้น แต่ยังคงมีการเติบโตอย่างรวดเร็วในตลาดเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ จนขึ้นแท่นแบรนด์สมาร์ทโฟนอันดับ 5 ของ SEA อีกด้วย 

‘ผู้ปฏิวัติวงการตลาดสมาร์ทโฟน’ และ ‘ผู้นำด้านเทคโนโลยี’ 

พร้อมก้าวสู่การเป็นผู้นำ 5G  

นับตั้งแต่วันแรกที่ก่อตั้ง realme เข้าใจถึงความต้องการของกลุ่มผู้ใช้งานรุ่นใหม่ และมุ่งมั่นที่จะเป็น ‘ตัวเลือกแรกสำหรับกลุ่มคนรุ่นใหม่ในทุกภูมิภาคทั่วโลก’ อันเป็นเหตุผลให้ realme วางตำแหน่งแบรนด์ตัวเองเป็น ‘ผู้นำเทรนด์ด้านเทคโนโลยีเพื่อคนรุ่นใหม่’ (Tech Trendsetter Brand) ที่คอยนำเสนอผลิตภัณฑ์คุณภาพเพื่อคนรุ่นใหม่ในยุค 5G ซึ่งมาพร้อมประสิทธิภาพการทำงาน คุณภาพที่เหนือชั้นเกินความคาดหมายของผู้ใช้งาน และดีไซน์ที่ต้องรสนิยมของคนรุ่นใหม่ 

มาถึงตรงนี้เราลองมาพิจารณาดูกันดีกว่าในไตรมาสที่ผ่านมานั้น realme ได้นำเสนออะไรให้กับตลาดไปแล้วบ้าง รวมถึงกลยุทธ์และแผนที่กำลังจะเกิดขึ้นในอนาคตอันใกล้ของแบรนด์ นั้นมีอะไรที่น่าตื่นเต้นเตรียมเอาไว้ให้ผู้บริโภคอย่างเรากันบ้าง

กลยุทธ์ ‘1+4+N’ 

วิสัยทัศน์ระยะยาวของ realme 

ซึ่งสมาร์ทโฟนเป็นศูนย์กลางของไลฟ์สไตล์สมัยใหม่แทบทุกด้าน

• วิสัยทัศน์ระยะยาวด้วยกลยุทธ์ ‘1+4+N’: จากการประสบความสำเร็จในการก้าวขึ้นผู้นำเทรนด์ด้านเทคโนโลยีเพื่อคนรุ่นใหม่ในเวลาอันรวดเร็ว realme ยังไม่หยุดยั้งที่จะพัฒนาอย่างต่อเนื่อง ทางแบรนด์ยังมุ่งมั่นวางวิสัยทัศน์ระยะยาว ด้วยการนำไลฟ์สไตล์อันทันสมัยผสมผสานเข้ากับสมาร์ทไลฟ์สไตล์ของคนรุ่นใหม่ด้วยกลยุทธ์ ‘1+4+N’ โดย ‘1’ นั้นหมายถึงสมาร์ทโฟน อันจะเป็นศูนย์กลางหลักของระบบ AIOT ซึ่งสามารถเชื่อมต่อและควบคุมการใช้งานต่างๆ ในไลฟ์สไตล์ยุคใหม่ได้ผ่านสมาร์ทโฟน และ realme Link ส่วน ‘4’ ก็หมายถึงผลิตภัณฑ์ที่ตอบโจทย์การใช้งานของผู้บริโภคในทุกด้าน ได้แก่ สมาร์ททีวี หูฟังอัจฉริยะ Smart Watch และลำโพงอัจฉริยะ ด้าน ‘N’ นั้นแสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นอันแรงกล้าของ realme ในการนำผลิตภัณฑ์ AIoT ต่างๆ มาตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ในชีวิตประจำวันของคนรุ่นใหม่ในทุกๆ ด้าน ไม่ว่าจะเป็นการใช้งานส่วนตัว การใช้งานภายในบ้าน หรือแม้กระทั่งการเดินทางท่องเที่ยว 
• แบรนด์ที่มีการเติบโตของผลิตภัณฑ์ AIoT เร็วที่สุดในโลก: รู้กันไหมว่าในเดือนมกราคม ในปี 2563 ที่ผ่านมานั้น realme มียอดการจำหน่ายผลิตภัณฑ์ AIoT แล้วถึงกว่า 1 ล้านเครื่อง ทั้งในยอดจำหน่ายของ realme Buds Air และ realme Buds Wireless และภายในปีนี้ยังจะมีผลิตภัณฑ์ AloT อีกมากมายที่พร้อมเปิดตัวเพื่อตอบโจทย์ความต้องการและยกระดับไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตของผู้ใช้งานให้สะดวกมากยิ่งขึ้น ถือได้ว่านอกจากจะเป็นแบรนด์ที่เติบโตเร็วที่สุดในโลกแล้ว ณ ตอนนี้ realme ยังเป็นแบรนด์ที่มีการเติบโตของผลิตภัณฑ์ AIoT เร็วที่สุดในโลกอีกด้วย
• มุ่งมั่นเป็นผู้นำที่เหนือกว่าในยุค 5G: realme ยังมีแผนที่จะเปิดตัวสมาร์ทโฟนรองรับ 5G ที่มาพร้อมเทคโนโลยีล้ำสมัยให้ครอบคลุมทุกกลุ่มราคา ไม่เพียงเท่านั้นทางแบรนด์ยังมีแผนที่จะคิดค้นแอปพลิเคชัน 5G เพื่อสร้างผลิตภัณฑ์ 5G ที่แปลกใหม่ด้วยเทคโนโลยีอันล้ำสมัย ซึ่งจะได้แก่อะไรบ้างนั้นเราคงต้องติดตามกันดูหลังจากนี้ให้ดีว่า realme จะมีอะไรออกมานำเสนอโดนใจตลาดอีกบ้าง 

สมาร์ทโฟนรุ่นเรือธง

 ‘realme X50 5G’ และ ‘realme X50 Pro 5G’

• มอบประสบการณ์ 5G เหนือระดับ ด้วยสมาร์ทโฟนรุ่นเรือธง: ล่าสุด realme ได้เปิดตัวสมาร์ทโฟนรองรับ 5G รุ่นแรกออกสู่ตลาดสมาร์ทโฟนในต่างประเทศอย่างเป็นทางการด้วย ‘realme X50 5G’ ในเดือนมกราคมที่ผ่านมา ตามมาด้วย ‘realme X50 Pro 5G’ สมาร์ทโฟนเรือธงสเปกแรงรองรับ 5G รุ่นแรก เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา สมาร์ทโฟนเรือธงทั้ง 2 รุ่น มาพร้อมกับหน่วยประมวลผล ‘Qualcomm Snapdragon 865’ รองรับ 5G เพื่อมอบประสบการณ์การใช้งานเหนือระดับตอบโจทย์ความต้องการของผู้ใช้งานในยุค 5G และ AloT ได้เป็นอย่างดี

ทั้ง realme X50 5G และ realme X50 Pro 5G ต่างก็ได้รับกระแสตอบรับเป็นอย่างดี ทั้งนี้ realme ตระหนักดีว่า การมาถึงของสัญญาณ 5G ยังถือเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญของทุกภาคส่วนอุตสาหกรรม ซึ่งส่งผลถึงไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภค ไม่เพียงแค่อุตสาหกรรมสมาร์ทโฟนเท่านั้น แต่ยังรวมไปถึงผู้ให้บริการเครือข่าย นักพัฒนาแอปพลิเคชัน บริษัทผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ต และอุตสาหกรรมอื่นๆ ซึ่ง realme ในฐานะผู้นำที่เหนือกว่าในยุค 5G ยังยืนยันว่าจะยังคงมุ่งมั่นพัฒนาอย่างต่อเนื่อง เพื่อประสิทธิภาพสมาร์ทโฟนที่ดีขึ้น ทั้งพร้อมยืนหยัดที่จะให้บริการในฐานะผู้นำเทรนด์ด้านเทคโนโลยีเพื่อคนรุ่นใหม่ ตามคอนเซปต์ ‘Dare to Leap’ เพื่อมอบประสบการณ์การใช้งานที่ดีที่สุดให้กับผู้ใช้งานของแบรนด์

และทั้งหมดที่กล่าวมานี้เองที่ทำให้ realme เป็นแบรนด์สมาร์ทโฟนมาแรงสำหรับคนรุ่นใหม่ ซึ่งได้รับการตอบรับอย่างท่วมท้น และเติบโตเร็วที่สุดในโลกขณะนี้

พิสูจน์อักษร: พรนภัส ชำนาญค้า