×

17 พฤษภาคม 2006 – 14 ปี The Da Vinci Code ภาพยนตร์ทริลเลอร์ถอดรหัสไขปริศนา ที่ทำให้จินตนาการในนวนิยายระดับโลกปรากฏขึ้นบนจอภาพยนตร์

17.05.2020
  • LOADING...

ความลุ้นระทึกจากการถอดรหัส ไขปริศนาต่างๆ ที่ประดังประเดเข้ามา, ช็อตงามๆ ของงานศิลปะล้ำค่า, ข้อมูลในประวัติศาสตร์ที่น่าสนใจ และเรื่องราวเข้มข้น หักมุม จากนวนิยายระดับเบสต์เซลเลอร์ ฯลฯ

 

คือส่วนผสมสำคัญทำให้ The Da Vinci Code กลายเป็นภาพยนตร์ที่สร้างปรากฏการณ์ไปทั่วทุกมุมโลก หลังเข้าฉายรอบปฐมทัศน์ที่เทศกาลภาพยนตร์นานาชาติเมืองคานส์เมื่อวันที่ 17 พฤษภาคม 2006 แม้จะเกิดกระแสต่อต้านอย่างรุนแรง เนื่องจากมีเนื้อหาพาดพิงถึงประวัติศาสตร์ของศาสนาคริสต์นิกายโรมันคาทอลิก แต่นั่นก็ไม่อาจฉุดรั้ง The Da Vinci Code จากความสำเร็จจากทั่วโลกได้

 

The Da Vinci Code ดัดแปลงมาจากวรรณกรรมขายดีของ แดน บราวน์ ในชื่อเดียวกัน เล่าเรื่องราวของ โรเบิร์ต แลงดอน ศาสตราจารย์ด้านสัญลักษณ์วิทยา จากมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด ผู้ถูกต้องสงสัยว่าก่อเหตุฆาตกรรม ฌาคส์ โซนิแยร์ ภัณฑารักษ์ของพิพิธภัณฑ์ลูฟวร์ 

 

ณ จุดเกิดเหตุในพิพิธภัณฑ์ รอบศพของโซนิแยร์เต็มไปด้วยสัญลักษณ์และข้อความปริศนา โดยตำรวจปารีสเชิญตัวโรเบิร์ตมา และอ้างว่าต้องการความช่วยเหลือจากเขา ก่อนที่ โซฟี เนอเวอ นักถอดรหัสจากกรมตำรวจ และหลานสาวของโซนิแยร์จะเข้ามาช่วยแลงดอนหลบหนี เพราะเชื่อว่าเขาจะสามารถช่วยเธอไขปริศนาที่ตาของเธอทิ้งเอาไว้ก่อนตายได้

 

ภาพยนตร์กำกับโดย รอน ฮาวเวิร์ด เรียบเรียงบทโดย อะคิวา โกลส์แมน โดยถือเป็นหนังเรื่องแรกของแฟรนไชส์ โรเบิร์ต แลงดอน ที่ได้นักแสดงระดับเอลิสต์ของวงการอย่าง ทอม แฮงส์ มารับบทนำ สมทบด้วย ออเดรย์ โตตู, เอียน แม็กเคลเลน, อัลเฟรด โมลินา, ฌ็อง เรโน และพอล เบตตานี

 

The Da Vinci Code ได้รับกระแสต่อต้านอย่างรุนแรงจากนิกายโรมันคาทอลิก ถึงขนาดมีการออกมาเคลื่อนไหวให้เหล่าฆราวาสแบนภาพยนตร์เรื่องนี้ บวกกับนักวิจารณ์จากหลายสำนักก็ออกมาให้รีวิวด้านลบกับตัวหนัง ถึงกระนั้นก็ไม่มีอะไรฉุดกระแสความดังของ The Da Vinci Code ได้ จนทำเงินทั่วโลกไปกว่า 758.2 ล้านดอลลาร์สหรัฐ จากทุนสร้างเพียง 125 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ก่อนมีภาคต่อตามมาอีก 2 ภาค ได้แก่ Angels & Demons (2009) และ Inferno (2016)

  • LOADING...

READ MORE





Latest Stories

Close Advertising
X