แม้สถานการณ์โควิด-19 จะทำให้สาวกเคป๊อปอาจรู้สึกเงียบเหงาในช่วงนี้ เพราะห่างหายจากการดูคอนเสิร์ตมานานหลายเดือน แต่ทว่าไม่ใช่กับศิลปินจากค่าย SM Entertainment ที่เดินหน้าจัด Beyond LIVE คอนเสิร์ตออนไลน์ที่สร้างความสนุกมาแล้วตลอด 3 สัปดาห์กับ 3 วงอย่าง SuperM, WayV และ NCT DREAM
ล่าสุดเมื่อวันอาทิตย์ที่ 17 พฤษภาคมที่ผ่านมา ก็ถึงคิวของ NCT 127 กับ Beyond LIVE ที่มีชื่อว่า NCT 127 LIVE – Beyond the Origin ที่ไลฟ์ผ่านเว็บไซต์และแอปพลิเคชัน Naver V LIVE (แพลตฟอร์มบริการสตรีมมิงวิดีโอจาก Naver Corporation) ภายในสตูดิโอที่ใช้เทคโนโลยี AR เนรมิตฉากต่างๆ เพื่อสร้างบรรยากาศเสมือนอยู่ในคอนเสิร์ตจริง ซึ่งเปิดให้แฟนๆ ทั่วโลกซื้อบัตรเข้าชมในราคา 33,000 วอน (ประมาณ 860 บาท) ที่สามารถเลือกรับชมพร้อมคำบรรยาย 7 ภาษา (อังกฤษ, ญี่ปุ่น, จีน, เวียดนาม, ไทย, บาฮาซา อินโดนีเซีย และสเปน) และสามารถเลือกระดับความคมชัดได้ถึง 7 ระดับ (ตั้งแต่ 144-1080p) โดยครั้งนี้มีผู้ชมเข้ารวมกว่า 1 แสนคน ใน 129 ประเทศทั่วโลก
อีกหนึ่งความพิเศษของ NCT 127 LIVE – Beyond the Origin ครั้งนี้คือนอกจากแฟนๆ จะสามารถรับชมภาพรวมของสเตจผ่านกล้องหลักได้แล้ว หากต้องการโฟกัสสมาชิกคนใดเป็นพิเศษก็สามารถเลือก Multi-Cam ของสมาชิกคนนั้นๆ เปิดควบคู่กันได้อีกด้วย
NCT 127 LIVE – Beyond the Origin เปิดฉากด้วยทีเซอร์ของสมาชิกทั้ง 9 คนอย่าง แจฮยอน, มาร์ค, แทยง, แฮชาน, โดยอง, จองอู, จอห์นนี, แทอิล และยูตะ ก่อนเปิดสเตจด้วยเพลง Cherry Bomb ที่เราเชื่อว่าถึงแม้ NCTzen (ชื่อแฟนคลับของวง NCT) หลายคนจะเคยดูสเตจนี้มาแล้วหลายต่อหลายครั้ง แต่ก็ยังไม่สามารถละสายตากับเพอร์ฟอร์แมนซ์ที่พร้อมเพรียงของพวกเขาได้
ก่อนที่ทั้ง 9 หนุ่มจะต่อเนื่องด้วยเพลง Chain เวอร์ชันภาษาญี่ปุ่น และ Regular เวอร์ชันภาษาอังกฤษในช่วงแรก ก่อนเข้าสู่ช่วงทอล์กเพื่อพูดคุยกับแฟนๆ ผ่านหน้าจอที่ปรากฏขึ้นรอบสตูดิโอแบบ 360 องศา ซึ่งทำให้พวกเขาเห็นรีแอ็กชันและแสงจากแท่งไฟของแฟนๆ ทั่วโลก
บรรยากาศสตูดิโอในช่วงทอล์กที่จะปรากฏภาพของแฟนๆ ที่รับชมอยู่ทั่วโลก
โดยตลอดระยะเวลา 2 ชั่วโมงกว่าใน NCT 127 LIVE – Beyond the Origin นั้นอัดแน่นไปด้วยเพลย์ลิสต์ตั้งแต่มินิอัลบั้มแรกจนถึงอัลบั้มเต็มชุดที่ 2 อย่าง Boom, White Night, Superhuman, Wake Up, Baby Don’t Like It, Touch, Highway to Heaven, Kick It และพิเศษกับสเตจเปิดตัวเพลง Punch จากอัลบั้มรีแพ็กเกจชุดที่ 2 NCT #127 Neo Zone: The Final Round ที่กำลังจะปล่อยออกมาในวันที่ 19 พฤษภาคมนี้ ซึ่งเนรมิตเวทีโดยรอบเปลี่ยนเป็นสังเวียนที่พร้อมจะให้แฟนๆ ร่วม Punch ไปพร้อมๆ กัน รวมถึงการโชว์เพลงในอัลบั้มอย่าง Make Your Day ให้ NCTzen ได้รับชมและรับฟังเป็นที่แรก
นอกจากสเตจเพอร์ฟอร์แมนซ์ที่ทำให้ใจเต้นแรงแล้ว NCT 127 LIVE – Beyond the Origin ยังมีสเตจพิเศษกับ ดีเจจอห์นนี ที่ยกบูธดีเจมาโชว์เพลง Kick It แบบรีมิกซ์บนเวที พร้อมกับการโชว์สเตปแบบเดี่ยวๆ ของ มาร์ค, ยูตะ และแทยง ที่ยังคงสะกดทุกสายตาไว้ได้เป็นอย่างดี ก่อนที่ทั้ง 9 หนุ่มจะออกมาเดินไปรอบๆ เวทีและชวนแฟนๆ โบกแท่งไฟไปพร้อมกับจังหวะสนุกๆ ของเพลง Love Me Now เวอร์ชันรีมิกซ์ไปพร้อมๆ กัน
ระหว่างการแสดง แฟนๆ สามารถแสดงความคิดเห็นและความรู้สึกผ่านช่องแชตได้อย่างอิสระ ซึ่งหน้าจอดังกล่าวจะปรากฏขึ้นในช่วงทอล์กให้หนุ่มๆ NCT 127 ได้เห็นความรู้สึกและรีแอ็กชันของแฟนๆ แบบเรียลไทม์
มุมกล้องและโคลสอัพที่ใกล้กว่าในรายการเพลงหรือคอนเสิร์ต ยิ่งปรับระดับความคมชัดมากก็ยิ่งเห็นศิลปินที่ชื่นชอบแบบ HD มากขึ้น
เทคโนโลยี AR ที่เข้ามาช่วยเนรมิตเวทีคอนเสิร์ตให้สนุกขึ้น อย่างกราฟิกเนื้อเพลงที่ขึ้นบนจอโดยไม่บดบังการรับชมของแฟนๆ ไปจนถึงการสร้างฉากหลังเหมือนในมิวสิกวิดีโอเพลง Kick It
และอีกหนึ่งไฮไลต์ของ Beyond LIVE ที่ช่วยกระชับระยะทางระหว่าง NCT 127 และ NCTzen ให้เหลือ 0 ไมล์ได้ กับช่วง Interactive Q&A ซึ่งเปิดโอกาสให้แฟนๆ ส่งคำถามเข้ามาร่วมสนุก เพื่อที่จะได้พูดคุยกับ NCT 127 กันแบบสดๆ
นอกเหนือจากแฟนๆ แล้ว ใน NCT 127 LIVE – Beyond the Origin ครั้งนี้ยังมีแขกรับเชิญพิเศษอย่าง ชองยุนโฮ รุ่นพี่ร่วมค่ายจากวง TVXQ! มาร่วมพูดคุยอีกด้วย
ก่อนที่ในช่วงท้าย NCT 127 จะบอกลาแฟนๆ ไปพร้อมกับช่วงพิเศษหลังคอนเสิร์ตด้วยการเลือกตอบคำถามของแฟนๆ ที่ส่งมาทางช่องแชต เพื่อส่งผ่านความรู้สึกและสร้างความใกล้ชิดกับแฟนๆ ทั่วโลกที่มอบความรักและรอคอยพวกเขาให้ได้หายคิดถึงกัน หลังจากต้องเผชิญกับสถานการณ์โควิด-19 มาตลอดหลายเดือนที่ผ่านมา
โดยไลน์อัพต่อไปของ Beyond LIVE ต่อจาก NCT 127 คือสองวงรุ่นพี่อย่าง TVXQ! (24 พฤษภาคม) และ SUPER JUNIOR (31 พฤษภาคม) แฟนๆ ที่สนใจสามารถติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ผ่านเฟซบุ๊ก SMTOWN และ SM True
พิสูจน์อักษร: ภาสิณี เพิ่มพันธุ์พงศ์
- อีกหนึ่งความแปลกใหม่ที่เราชื่นชอบคือ การได้ร่วมแชร์โมเมนต์ประทับใจผ่านแฮชแท็ก #NCT127_BeyondLIVE ในทวิตเตอร์ร่วมกับแฟนๆ ทั่วโลก ซึ่งโดยปกติแล้วเรามักจะเห็นทวีตภาษาไทย เนื่องจากคอนเสิร์ตในแต่ละประเทศจะจัดไม่ตรงกัน แต่ในครั้งนี้เราสามารถอ่านและแชร์โมเมนต์พร้อมกันกับแฟนๆ ทั่วโลกได้แบบเรียลไทม์ นับเป็นอีกหนึ่งความคึกคักหน้าไทม์ไลน์ที่ช่วยผ่อนคลายบรรยากาศการดูคอนเสิร์ตหน้าจอได้เป็นอย่างดี
