ภาพ: @kugimiyas, @Urassayas / Instagram
ไม่มีการสารภาพรักออกสื่อของดาราคู่ไหนที่ได้รับความสนใจเท่า ‘ณเดชน์ ญาญ่า’ พิสูจน์ได้จากปรากฏการณ์ #ณเดชน์ญาญ่า ที่กลายเป็นเทรนดิ้งคำค้นนับล้านครั้งในชั่วไม่กี่ข้ามคืนที่ทั้งคู่เปิดเผยภาพคู่ที่ปารีส ในปี 2561 และอีกหลายครั้งหลายหนหลังจากแกรนด์โอเพนนิง จนถึงภาพล่าสุดในอินสตาแกรมของณเดชน์ที่แคปชันตอนหนึ่งบอกว่า “อยากแชร์ภาพนี้ที่ถ่ายไว้ในปี 2011 ที่กองถ่ายเกมร้ายเกมรัก ได้ภาพนี้มาแบบไม่ได้มองในกล้อง เพราะผมโฟกัสอย่างอื่นอยู่” ซึ่งเป็นการบอกใบ้กลายๆ ว่าความรู้สึกดีต่อกันของทั้งคู่เริ่มต้น อย่างน้อยๆ ก็ตั้งแต่ปี 2554
น่าสนใจว่าทำไมคนไทยทั้งประเทศถึงส่งเสียงเชียร์ ณเดชน์ คูกิมิยะ และญาญ่า-อุรัสยา เสปอร์บันด์ ไม่ค่อยมีการต่อต้าน คอมเมนต์รวมทั้งฟีดแบ็กส่วนใหญ่เป็นไปด้วยความเอ็นดู และสิ่งที่เรารวบรวมมาวิเคราะห์ต่อจากนี้ น่าจะเป็นคำตอบ
“เธอขโมยหัวใจของฉัน ที่ไหนเมื่อไรไม่รู้ รู้อีกทีก็พบว่าหัวใจฉันไปอยู่กับเธอแล้ว” ไฟ-อัคนี อดิศวร ละคร ดวงใจอัคนี พ.ศ. 2553
ภาพ: Urassayaclub.com เงารักลวงใจ (2553) กุหลาบไร้หนาม (2553)
ภาพ: ดวงใจอัคนี (2553)
ความรักที่อยู่ในสายตามาตั้งแต่เริ่มต้น
ก่อนหน้าที่จะมาแสดงละคร ดวงใจอัคนี คู่กันเป็นเรื่องแรก ทั้งณเดชน์และญาญ่ารับงานถ่ายแบบเดินแบบในวงการแฟชั่น มีโอกาสเจอกันในการทำงานหลายครั้ง ในปี 2553 ณเดชน์แสดงละครเรื่องแรก เงารักลวงใจ ที่มีหมาก ปริญ และมินท์ ณัฐวรา เป็นนักแสดงนำ ส่วนญาญ่ามีผลงานซิทคอม เพื่อนซี้ล่องหน และละคร บ้านก้านมะยม ในปี พ.ศ. 2551 จากนั้นแสดงละครเรื่องกุหลาบไร้หนาม แสดงร่วมกับ โอม อัชชา และพลอย เฌอมาลย์ ในปี 2553
จนเมื่อช่อง 3 เตรียมทำละครชุด 4 หัวใจแห่งขุนเขา โดยมีละครเรื่องดวงใจอัคนี (2553) ที่ผู้กำกับ ป้าแจ๋ว-ยุทธนา ลอพันธ์ุไพบูลย์ และควบคุมการผลิต แหม่ม-ธิติมา สังขพิทักษ์ เปิดโอกาสให้ ‘ณเดชน์ ญาญ่า’ สองนักแสดงหน้าใหม่ได้เริ่มต้นงานละคร ผลสำเร็จของ ดวงใจอัคนี ที่เริ่มออกอากาศวันแรก 5 พฤศจิกายน 2553 ทำให้ตัวละคร อัคนี อดิศวร หรือไฟ กับ อัจจิมา พศวัต หรือจี๊ด กลายเป็นที่รู้จัก และจุดกระแสคู่ขวัญ ณเดชน์ ญาญ่า นับตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา
ณเดชน์ ญาญ่า อยู่ในสายตาของคนไทยมาโดยตลอด ผ่านผลงานละคร โฆษณา ถ่ายแบบเดินแบบ รวมถึงข่าวสารต่างๆ ที่ส่งผ่านโซเชียลมีเดีย คล้ายๆ กับว่าเราต่างได้เห็นการเติบโตของเขาทั้งคู่ ตั้งแต่เข้าสู่วงการ เรียนหนังสือจนจบปริญญา ความรับผิดชอบในการทำงาน รวมถึงการวางตัวที่ไม่เคยมีข่าวเสียหาย
ภาพ: @kugimiyas, @Urassayas / Instagram
ผลักดันซึ่งกันและกัน ทั้งยังพัฒนาตัวเองอยู่เสมอ
การแสดงคือสิ่งที่ต้องอาศัยความตั้งใจและประสบการณ์ มีคนในวงการบันเทิงจำนวนไม่น้อยที่เข้าใจและหลงรักการแสดง จนทำให้เส้นทางของพวกเขามั่นคงขึ้นเรื่อยๆ และยืนระยะได้ยาวนาน ทั้งยังฝึกฝนจนเข้มข้นและเรียกตัวเองว่าอาชีพนักแสดงได้อย่างภาคภูมิใจ
นักแสดงอย่าง ซันนี่ สุวรรณเมธานนท์, เจมส์ ธีรดนย์ ต่างมีจุดเริ่มต้นจากความไม่เข้าใจว่า ‘การแสดงคืออะไร’ แต่วันที่พวกเขาพบกับชั่วโมงตรัสรู้ ก็จะเข้าใจและหลงรักศาสตร์การแสดงจนยึดถือเป็นอาชีพ ซึ่งนั่นคงไม่ต่างกับ ณเดชน์ ญาญ่า ที่เริ่มต้นงานแสดงในปี 2553
ณเดชน์ คูกิมิยะ เริ่มงานแสดงเรื่องแรก เงารักลวงใจ เขาเคยให้สัมภาษณ์ย้อนกลับไปในวันนั้นว่า “การแสดงคืออะไรเราก็ไม่รู้เรื่อง รู้แต่ว่าจะได้เล่นละคร เล่นละครที่เราเคยดูอยู่บ้านบ้างเป็นบางครั้ง แล้วจริงๆ ผมก็ไม่ใช่เด็กที่อินกับละคร จำได้ว่าเข้าฉากวันแรก ก็ไม่รู้ว่าต้องทำอย่างไร พูดผิดบ้างถูกบ้าง ตอนนั้นยังนั่งคุยกับพี่หมาก ปริญ, พี่มิ้น ณัฐวรา, พี่กุ๊บกิ๊บ สุมณทิพย์ อยู่เลยว่ามันยากมาก รู้สึกท้อ ละครเรื่องแรก เงารักลวงใจ ผมต้องเล่นเป็นคนพิการเดินไม่ได้…โชคดีมากที่ผ่านตรงจุดนั้นมาได้”
(นิตยสาร HAMBURGER, 2554)
ญาญ่า-อุรัสยา เสปอร์บันด์ เริ่มต้นงานแสดงด้วยซิตคอมเรื่อง เพื่อนซี้ล่องหน (2551) ในปี 2553 เธอมีละครโทรทัศน์ครั้งแรกเรื่อง กุหลาบไร้หนาม แสดงร่วมกับพลอย เฌอมาลย์ และโอม อัชชา ก่อนจะมารับบท จี๊ด ในละคร ดวงใจอัคนี
“การทำงานจะพยายามตั้งใจเต็มที่ ในเมื่อเราอยากอยู่ตรงนี้ อยากทำมัน เราก็ต้องมีการผลักดันและพัฒนาตัวเองอยู่ตลอดเวลา อยากให้ตัวเองเก่งขึ้น แล้วก็อาจจะมีการให้กำลังใจตัวเองเวลาเครียดว่า เราต้องทำให้ได้ เราก็จะพยายามมากขึ้นค่ะ” ญาญ่า เคยให้สัมภาษณ์ไว้ในนิตยสาร กุลสตรี ปี 2553
แหม่ม ธิติมา ผู้ดูแลการผลิตละคร ดวงใจอัคนี เคยให้สัมภาษณ์ว่า “ญาญ่าตอนมาแคสต์ชอบเลย เพราะเห็นเซนส์ตลกเขา ตอนเล่นเขามีเซนส์คอเมดี้ออกมาให้เห็นชัดเจนเลย ส่วนณเดชน์ ตอนมาแคสต์เขาเป็นคนที่ต่อปากต่อคำ กล้าพูด กล้าทำ”
ณเดชน์ ญาญ่า ไม่ได้แค่ร่วมงานแสดงด้วยกัน แต่ยังเป็นแรงผลักดันซึ่งกันและกัน อย่างที่ ป้าแจ๋ว-ยุทธนา ลอพันธ์ุไพบูลย์ เคยให้สัมภาษณ์ว่า “ณเดชน์มีปัญหาเรื่องการต่อเนื่องของอารมณ์ เขาไปติดการแสดงแบบแพตเทิร์น เราก็บอกให้เขาฟังญาญ่าพูด ให้เขารับสิ่งที่ญาญ่าส่งมาแล้วเขาจะไปได้ เพราะญาญ่าเป็นคนที่เล่นเก่ง มีความเป็นธรรมชาติสูง เราจะหลอกให้ณเดชน์เล่นจนเพลิน พอเพลินเขาก็ไม่เกร็ง ณเดชน์มีบุคลิก เขามีประกายบางอย่างออกมา เล่นละครได้หลายแบบ ดราม่าเขาก็เล่นดี บทกุ๊กกิ๊กธรรมดาเขาจะกังวลมาก แต่เดี๋ยวนี้พลิ้ว”
ลิขิตรัก The Crown Princess, 2561
ภาพ: เล่ห์ลับสลับร่าง, 2560
ระยะเวลาหลายปีที่ทั้งคู่แสดงละคร เราพบว่ามีพัฒนาการหลายอย่างที่น่าสนใจ และน่าจับตามองว่าฝีมือในการแสดงของทั้งคู่จะยืนยาวไปถึงจุดไหน ครั้งหนึ่งณเดชน์เคยให้สัมภาษณ์นิตยสาร HAMBURGER เกี่ยวกับเรื่องนี้ไว้ว่า “ผมกำลังเตรียมตัวสำหรับละครเรื่องใหม่อยู่ครับ ในเรื่องผมเล่นเป็นผู้กองรามิล (เล่ห์ลับสลับร่าง, 2560) เลยอยากจะฟิตหุ่นให้มันเหมือนผู้กองหน่อย นี่แหละคือส่ิงที่ผมรู้สึกว่าความเป็นพระเอกมันไม่ใช่ไปเข้าฉาก แต่เราอยากมองตัวเองว่าเป็นนักแสดง อย่างเวลาที่ได้รับบทบาทอะไร ได้รับหน้าที่มาแล้วเราก็อยากจะเป็นตัวละครตัวนั้นให้เต็มที่ อยากจะให้คาแรกเตอร์ของเรามันดูเปลี่ยน ไม่อยากให้ความเป็นณเดชน์ทำให้ผู้ชมจำเจ
“ถ้าเป็นเมื่อก่อน ตอนเล่นเรื่องแรกๆ ผมยังไม่ได้คิดอะไรแบบนี้ ตอนแรกขอแค่เล่นให้เป็น เล่นให้ได้ไม่เป็นภาระใครก่อน แต่พอระยะหลังเรามีประสบการณ์มากขึ้น ได้เรียนรู้อะไรมากขึ้น อะไรที่พอจะเป็นจุดเปลี่ยนได้ผมก็อยากทำ ไม่ใช่ว่าทรงผมเดิม หน้าก็เดิม
“เรื่องพวกนี้ผมคิดเอง มันจะได้มีอะไรสนุกๆ ยิ่งในเล่ห์ลับสลับร่าง ผมต้องสลับร่างกับน้องญาญ่า ซึ่งมันเป็นเรื่องสนุกนะครับถ้าเราจะสวมคาแรกเตอร์แบบนี้ให้น่าสนใจ แล้วนำเสนอมันออกไปให้คนดูเชื่อและชอบได้ แต่ถ้าเราไม่พยายามคิดหามุมท้าทายให้ตัวเอง สุดท้ายมันจะเป็นความจำเจ และไม่มีฟีลในการทำงาน”
ภาพ: @kugimiyas, @Urassayas / Instagram
ความลับคือเคล็ดลับสู่แบรนด์ที่แข็งแกร่ง
ตั้งแต่จุดเริ่มต้นคู่ขวัญในปี 2553 น้อยครั้งมากที่ทั้งคู่จะออกมาเปิดเผยสถานะของชีวิตส่วนตัว และการอยู่ท่ามกลางเสียงเชียร์จากแฟนละครทั่วประเทศ ทำให้ทุกครั้งที่ทั้งคู่เผยสถานะความสัมพันธ์ มักจะกลายเป็นกระแสไปทั่วโซเชียลมีเดียทุกครั้ง ถ้ายังจำกันได้ ทั้งคู่เป็นผู้สร้างคำจำกัดความรูปแบบใหม่ ‘กัลยาณมิตร’ ที่ฉลาดตอบและให้ความหมายที่ดีของมิตรผู้คอยช่วยเหลือกันอย่างจริงใจ
ก่อนหน้านี้ การที่ทั้งคู่ไม่เปิดเผยสถานะความสัมพันธ์ ก็ไม่ต่างอะไรกับสูตรลับที่ร้านอาหารไม่เคยเปิดเผย แบรนด์ที่เก็บความลับไว้เพื่อแตกต่างจากคู่แข่ง ขณะเดียวกันมันก็สร้างความอยากรู้และอยากติดตามไปเรื่อยๆ และแม้ว่าทั้งคู่จะออกมาให้สัมภาษณ์เกี่ยวกับสถานะที่ชัดเจนขึ้นเรื่อยๆ แต่ภาพส่วนตัวที่แสดงให้เห็นความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นแบบคู่รักก็เรียกว่าไม่ค่อยได้เห็นบ่อยๆ ถ้าเปรียบเทียบกับคู่รักดาราคู่อื่นๆ
นอกจากนี้ยังน่าสนใจว่าการออกมาให้สัมภาษณ์เกี่ยวกับระดับความสัมพันธ์ทุกครั้ง ยิ่งเป็นการตอกย้ำแบรนด์ด้วยทัศนคติเชิงบวก ให้เกียรติซึ่งกันและกัน นั่นทำให้กองเชียร์ #ณเดชน์ญาญ่า จึงเพิ่มขึ้นมากตามไปด้วย
“เราไม่ได้ปิดอะไรนะ ทำตัวปกติมาตลอด ผมทำงานกับน้องบ่อย เป็นผู้หญิงคนหนึ่งที่พิเศษที่สุดครับ”
“พี่เขาเป็นกัลยาณมิตรที่ดีค่ะ”
– ณเดชน์ ญาญ่า ให้สัมภาษณ์คู่หลังลงภาพไปดินเนอร์ช่วงวาเลนไทน์ 2558
“คงไม่ได้ถือหมอนในงานบวชแน่นอน เพราะเป็นแค่กัลยาณมิตรกันเท่านั้น” ญาญ่า ให้สัมภาษณ์สื่อ ก่อนที่ณเดชน์จะอุปสมบท ปี 2558
“ก็ถ้าพูดตรงๆ ก็รักเขาแหละครับ ความรักมีหลายรูปแบบ อย่างไรก็ตามคนที่ทำงานด้วยกัน รู้จักกันมา ผ่านอะไรด้วยกันมา มันเป็นเรื่องความรักอยู่แล้วครับ”
“จริงๆ อย่างที่พี่ณเดชน์บอก เราทั้งคู่ผ่านอะไรมาเยอะมาก ไม่ว่าอย่างไรคนคนนี้ก็จะเป็นคนที่สำคัญที่สุดสำหรับหนูอยู่แล้วค่ะ”
ณเดชน์ ญาญ่า ให้สัมภาษณ์สื่อเดือนมีนาคม 2561
ภาพ:@kugimiyas, @Urassayas / Instagram
พื้นฐานครอบครัว ตัวตนที่น่ารักอย่างจริงใจ
ใครก็ตามที่เคยได้ร่วมงาน หรือใกล้ชิดกับณเดชน์ ญาญ่า คงจะรู้ดีว่าทั้งคู่เป็นคนที่น่ารักและอยู่ในโทนของความสว่างไสว อารมณ์ดี ตั้งใจทำงาน ช่วงนอกเวลางานเรายังเห็นณเดชน์ ญาญ่า ใช้ชีวิตเหมือนคนปกติทั่วไป ออกกำลังกาย ไปทำบุญ กินอาหารนอกบ้าน ใช้เวลากับครอบครัวได้อย่างน่าเอาเป็นแบบอย่าง ซึ่งตัวตนที่น่ารักอย่างจริงใจ สะท้อนผ่านพื้นฐานครอบครัวที่ได้รับการเลี้ยงดูมาเป็นอย่างดี
ที่ผ่านมาเราจะเห็นข่าวว่าทั้งณเดชน์และญาญ่าใช้ชีวิตธรรมดา ทั้งขึ้นรถไฟฟ้าอย่างไม่ถือตัว หรือล่าสุดช่วงโควิด-19 ต้นไม้ที่ญาญ่าถ่ายรูปลงอินสตาแกรมก็ขายดิบขายดี ส่วนณเดชน์ก็ยังมาตอบคำถามแฟนๆ ผ่านอินสตาแกรมที่แสดงให้เห็นความเป็นคนตลกของเขา ซึ่งเป็นเสน่ห์ที่ทำให้ณเดชน์ยังคงเป็นที่รักในวงกว้าง ประกอบกับการวางตัวในวงการบันเทิงโดยไม่เคยมีข่าวเสียหาย ซ้ำข่าวหลายๆ ครั้งก็เป็นไปในทางที่ทำให้เห็นว่า ณเดชน์ ญาญ่า คือพระเอกนางเอกตัวจริงที่ใครๆ ก็รัก
ย้อนไปช่วงปี 2561 ภาพยนตร์นาคีเข้าฉาย ระหว่างงานเปิดตัวภาพยนตร์ อี๊ด โปงลาง ที่กำลังถูกตะโกนให้ลงจากเวที เพื่อที่นักข่าวจะถ่ายรูปนักแสดงนำ ณเดชน์ คูกิมิยะ ก็ได้แสดงน้ำใจที่ทำให้อี๊ด โปงลาง ประทับใจ
“เขาเรียกพระเอกตัวจริง ไม่แปลกใจทำไมคนถึงรักน้องแบรี่ วันก่อนเปิดตัวหนังเรื่องนาคี ช่วงถ่ายรูปร่วมกันบนเวทีก็จะมีนักแสดง 7 คนยืนรวมกัน นักข่าวช่างภาพต่างคนก็ต่างแย่งพื้นที่เพื่อให้ได้ภาพที่ดีที่สุด ขณะที่กำลังชุลมุน ช่างภาพคนหนึ่งตะโกนเสียงดังขึ้นมาบนเวที ‘ขอถ่ายแค่ 5 คนครับ 2 คนให้ขยับออกไป’ 2 คนหมายถึงผมกับพี่ปอยฝ้าย ผม 2 คนก็ขยับออกโดยไม่คิดอะไร แล้วก็มีเสียงตอบกลับไปจากน้องณเดชน์ว่า ‘ไม่เป็นไรครับพี่ พวกผมมาด้วยกัน’ แล้วก็เอามือมากอดที่เอวผม และพาเข้ามายืนถ่ายรูปในแถวต่อไป
“ลงจากเวทีผมกับพี่ปอยฝ้ายเราคุยกัน เราก็เข้าใจช่างภาพไม่คิดอะไรมาก แต่สิ่งที่ประทับใจคือ น้องณเดชน์ทำให้เรารู้สึกว่า เขาให้ความสำคัญในเรื่องเล็กน้อยกับคนรอบข้าง”
เคยมีคำกล่าวที่ว่า การเดินเข้าวงการบันเทิง อาจไม่ยากเท่าการรักษาตัวตนและมาตรฐานของตัวเองเอาไว้ ยิ่งไปกว่านั้น ในแต่ละก้าวเดินที่แสงไฟและความสนใจสาดส่อง ยิ่งเพิ่มความกดดันเอาไว้บนบ่า วันหนึ่งข้างหน้าจะเป็นอย่างไรไม่มีใครอาจรู้ได้ แต่ถ้าถามถึงประวัติศาสตร์คู่ขวัญของวงการบันเทิงไทยในช่วงสิบปีที่ผ่านมา ณเดชน์ ญาญ่า น่าจะเป็นคู่ขวัญที่คนไทยทั้งประเทศรักและเอาใจช่วยที่สุดแล้ว
พิสูจน์อักษร: ลักษณ์นารา พักตร์เพียงจันทร์
อ้างอิง:
- pantip.com/topic/31490314
- topicstock.pantip.com/chalermthai/topicstock/2010/11/A9974956/A9974956.html?fbclid=IwAR3B7CmsWipH0X6sOGzKQghq1nPtViuB9SVUty65sdLMLgI6XsSEjqox7j4
- www.facebook.com/media/set/?set=a.259804710844305.1073742014.227195130771930&type=3
- www.thairath.co.th/entertain/news/1400202