วันนี้ (24 เมษายน) อภิรมย์ สุขประเสริฐ ผู้จัดการธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) กล่าวว่า ทางธนาคารแห่งประเทศไทยดำเนินการมาตรการเลื่อนกำหนดการชำระหนี้และการสนับสนุนสินเชื่อใหม่ (Soft Loan) เพื่อช่วยเหลือผู้ประกอบการที่ได้รับผลกระทบทั้งทางตรงและทางอ้อมจากการระบาดของโควิด-19 และปัญหาอื่นๆ ให้มีเงินทุนหมุนเวียน เสริมสภาพคล่องในการดำเนินธุรกิจ ช่วยรักษาระดับการจ้างงาน และเป็นแรงขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ โดย ธ.ก.ส. พร้อมให้ความช่วยเหลือผ่านมาตรการ ดังนี้
- มาตรการพักชำระหนี้ธุรกิจ SMEs โดยพักชำระหนี้ต้นเงินและดอกเบี้ย 6 เดือน ตั้งแต่เดือนเมษายนถึงกันยายน 2563 แบบอัตโนมัติทุกราย ให้กับลูกค้า SMEs และ SMEs เกษตร ของ ธ.ก.ส. ได้แก่ เกษตรกร บุคคล ผู้ประกอบการ (นิติบุคคล) กลุ่มเกษตรกร วิสาหกิจชุมชน กองทุนหมู่บ้านหรือชุมชน และสหกรณ์ภาคการเกษตร ที่ประกอบธุรกิจในกระบวนการรวบรวม การแปรรูป การตลาด และการบริการที่ประกอบธุรกิจในประเทศไทย
ทั้งนี้ ลูกค้าต้องมีสถานะหนี้ไม่เป็น NPLs ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2562 และมีวงเงินกู้รวมไม่เกิน 100 ล้านบาท ซึ่งผู้ค้ำประกันไม่ต้องลงนามสัญญา อีกทั้งลูกหนี้ที่ได้รับสิทธิ์จะไม่ถูกรายงานเครดิตบูโรเป็น NPLs ทั้งนี้ หากลูกหนี้ประสงค์ชำระค่างวดในช่วงของการพักชำระหนี้ ไม่ถือว่าลูกหนี้สละสิทธิ์ในการร่วมโครงการ โดย ธ.ก.ส. ยังคืนดอกเบี้ยให้ร้อยละ 10 ของเงินที่ส่งชำระ (Cash Back)
- มาตรการสนับสนุนสินเชื่อธุรกิจ SMEs เพื่อเสริมสภาพคล่องให้แก่ผู้ประกอบการที่ประสบปัญหาสภาพคล่องในการดำเนินธุรกิจในอัตราดอกเบี้ย 2% ต่อปี เป็นระยะเวลา 2 ปี ปลอดชำระคืนดอกเบี้ยในช่วง 6 เดือนแรก วงเงินกู้สูงสุดไม่เกินร้อยละ 20 ของยอดหนี้คงค้าง ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2562 และมีวงเงินกู้รวมไม่เกิน 500 ล้านบาท โดยไม่เรียกหลักประกันเพิ่ม
ทั้งนี้ สินเชื่อธุรกิจทุกประเภทสามารถใช้บริการตามมาตรการดังกล่าว ยกเว้นวงเงินหนังสือค้ำประกัน วงเงิน A-Cash บัตรเกษตรสุขใจ บุคลากรภาครัฐ สินเชื่อเพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิต และสินเชื่อรายย่อยอื่นๆ
พิสูจน์อักษร: ภาวิกา ขันติศรีสกุล