ผู้ประท้วงจำนวนมากรวมตัวกันบนถนนในหลายรัฐทั่วสหรัฐฯ เพื่อเรียกร้องให้ผู้ว่าการรัฐเปิดเศรษฐกิจ หลังชัตดาวน์ไปเพื่อชะลอการระบาดของโควิด-19
การชุมนุมประท้วงเมื่อวานนี้จัดขึ้นในรัฐแอริโซนา, โคโลราโด, มอนแทนา และวอชิงตัน โดยประชาชนจำนวนมากต้องการให้รัฐบาลผ่อนปรนมาตรการล็อกดาวน์ ถึงแม้มีความเสี่ยงว่าไวรัสนี้อาจระบาดซ้ำอีกระลอกหากเปิดเศรษฐกิจเร็วเกินไป
ปัจจุบันสหรัฐฯ เป็นศูนย์กลางการระบาดของโควิด-19 มีผู้ติดเชื้อสะสมมากกว่า 735,000 ราย และมีผู้เสียชีวิตแล้วราว 40,000 ราย แต่มีสัญญาณว่าการระบาดได้ผ่านพ้นจุดสูงสุดแล้ว เนื่องจากอัตราการติดเชื้อเริ่มชะลอลงในหลายรัฐ ขณะที่ทรัมป์ก็แสดงท่าทีสนับสนุนให้ผ่อนคลายมาตรการความเข้มงวดเพื่อพลิกฟื้นเศรษฐกิจเช่นกัน
ผู้ว่าการรัฐในหลายมลรัฐได้เริ่มหารือเกี่ยวกับแผนเปิดเมืองอีกครั้ง หลังมีสัญญาณการชะลอตัวของการระบาด แต่ก็ยังมีอีกหลายรัฐที่ยังคงความเข้มงวดต่อไป โดย แอนดรูว์ คูโอโม ผู้ว่าการรัฐนิวยอร์ก ได้ประกาศในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมาว่ารัฐนิวยอร์กจะขยายมาตรการให้ประชาชนอยู่บ้านจนถึงวันที่ 15 พฤษภาคม
ด้านทรัมป์ได้แสดงท่าทีสนับสนุนการประท้วงมาตรการล็อกดาวน์ที่เข้มงวด โดยเมื่อวันศุกร์ที่แล้ว เขาระบุว่ามาตรการในมินนิโซตา มิชิแกน และเวอร์จิเนีย เข้มงวดเกินไป แม้เป็นสิ่งจำเป็นเพื่อควบคุมการระบาดของไวรัส
แต่ เจย์ อินส์ลี ผู้ว่าการรัฐวอชิงตัน เตือนว่าการออกโรงสนับสนุนการประท้วงของทรัมป์เป็นเรื่องอันตราย เปรียบเหมือนกับการส่งเสริมให้ประชาชนฝ่าฝืนกฎหมายของรัฐ
พิสูจน์อักษร: ภาสิณี เพิ่มพันธุ์พงศ์
อ้างอิง: