ผู้ชุบชีวิตยอดมนุษย์เกราะเหล็ก ทำให้ไอรอนแมนเป็นหัวหอกสำคัญในการเปิดจักรวาลซูเปอร์ฮีโร่มาร์เวล ก่อนที่ทิ้งท้ายด้วยประโยคคลาสสิก ‘รักนะ 3,000’ ที่กลายเป็นประโยคที่จะอยู่ในหัวใจของคนดูไปอีกนาน
โรเบิร์ต ดาวนีย์ จูเนียร์ เกิดเมื่อวันที่ 4 เมษายน 1965 เป็นลูกคนที่สองของ โรเบิร์ต ดาวนีย์ ซีเนียร์ นักแสดง ผู้กำกับ และนักสร้างภาพยนตร์ ที่ถ่ายทอดดีเอ็นเอแห่งภาพยนตร์ให้กับเขามาตั้งแต่เด็ก
โรเบิร์ตปรากฏตัวครั้งแรกในภาพยนตร์ของพ่อเรื่อง Pound (1970) ด้วยวัยเพียง 5 ขวบ ก่อนจะออกมาไล่ตามความฝันด้วยตัวเองในช่วงปลายยุค 80 หลังย้ายไปอยู่แคลิฟอร์เนีย และเริ่มต้นรับงานจากละครเวทีและซีรีส์ ก่อนจะเริ่มมามีชื่อเสียงในภาพยนตร์อย่าง Tuff Turf (1985), Weird Science (1985) และมาได้รับบทนำอย่างเต็มตัวใน The Pick-up Artist (1987) รวมทั้งบทวัยรุ่นร่ำรวยติดยาใน Less Than Zero (1987) ที่ยิ่งทำให้ชื่อของเขาโด่งดังมากขึ้น
หลังจากนั้นเขาก็ได้รับบทบาทสำคัญมากขึ้นเรื่อยๆ ทั้งใน Chances Are (1989), Air America (1990), Soapdish (1991) รวมไปถึง Chaplin (1992) ที่เขาต้องถ่ายทอดชีวประวัติของนักแสดงตลกระดับปูชนียบุคคลอย่าง ชาร์ลี แชปลิน ซึ่งโรเบิร์ตต้องทำการบ้านอย่างหนัก ทั้งฝึกเล่นไวโอลิน ตีเทนนิสด้วยมือซ้าย รวมถึงจ้างผู้เชี่ยวชาญด้านการเคลื่อนไหวมาช่วยเขาลอกเลียนแบบท่าทางของชาร์ลี และด้วยความทุ่มเทชนิดตีบทแตกกระจุยนี้ก็ทำให้เขาได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลออสการ์ในสาขานักแสดงนำชายยอดเยี่ยม
แต่ในขณะที่อาชีพการงานกำลังพุ่งทะยานขึ้น กราฟชีวิตของเขากลับพุ่งสวนทางด้วยพฤติกรรมส่วนตัวเรื่องการใช้แอลกอฮอล์และสารเสพติดที่เริ่มหนักข้อขึ้นในช่วงปี 1996-2001 จนเขาถูกจับกุมอยู่หลายครั้ง โทษฐานมีสารเสพติดอย่างเฮโรอีน โคเคน และกัญชาในครอบครอง
รวมถึงอีกหลายข้อหา เช่น บุกรุก พกพาอาวุธปืน ฯลฯ ที่ทำให้โรเบิร์ตต้องใช้ชีวิตเข้าออกระหว่างสถานีตำรวจ ศาล และสถานบำบัดนับครั้งไม่ถ้วน ส่งผลให้หลายโปรเจกต์ที่มีชื่อเขาอยู่ด้วยต้องเลื่อนกำหนดการหรือไม่ก็ถูกยกเลิกไปเลย
ณ จุดต่ำสุดในชีวิตทำให้เขาตัดสินใจเปลี่ยนแปลงตัวเองอย่างจริงจัง จนเมื่อการบำบัดครั้งสุดท้ายได้ผลตอบรับที่ดี โรเบิร์ตก็ได้มีโอกาสกลับสู่อ้อมแขนของวงการบันเทิงอีกครั้ง โดยเริ่มจากการรับบทนำในภาพยนตร์ฟอร์มเล็กอย่าง Kiss Kiss Bang Bang (2005), Zodiac (2007)
จนในปี 2008 เขาก็ได้มีโอกาสกลับมาแจ้งเกิดอีกครั้งจากการรับบทนำในภาพยนตร์ซูเปอร์ฮีโร่ฟอร์มยักษ์เรื่องแรกของค่าย Marvel Cinematic Universe อย่าง Iron Man ที่บุคลิกและความคิดของเขาและตัว โทนี สตาร์ก นั้นเข้ากันได้สุดๆ ทั้งการเป็นวัยรุ่นที่เคยประสบความสำเร็จสูงสุด มั่นใจในตัวเอง สู่จุดล้มเหลวจากพฤติกรรมที่ตัวเองเคยก่อ ประกอบกับความตั้งใจขั้นสูงสุดจนคนดูทั้งโลกเชื่อได้สนิทใจว่าโรเบิร์ต ดาวนีย์ จูเนียร์ และมหาเศรษฐีโทนี สตาร์ก คือคนเดียวกัน
นอกจากในจักรวาลมาร์เวล โรเบิร์ตยังมีผลงานที่พิสูจน์ความสามารถตัวเองอีกหลายเรื่อง เช่น Tropic Thunder (2008), Sherlock Holmes (2009) หรือ Due Date (2010) ผลงานล่าสุด Dolittle ที่ถอดชุดเกราะ เลิกต่อสู้กับวายร้าย แล้วหันไปพูดคุยกับบรรดาสัตว์ทั้งหลายแทน
โรเบิร์ตกลายเป็นนักแสดงตัวพ่อที่มีค่าตัวแพงที่สุดตามการจัดอันดับโดยนิตยสาร Forbes เมื่อปี 2013-2015 ที่ให้เขาอยู่ในอันดับที่ 2 ของลิสต์นักแสดงทำเงินสูงสุดตลอดกาล ซึ่งภาพยนตร์ของโรเบิร์ตสามารถทำเงินทั่วโลกได้รวมกว่า 1.44 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ