วันนี้ (19 มีนาคม) ณ จุดแถลงข่าว ชั้น 1 อาคารรัฐสภา สุชน ชาลีเครือ และ นิคม ไวยรัชพานิช อดีตประธานวุฒิสภา เป็นตัวแทนอดีตประธานรัฐสภา ซึ่งประกอบด้วย อาทิตย์ อุไรรัตน์ อดีตประธานรัฐสภา สนิท วรปัญญา ประสพสุข บุญเดช และ พล.อ. ธีรเดช มีเพียร อดีตประธานวุฒิสภา เข้าพบ ชวน หลีกภัย ประธานสภา โดยได้ยื่นข้อเสนอเพื่อหาทางออกให้ประเทศเกี่ยวกับสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 แก่ นพ.สุกิจ อัถโถปกรณ์ ที่ปรึกษาประธานสภาผู้แทนราษฎร เพื่อเสนอต่อประธานสภาผู้แทนราษฎร โดยได้เสนอให้หลอมรวมทุกพลังในชาติเพื่อรับมือวิกฤตการณ์รอบด้าน
ทั้งนี้ได้หารือกับอดีตประธานสภาผู้แทนราษฎรและอดีตประธานวุฒิสภาหลายท่าน ซึ่งมีความห่วงใยต่อสถานการณ์บ้านเมืองในขณะนี้ว่า เป็นปัญหาวิกฤตที่ต้องมีการร่วมมือ ร่วมใจ และเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน ในการพิจารณาหาแนวทางแก้ไขปัญหาจากทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องอย่างเร่งด่วนและเป็นเอกภาพ โดยมีความเชื่อมั่นในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข โดยรัฐสภายังคงสามารถเป็นที่พึ่ง ที่หวัง ที่สะท้อนปัญหา และที่แก้ไขปัญหาของประชาชนทั้งประเทศที่กำลังอยู่ในภาวะหวาดวิตกกังวล จึงพิจารณาเห็นพ้องต้องกันว่า ถึงเวลาอันสมควรแล้วที่จะต้องประกาศให้วิกฤตดังกล่าวเป็นวาระแห่งชาติ และต้องมีการออกแบบสร้างกลไก และมีการทำงานร่วมกันทุกภาคส่วนอย่างเร่งด่วน เพื่อหาทางออกให้กับประเทศ และนำพาประเทศชาติและประชาชนออกจากสถานการณ์อันเลวร้ายนี้ให้เร็วที่สุด จึงได้นำความห่วงใยต่อสถานการณ์ดังกล่าวหารือกับ ชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร เพื่อร่วมกันหาทางออกให้กับประเทศ
โดย ชวน หลีกภัย ได้เห็นด้วยกับหลักการในการใช้ระบบรัฐสภาเป็นกลไกในการแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของประชาชน และจะเสนอเรื่องนี้ต่อ วิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรีต่อไป โดย นพ.สุกิจ อัถโถปกรณ์ ได้รับข้อเสนอดังกล่าว เพื่อดำเนินการตามขั้นตอนต่อไป
สำหรับข้อเสนอที่สำคัญของอดีตประธานรัฐสภาทั้ง 6 คนคือ อยากเห็นการปิดประเทศ และเริ่มต้นกระบวนการจัดการโดยการนับหนึ่งใหม่ ทั้งนี้ความหมายของการปิดประเทศหมายถึง การวางมาตรการที่เข้มข้นขึ้น เช่น ห้ามต่างชาติเดินทางเข้ามาในประเทศไทย ขณะที่คนไทยที่จะเดินทางเข้าประเทศต้องได้รับการตรวจสอบที่เข้มข้น ขณะเดียวกันในประเทศสามารถเดินทางได้ แต่ต้องมีการเฝ้าระวังที่เข้มงวด เพื่อป้องกันการแพร่กระจายของเชื้อไวรัส
พิสูจน์อักษร: พรนภัส ชำนาญค้า