×

มัลลิกา มั่นใจโปร่งใสพอปมหน้ากากอนามัย ให้ทนายฟ้องอัจฉริยะ จนถึงที่สุด ลั่นคนทำงานต้องได้รับความเป็นธรรม

18.03.2020
  • LOADING...

วันนี้ (18 มีนาคม) เมื่อเวลา 11.45 น. มัลลิกา บุญมีตระกูล มหาสุข ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ตั้งโต๊ะแถลงข่าวชี้แจง กรณีการมอบอำนาจให้ทนายความดำเนินคดี 2 ข้อหาต่อ อัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ หรือที่อ้างว่าคือทนายอัจฉริยะ เกี่ยวกับความผิดเรื่องหมิ่นประมาท หมิ่นประมาทโดยการโฆษณา และพระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ หรือความผิดตามกฎหมายอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องต่อพนักงานสอบสวน ต่อศาลที่มีอำนาจ จนกว่าคดีจะถึงที่สุด จากการที่อัจฉริยะกล่าวหาให้ร้ายว่ามีที่ปรึกษารัฐมนตรีกระทรวงพาณิชย์เข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้องกับการส่งออกหน้ากากอนามัย

 

มัลลิกา กล่าวว่า ที่ตนเองไม่ได้ออกมาตอบโต้ตั้งแต่ต้น เนื่องจากอัจฉริยะไม่ได้ระบุชื่อใครแม้แต่ตอนไปยื่นเรื่องต่อรองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ แต่เพราะการพูดซ้ำหลายครั้งของอัจฉริยะ เมื่อรวบรวมแล้วพบว่าได้มีการพาดพิงถึงที่ปรึกษารัฐมนตรีซึ่งเป็นผู้หญิง โดยระบุบุคลิกทำให้คนเชื่อได้ว่าเป็นมัลลิกา ประกอบกับที่ปรึกษาซึ่งคณะรัฐมนตรีแต่งตั้งของกระทรวงนี้คือมัลลิกา ดังนั้น จึงต้องดำเนินการทางคดีอาญา 

 

ส่วนเรื่องการตรวจสอบของทนายอัจฉริยะนั้นถือเป็นเรื่องการตรวจสอบภาคประชาชน ไม่เกี่ยวกับเรื่องคดีความผิดต่อส่วนตน เพราะการทำหน้าที่ตรวจสอบก็สามารถทำได้ เพราะตนเองก็เคยทำมา แต่ถ้าหากว่าเรื่องที่กล่าวอ้างอิงถึงนั้นไม่เป็นความจริงก็ต้องรับผิดชอบ

 

มัลลิกากล่าวอีกว่า เพื่อให้สังคมสิ้นสงสัยจากความอึมครึม เพราะมีการกล่าวหาแต่ฝ่ายเดียว กระทบถึงการทำหน้าที่ของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ข้าราชการกระทรวงพาณิชย์ ทำให้ผู้คนมโน ผสมจินตนาการไปมากมายบนสังคมการสื่อสารออนไลน์ จึงใช้โอกาสนี้เรียนชี้แจงว่า 

 

1.ขอปฏิเสธ ว่าไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องการส่งออกหน้ากากอนามัย หรือกิจการใดของผู้ประกอบการเกี่ยวกับหน้ากากอนามัยทั้งสิ้น

 

2.ขอปฏิเสธ ว่าไม่รู้จัก ไม่มีความสัมพันธ์ ไม่ได้ผูกพัน ไม่ได้ใกล้ชิด ไม่ได้มีมิตรคนใดไปเกี่ยวข้องกับกิจการหน้ากากอนามัยของบริษัทใดทั้งสิ้น 

 

3.ในการทำหน้าที่ขออนุญาตตามระเบียบราชการนั้น จะมีคณะอนุกรรมการจากกรรมการกลางว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ (กกร.) มีทั้งตัวแทนองค์การอาหารและยา (อย.) ตัวแทนองค์การเภสัช ตัวแทนกรมการค้าภายใน และตัวแทนกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ เป็นผู้พิจารณาซึ่งเป็นองค์คณะ ฝ่ายข้าราชการการเมืองไม่สามารถเข้าไปแทรกแซงได้ จึงเป็นไปไม่ได้อย่างสิ้นเชิงที่จะมีส่วนเกี่ยวข้องตามที่พยายามยัดเยียดข้อกล่าวหา 

 

อย่างไรก็ตาม มัลลิกาเปิดเผยด้วยว่า ตนเองยินดีให้ความร่วมมือในการตรวจสอบภาคประชาชนทุกคน แม้แต่อัจฉริยะในฐานะภาคประชาชนนั้น เดินหน้าทำการตรวจสอบต่อไปอย่าได้หยุด แต่การตรวจสอบนั้นต้องรวบรวมข้อมูลหลักฐานให้ชัดเจนก่อนจะกล่าวหาผู้ใด เพราะการใช้คำพูด 2-3 คำให้ร้ายผู้อื่นโดยปราศจากความเป็นธรรมตั้งแต่ต้นเสียแล้วเช่นนี้ เราจะไปหาความเป็นธรรมให้กับประชาชนได้อย่างไร 

 

ดังนั้น จึงขอให้นำพยานหลักฐานทุกชนิดเข้าสู่กระบวนการสอบสวนของสำนักงานตำรวจแห่งชาติหรือทุกสำนักได้เลย เพราะตนก็เชื่อมั่นในกระบวนการยุติธรรมของประเทศ 

 

“ไม่ว่าจะเป็นการตรวจสอบใดๆ ในเรื่องนี้ หรือตรวจสอบผู้อื่นที่ทำผิดกฎหมายด้วยการกักตุนสินค้าควบคุม โดยเฉพาะรายที่มีหลักฐานชัดเจนผ่านตามคลิปวิดีโอที่ถ่ายทอดสด Facebook Live จากโกดังต่างๆ นั้นก็อย่าให้เงียบหายไป ขอให้ทำการตรวจสอบอย่างเท่าเทียมกัน” มัลลิกา กล่าว

 

มัลลิกา ยังกล่าวต่ออีกว่า สำหรับตน มัลลิกา บุญมีตระกูล มหาสุข เชื่อมั่นและเชื่อใจได้ เพราะการทำงานที่ผ่านมาก็ดำรงตำแหน่งข้าราชการการเมืองมาแล้วหลายครั้ง ทั้งเลขานุการรัฐมนตรี และที่ปรึกษารัฐมนตรี ผ่านการทำหน้าที่มาทั้งหมด 3 กระทรวงก็ไม่เคยมีความด่างพร้อย และตลอดเส้นทางการทำงานนั้น ได้ยึดหลักความซื่อสัตย์สุจริตเสมอมา หลักการนี้มันอยู่ที่จิตสำนึก มโนสำนึก ไม่ได้อยู่ในบุคลิกหน้าตา มัลลิกาเป็นมนุษย์ทำงาน จึงมุ่งมั่นทำงาน ขอให้กำลังใจมนุษย์ทำงานทุกคน มนุษย์ทำงานต้องได้รับความเป็นธรรม

 

ในภาวะวิกฤตนี้ ทุกคนต่างมีงาน มีหน้าที่ มีความรับผิดชอบ ทั้งข้าราชการกระทรวงพาณิชย์และฝ่ายบริหาร ทุกคนต่างก็มุ่งมั่นทำงานในภาวะวิกฤต และตลอดเดือนกว่ามานี้หลายคนต้องอดตาหลับขับตานอน โดยเฉพาะข้าราชการที่กรมการค้าภายใน กระทรวงพาณิชย์ ต้องทำงานแก้ไขปัญหาทุกวินาทีที่เขาหายใจ ซึ่งอาจจะไม่สามารถทำให้ถูกใจทุกคนได้ เพราะปัจจุบันนี้ภาระหน้าที่ซึ่งอยู่ตรงหน้าเป็นวิกฤตระดับโลก แต่ทุกคนก็สู้สุดใจในการแก้ไขปัญหาให้ประชาชนจนสุดกำลังความสามารถ

 

 

พิสูจน์อักษร: ลักษณ์นารา พักตร์เพียงจันทร์

  • LOADING...

READ MORE




Latest Stories

Close Advertising