วันนี้ (5 มีนาคม) ธณิกานต์ พรพงษาโรจน์ ส.ส. กทม. บางซื่อ-ดุสิต พรรคพลังประชารัฐ ในฐานะประธานคณะอนุกรรมาธิการการสร้างเสริมการมีส่วนร่วมของเยาวชน ตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ. 2560 กล่าวถึงกรณีที่เยาวชนออกมาร่วมชุมนุมเพื่อแสดงความคิดเห็นทางการเมืองหรือแฟลชม็อบในช่วงนี้ว่า เห็นด้วยในการแสดงความคิดเห็นของเยาวชนเพื่อการมีส่วนร่วมทางการเมืองในฐานะเจ้าของและอนาคตของประเทศ โดยเฉพาะประเด็นเกี่ยวกับรัฐธรรมนูญซึ่งเป็นเรื่องสำคัญ แต่สุขภาพของเยาวชนก็สำคัญไม่แพ้กัน ซึ่งในช่วงเดือนมีนาคมนี้เป็นช่วงของการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโรคโควิด-19 การไปในสถานที่ที่มีคนหนาแน่นและแออัดจะทำให้มีความเสี่ยงที่จะติดเชื้อดังกล่าว ซึ่งเยาวชนควรหลีกเลี่ยงเพื่อดูแลรักษาสุขภาพของตนเองและส่วนรวม ดังนั้นจึงขอเสนอทางเลือกที่ปลอดภัยต่อสุขภาพเยาวชน และส่งเสริมให้เยาวชนมีส่วนร่วมแสดงความคิดเห็นทางการเมือง โดยแสดงความคิดเห็นผ่านช่องทางโซเชียลมีเดียของรัฐสภา
ธณิกานต์กล่าวว่า ในส่วนของคณะอนุกรรมาธิการฯ เรามีเวทีที่เปิดโอกาสให้กับเยาวชนในการนำเสนอความคิดเห็นในเชิงสร้างสรรค์อย่างต่อเนื่องผ่านโครงการ Active Tech Citizen เยาวชนคนรุ่นเปลี่ยน เปิดรัฐสภาเป็นเวทีรับฟังและให้ผู้เกี่ยวข้องทั้งฝ่ายบริหารและฝ่ายนิติบัญญัติร่วมแชร์ไอเดียกับเยาวชนเพื่อนำไปสู่การต่อยอดปฏิบัติได้อย่างเป็นรูปธรรม และกำลังจะเปิดเวทีเพิ่มสำหรับเยาวชนเพื่อให้ครอบคลุมมากที่สุด
“นอกจากนี้ในฐานะรองประธานกรรมาธิการการพัฒนาการเมือง การสื่อสารมวลชน และการมีส่วนร่วมของประชาชน ยังได้นำวาระเร่งด่วนเรื่องแฟลชม็อบเข้าพิจารณาในที่ประชุมกรรมาธิการฯ เพื่อเพิ่มเวทีของรัฐสภาสู่กระบวนการรับฟัง ให้เยาวชนมีส่วนร่วมเสนอไอเดียในการพัฒนาประเทศชาติที่นำสู่การปฏิบัติได้จริง ซึ่งที่ประชุมมีมติให้เชิญฝ่ายบริหารที่มีส่วนเกี่ยวข้อง ได้แก่ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุดมศึกษาฯ พร้อมกับตัวแทนผู้บริหารสถานศึกษา เข้าร่วมหารือในแนวทางนโยบายต่อการมีส่วนร่วมทางการเมืองภาคเยาวชนและตัวแทนเยาวชน นักเรียน นิสิต นักศึกษา เข้าหารือและเสนอไอเดียในการพัฒนาการเมืองและประเทศไทยร่วมกัน โดยเยาวชนที่สนใจเข้าร่วมสามารถแจ้งความประสงค์ผ่านช่องทางออนไลน์ โดยเข้าไปที่เฟซบุ๊กกรรมาธิการการพัฒนาการเมืองฯ สภาผู้แทนราษฎร ซึ่งจะจัดนัดแรกในวันพุธที่ 11 มีนาคม เวลา 13.00 น. คณะกรรมาธิการการพัฒนาการเมืองฯ อาคารรัฐสภา” ธณิกานต์กล่าว
“จะเห็นได้ว่ามีช่องที่จะได้แสดงความคิดเห็นอย่างเป็นระบบและมีแผนรองรับแนวคิดต่างๆ ของเยาวชน เพื่อนำไปสู่การปฏิบัติอย่างมีประสิทธิภาพและเห็นผลมากกว่า อีกทั้งยังปลอดภัยต่อสุขภาพของเยาวชนและส่วนรวม ลดความเสี่ยงการแพร่กระจายโรคโควิด-19 ดังนั้นจึงขอเชิญชวนน้องๆ เยาวชนเข้าร่วมโครงการนี้เพื่อแก้ไขปัญหาให้ตรงจุด” ธณิกานต์กล่าวทิ้งท้าย