วันนี้ (4 มีนาคม) ธวัช เบญจาทิกุล อธิบดีกรมพัฒนาฝีมือแรงงาน (กพร.) กระทรวงแรงงาน เปิดเผยว่า ทหารกองประจำการเป็นกำลังสำคัญในงานด้านความมั่นคง ตลอดจนการช่วยเหลือประชาชนและพัฒนาประเทศในหลากหลายมิติ อาทิ การช่วยเหลือภัยพิบัติ งานอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ ทหารที่ปลดจากกองประจำการจะกลับสู่ภูมิลำเนาไปใช้ชีวิตประกอบสัมมาอาชีพตามที่ตนเองต้องการ การเพิ่มทักษะด้านอาชีพให้แก่ทหารกลุ่มนี้จึงเป็นการเพิ่มโอกาสในการประกอบอาชีพอิสระ หรือสมัครเข้าทำงานในสถานประกอบกิจการ กพร. จึงมีแผนพัฒนาทักษะฝีมือภายใต้โครงการฝึกอบรมแรงงานกลุ่มเป้าหมายเฉพาะ เพื่อเพิ่มโอกาสในการประกอบอาชีพให้แก่ทหารก่อนปลดประจำการ โดยในปี 2563 มีเป้าหมายดำเนินการจำนวน 2,040 คน กระจายเป้าหมายการฝึกไปทุกจังหวัดทั่วประเทศ เพื่อให้ได้รับโอกาสในการฝึกทักษะอาชีพอย่างทั่วถึง ครอบคลุมทุกพื้นที่ ซึ่งการดำเนินการดังกล่าวเป็นไปตามนโยบายของ ม.ร.ว.จัตุมงคล โสณกุล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ที่ต้องการให้พัฒนาทักษะแรงงานให้พร้อมรับการเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยี และยกระดับคุณภาพชีวิตแรงงานให้ดีขึ้น
ธวัชกล่าวต่อไปว่า ปัจจุบันมีการฝึกทหารก่อนปลดประจำการแล้วในหลายจังหวัด อาทิ สถาบันพัฒนาฝีมือแรงงาน 9 พิษณุโลก (สพร.9 พิษณุโลก) ร่วมกับกองบัญชาการ กองทัพน้อยที่ 3 ฝึกอาชีพเสริมช่างซ่อมบำรุงรักษาเครื่องปรับอากาศขนาดเล็ก จำนวน 28 นาย ระหว่างวันที่ 24-28 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ณ กองร้อยกองบัญชาการ กองทัพน้อยที่ 3 ค่ายสมเด็จพระเอกาทศรถ อำเภอเมือง จังหวัดพิษณุโลก สำหรับ สพร.19 เชียงใหม่ มีกำหนดฝึกช่างก่ออิฐ-ฉาบปูน ระหว่างวันที่ 9-13 มีนาคมนี้ ให้ทหารกองการสัตว์และเกษตรที่ 3 จำนวน 30 นาย
สำนักงานพัฒนาฝีมือแรงงานนครพนม (สนพ.นครพนม) มีแผนฝึกเสริมทักษะทหารก่อนปลดประจำการในเดือนมีนาคม 2563 จำนวน 3 รุ่น รวม 164 นาย ได้แก่ เทคนิคการติดตั้งและบำรุงรักษาระบบเซลล์แสงอาทิตย์ จำนวน 54 นาย การตัดผมชายเบื้องต้น จำนวน 55 นาย ช่างเครื่องปรับอากาศภายในบ้านและการพาณิชย์ขนาดเล็ก จำนวน 55 นาย ฝึกอบรมพร้อมกันระหว่างวันที่ 9-13 มีนาคม 2563 ณ มลฑลทหารบกที่ 210 ค่ายพระยอดเมืองขวาง จังหวัดนครพนม และ สนพ.ประจวบคีรีขันธ์ มีกำหนดฝึกช่างบำรุงรักษาเครื่องปรับอากาศ ช่างเชื่อมไฟฟ้า และช่างซ่อมรถจักรยานยนต์ รวม 60 นาย ระหว่างวันที่ 16-20 มีนาคมนี้ ณ สพน.ประจวบคีรีขันธ์ นอกจากนี้ กพร. ยังประสานกรมการจัดหางานแนะแนวอาชีพพร้อมแจ้งข้อมูลตำแหน่งงานว่าง รวมถึงประสานสถานประกอบกิจการที่ประสงค์รับแรงงานใหม่เข้าทำงาน เพื่อให้ทหารที่ผ่านการอบรมมีงานทำทันทีหลังการฝึกเสร็จสิ้น
“การดำเนินโครงการดังกล่าวเพื่อเพิ่มทักษะทหารที่จะปลดประจำการ สามารถนำความรู้ไปประกอบอาชีพและมีรายได้ดูแลตนเองและครอบครัว พร้อมที่จะกลับไปเป็นส่วนหนึ่งในการพัฒนาท้องถิ่นต่อไป” ธวัชกล่าวในที่สุด
พิสูจน์อักษร: พรนภัส ชำนาญค้า