วันนี้ (3 กุมภาพันธ์) เว็บไซต์ AirVisual รายงานสถานการณ์ฝุ่นรอบโลกฉบับเรียลไทม์ (ช่วงเวลา 08.00 น.) พบว่า ผลการจัดอันดับค่าฝุ่นรอบโลกของประเทศไทย เฉพาะเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑล มีปริมาณฝุ่นแบบภาพรวมที่ 177 US AQI ส่วนปริมาณฝุ่น PM2.5 มีค่าเฉลี่ยที่ 106.4 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ส่งผลให้ประเทศไทยถูกจัดอยู่อันดับที่ 6 ประเทศที่มีฝุ่นเยอะที่สุดในโลก
ส่วนสาเหตุที่ฝุ่นก่อตัวเยอะขึ้น กรมอุตุนิยมวิทยารายงานว่า หลายพื้นที่ในกรุงเทพมหานครและปริมณฑล มีการจราจรที่หนาเน่นในช่วงเช้า ประกอบกับสภาพอากาศที่ค่อนข้างปิด และลมสงบตลอดทั้งคืน ทำให้ฝุ่นไม่กระจายตัวจนเกิดการสะสมของฝุ่นละอองและหมอกควันเพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัดในช่วงนี้
นอกจากนี้ หากจำแนกเป็นพื้นที่ต่างๆ ทั่วเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑลจะพบว่า ฝุ่น PM2.5 มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นมากเมื่อเทียบกับเมื่อวานในช่วงเวลาเดียวกัน โดยมีพื้นที่ค่าฝุ่น PM2.5 เกินมาตรฐาน (เกิน 50 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร) 58 พื้นที่ และอยู่ในเกณฑ์ ‘คุณภาพปานกลาง’ ถึง ‘เริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพ’ โดยสามารถแบ่งเป็น 5 อันดับพื้นที่ที่พบค่าฝุ่นสูงได้ ดังนี้
1. ริมถนนลาดพร้าว ซอยลาดพร้าว 95 เขตวังทองหลาง (77)
แขวงทุ่งสองห้อง เขตหลักสี่
ตำบลปากน้ำ อำเภอเมือง จังหวัดสมุทรปราการ
2. ริมถนนลาดกระบัง เขตลาดกระบัง (76)
แขวงคลองเตย เขตคลองเตย
ริมถนนพหลโยธิน เขตบางเขน
3. ริมถนนสามเสน เขตพระนคร (75)
ริมถนนพระราม 3 เขตยานนาวา
4. ริมถนนนวมินทร์ แยกบางกะปิ เขตบางกะปิ (74)
เขตดอนเมือง
5. ริมถนนดินแดง เขตดินแดง (73)
อย่างไรก็ตาม กรมควบคุมมลพิษขอให้ประชาชนในพื้นที่ดังกล่าวควรเฝ้าระวังสุขภาพ และควรสวมหน้ากากอนามัยตลอดเวลาเมื่อทำกิจกรรมกลางแจ้ง พร้อมขอความร่วมมือประชาชนงดการเผาในที่โล่งทุกชนิด บำรุงรักษาเครื่องยนต์ไม่ให้เกิดควันดำ ใช้ระบบขนส่งสาธารณะทดแทนการใช้รถส่วนบุคคล ตรวจสอบและไม่ใช้รถขนส่งสาธารณะที่มีควันดำ และขอความร่วมมือสถานที่ก่อสร้างและโรงงานอุตสาหกรรม ควบคุมและลดการระบายฝุ่นและมลพิษทางอากาศด้วย
โดยประชาชนสามารถติดตามสถานการณ์คุณภาพอากาศแบบเรียลไทม์ได้ทางเว็บไซต์ AirVisual หรือทางแอปพลิเคชัน AirVisual ทั้งในระบบ Android และ iOS เพื่อตรวจสอบสถานการณ์ฝุ่นบริเวณนั้นๆ
พิสูจน์อักษร: ลักษณ์นารา พักตร์เพียงจันทร์