คงไม่เกินไปนักถ้าจะบอกว่า RuPaul’s Drag Race คือเวทีค้นหาซูเปอร์สตาร์มาประดับวงการแดร็กควีนที่ปังและอลังการที่สุดในจักรวาล
การันตีด้วยการออกอากาศยาวนานต่อเนื่องถึง 11 ซีซัน แฟนคลับเหนียวแน่น กวาดรางวัลจากเวทีประกวดนับไม่ถ้วน นักวิจารณ์หลายคนพูดเป็นเสียงเดียวกันว่านี่คือส่วนผสมสุดเพอร์เฟกต์ระหว่างเรียลิตี้แฟชั่นแสนดราม่า Project Runway และการแข่งขันเฟ้นหานางแบบหน้าใหม่สุดเคี่ยวอย่าง America’s Next Top Model ที่สามารถสร้างรอยยิ้ม เรียกน้ำตา พร้อมๆ ไปกับการสร้างพลังให้ชาว LGBTQ ทั่วโลกภูมิใจในสิ่งที่ตัวเองเป็น
RuPaul’s Drag Race ออกอากาศครั้งแรกเมื่อวันที่ 2 กุมภาพันธ์ 2009 ทางช่อง Logo TV ก่อนจะย้ายมาออกอากาศที่ VH1 ในปี 2017 อำนวยการสร้างโดย World of Wonder พร้อมได้ ‘คุณแม่’ แห่งศิลปินแดร็กระดับตำนานอย่าง รูพอล อองเดร ชาร์ลส์ มาเป็นผู้ดำเนินรายการและหัวหน้าคณะกรรมการ เพื่อเฟ้นหาผู้เข้าแข่งขันหน้าใหม่ที่มีคุณภาพ โดดเด่น คู่ควรกับตำแหน่งแดร็กควีนคนต่อไป
รูปแบบรายการโดยทั่วไปจะแบ่งออกเป็น 4 ช่วง ได้แก่ Mini Challenge ซึ่งแดร็กแต่ละคนต้องทำภารกิจสุดท้าทายที่แตกต่างกันไปในแต่ละสัปดาห์ ตั้งแต่ Photo Shoot ภายใต้เงื่อนไขสุดหิน ไปจนถึงล้อมวงพูดจิกกัดเพื่อนร่วมเกม และเก็บคะแนนไปสมทบในรอบถัดไป
Maxi Challenge ผู้เข้าแข่งขันจะได้รับโจทย์ในการออกแบบชุดที่ต้องใช้ทั้งความรู้ ความคิดสร้างสรรค์ ไปจนถึงทักษะด้านการตัดเย็บและแต่งหน้าทำผม ก่อนนำผลงานไปโชว์ในรอบ Runway ที่แดร็กทุกคนต่างงัดไม้เด็ดออกมาฟาดฟันกันอย่างดุเดือด
เพื่อเรียกคะแนนจากคณะกรรมการที่มาพร้อมกับคำวิจารณ์เผ็ดร้อน ตรงไปตรงมา โดยผู้ที่มีคะแนนรวมจากทุกรอบน้อยที่สุดสองคนจะต้องไปแข่งขันกันต่อในรอบ Lip Sync เพื่อตัดสินชี้ชะตา ซึ่งถ้าใครแพ้ต้องเตรียมพบกับคำว่า Sashay Away (ซาเช่อะเวย์) หรือเสียใจด้วยค่ะ คุณไม่ได้ไปต่อ แล้วกลับบ้านไป
