อุตสาหกรรมเครื่องดื่มเป็นหนึ่งในอุตสาหกรรมที่ใช้พลาสติกจำนวนมากในกระบวนการผลิต ดังเช่น Coca-Cola ยักษ์ใหญ่น้ำดำ ซึ่งแต่ละปีผลิตบรรจุภัณฑ์พลาสติกประมาณ 3 ล้านตัน หรือเฉลี่ย 2 แสนขวดต่อนาที
ในปี 2019 Coca-Cola ได้รับการจัดอันดับให้เป็นบริษัทผลิตพลาสติกขนาดใหญ่ที่มีมลพิษสูงที่สุดในโลก จากการตรวจสอบโดยแคมเปญ Break Free From Plastic โดยมียักษ์เครื่องดื่มที่ติดอันดับเช่นกัน คือ Nestle และ PepsiCo
หากจากเทรนด์ผู้บริโภคที่หันมาใส่ใจสิ่งแวดล้อมมากขึ้น ทำให้ Coca-Cola วางแผนที่จะใช้วัสดุรีไซเคิลร้อยละ 50 ของบรรจุภัณฑ์ภายในปี 2030
แต่ถึง Coca-Cola จะให้คำมั่นสัญญาว่า จะลดใช้พลาสติก รวมถึงรีไซเคิลมากขึ้น ก็ใช่ว่าจะเลิกผลิตพลาสติกแบบใช้ครั้งเดียวทิ้งไปเลย เพราะในงาน World Economic Forum (WEF) ซึ่งจัดขึ้นเมื่ออาทิตย์ก่อน เบียทริซ เปเรซ หัวหน้าฝ่ายความยั่งยืนของ Coca-Cola กล่าวว่า
“บริษัทไม่มีแผนที่จะยกเลิกการใช้ขวดพลาสติกแบบใช้ครั้งเดียว เพราะพลาสติกมีบทบาทสำคัญกับอนาคตและยอดขายของ Coca-Cola”
สาเหตุสำคัญเป็นเพราะลูกค้ายังต้องการขวดที่มีน้ำหนักเบาและสามารถนำกลับมาใช้ใหม่ได้ จุดนี้เองทำให้ Coca-Cola ไม่สามารถละทิ้งพลาสติกได้อย่างถาวร
หัวหน้าฝ่ายความยั่งยืนของ Coca-Cola ให้สัมภาษณ์กับ BBC ว่า การใช้วัสดุรีไซเคิลถือเป็นส่วนหนึ่งที่บริษัทจะร่วมแก้ไขปัญหาเรื่องสิ่งแวดล้อม สิ่งที่ Coca-Cola ต้องทำคือ ชี้ให้เห็นถึงโอกาสและดึงผู้บริโภคเข้ามาร่วมการเปลี่ยนแปลงนี้
แต่อย่างไรก็ตาม แม้ว่าผู้บริโภคจะโยนขวดพลาสติกลงในถังรีไซเคิล แต่ก็เป็นไปได้มากที่จะไม่กลับมาเป็นขวดพลาสติกใหม่อีกครั้ง เพราะมีสัดส่วนน้อยกว่า 10% ที่จะถูกนำกลับมาใช้ใหม่ ที่เหลือ หากไม่ลอยอยู่ในมหาสมุทร ก็อยู่ในหลุมฝังกลบ
พิสูจน์อักษร: ภาวิกา ขันติศรีสกุล
อ้างอิง: