“ทุกครั้งที่แม่อ่านจดหมายและไดอะรี แม่จะต้องเสียน้ำตา จดหมายที่อ่อนหวาน สวยงาม อบอวลไปด้วยกลิ่นอายอดีต รักครั้งแรกของแม่ถูกเก็บอยู่ในกล่องใบนี้”
ประโยคสั้นๆ ที่กลายเป็นจุดกำเนิดเรื่องราวที่อบอวลไปด้วยความรักจาก The Classic คนแรกของหัวใจ คนสุดท้ายของชีวิต (2003) ภาพยนตร์รักที่ ‘คลาสสิก’ สมชื่อของ กวักแจยง ผู้กำกับผู้สร้างจักรวาล ‘ยัยตัวร้าย’ My Sassy Girl (2001) แสดงนำโดย ซนเยจิน ราชินีเมโลดราม่าที่กำลังปลูกต้นรักข้ามพรมแดนกับ ‘สหายผู้กอง’ ในซีรีส์ Crash Landing on You บน Netflix
ล่าสุดกลิ่นอายความทรงจำเมื่อ 17 ปีก่อนกำลังจะถูกปัดฝุ่นกลับมาสร้างความประทับใจให้กับแฟนๆ อีกครั้งในชื่อ Classic Again จดหมาย สายฝน ร่มวิเศษ รับชมพร้อมกันได้ในโรงภาพยนตร์ วันที่ 6 กุมภาพันธ์นี้
Classic Again คือภาพยนตร์เวอร์ชันรีเมกฉบับภาษาไทยที่ว่าด้วยเรื่องราวของ โบต้า (รัญชน์รวี เอื้อกูลวราวัตร) นักศึกษาสาวที่แอบหลงรัก นน (สุทธิรักษ์ ทรัพย์วิจิตร) อยู่ข้างเดียว เพราะเพื่อนสนิทที่สุดของเธออย่าง ป๊อปปี้ (ชนนิกานต์ เนตรจุ้ย) ก็กำลังมีใจให้นนอยู่เช่นกัน โบต้าจึงทำได้แค่เฝ้ามองนนอยู่ห่างๆ เพียงเท่านั้น
แต่แล้ววันหนึ่งโบต้าก็ได้พบกับกล่องใบเก่าที่ ดาหลา (รัญชน์รวี เอื้อกูลวราวัตร) แม่ของเธอได้เก็บจดหมายที่บรรจุความทรงจำรักครั้งแรกของเธอกับ ขจร (ฐิติภูมิ เตชะอภัยคุณ) ที่ใกล้เคียงกับสิ่งที่โบต้ากำลังเจออยู่จนน่าตกใจเอาไว้
ความรักสามเส้าของคนสองรุ่นกลายเป็นจุดเริ่มต้นที่โบต้าค่อยๆ ได้ย้อนเวลากลับไปเรียนรู้ความสวยงาม ความเจ็บปวด และการยอมเสียสละเพื่อความรักของคนรุ่นแม่ กลายเป็นบทเรียนสำคัญที่เธอต้องกลับมาตอบคำถามตัวเองให้ได้ว่าจะตัดสินใจอย่างไรกับความสัมพันธ์อันแสนซับซ้อนที่เกิดขึ้นในครั้งนี้
สปอตไลต์ของเรื่อง Classic Again ถูกฉายไปที่ มิ้นท์-รัญชน์รวี เอื้อกูลวราวัตร นักแสดงดาวรุ่งจากช่อง 3 ที่เพิ่งมีผลงานละคร ข้ามสีทันดร มาหมาดๆ และมีโอกาสพิสูจน์ตัวเองอย่างต่อเนื่องบนจอภาพยนตร์ กับการรับบทเป็นทั้งโบต้าและดาหลา ตัวละครจากสองยุคที่แตกต่างกันทั้งยุคสมัยและคาแรกเตอร์ส่วนตัว
ซึ่งใน The Classic เวอร์ชันออริจินัลนับว่าเป็นผลงานแจ้งเกิดชิ้นสำคัญของซนเยจินที่ทำเอาไว้อย่างยอดเยี่ยมจนได้รับรางวัลใหญ่จากประเทศเกาหลี ทั้งนักแสดงนำหญิงหน้าใหม่ยอดเยี่ยมจาก Grand Bell Awards ครั้งที่ 40 และ Baeksang Arts Awards ครั้งที่ 39 รวมถึงรางวัลนักแสดงยอดนิยมจากเวที Blue Dragon Film Awards ครั้งที่ 24 อีกด้วย ก่อนที่จะถูกยกย่องให้เป็น ‘ราชินีเมโลดราม่า’ ของเกาหลีมาจนถึงทุกวันนี้
รวมทั้งการได้นักแสดงหนุ่ม นิว-ฐิติภูมิ เตชะอภัยคุณ ที่กำลังฮอตแบบสุดๆ จากซีรีส์ Dark Blue Kiss จูบสุดท้ายเพื่อนายคนเดียว มารับบทเป็น ขจร เด็กบ้านนอกที่ตกหลุมรักลูกสาวนักการเมืองใหญ่ที่เป็นคู่หมั้นของเพื่อนสนิทตัวเอง
โดยเป็นบทเดียวกับที่ โชซังวู ผู้รับบทเป็น จุนอา เด็กหนุ่มผู้ยอมเสียสละเพื่อคนรัก ที่หลายคนยังจำการถ่ายทอดอารมณ์ที่ทั้งอบอุ่น สวยงาม เจ็บปวด ที่เขาฝากเอาไว้ในเวอร์ชันต้นฉบับได้มาจนถึงทุกวันนี้
อีกหนึ่งความน่าสนใจที่แฟนๆ หลายคนอยากเห็นคือการตีความฉากประทับใจมากมายที่ทำให้หลายคนต้องยิ้มทั้งน้ำตาออกมาในบริบทของคนไทย ตั้งแต่การเปิดเรื่องด้วยฉากที่จีเฮเปิดหน้าต่างสีขาวเพื่อชมสายรุ้ง ก่อนที่ลมจะพัดจดหมายที่อยู่ในกล่องลับของแม่หล่นลงพื้น และกลายเป็นจุดเริ่มต้นของเรื่องราวทั้งหมด
ฉากตามหาด้วงขี้วัวของจุนฮาที่นำพาให้เขาได้มาพบกับรักแรกอย่างจูฮี, ฉากหิ่งห้อยยามค่ำคืนที่ถักทอความสัมพันธ์ของทั้งสองให้เหนียวแน่นมากขึ้น และการวิ่งฝ่าสายฝนที่มีเพียงเสื้อคลุมเป็นเครื่องกำบัง อีกหนึ่งฉากสำคัญที่ถูกยกให้เป็นหนึ่งในฉากสุด ‘คลาสสิก’ ตลอดกาลของวงการภาพยนตร์เกาหลี
โดยมี ธัชพงศ์ ศุภศรี ผู้กำกับหน้าใหม่ไฟแรงมารับหน้าที่ตีความและถ่ายทอดความสัมพันธ์ที่ทั้งซับซ้อนและสวยงามในรูปแบบของตัวเอง ที่เขาให้ความเห็นเอาไว้อย่างน่าสนใจว่า
“ทุกคนมีประสบการณ์รักครั้งแรกไม่เหมือนกัน เพราะฉะนั้นการได้กลับไปเปิดกล่องความทรงจำนั้นขึ้นมาอีกครั้งจะให้ความรู้สึกที่แตกต่างกันอย่างแน่นอน”
พิสูจน์อักษร: ภาสิณี เพิ่มพันธุ์พงศ์
อ้างอิง: