ห้วงเวลาแห่งความสูญเสียครั้งยิ่งใหญ่ของประชาชนไทยที่พสกนิกรไม่อยากให้มาถึงก็เริ่มขยับใกล้เข้าสู่หัวใจคนไทยแล้ว ‘เดือนตุลาคม’ คือห้วงเวลาแห่งพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร พระมหากษัตริย์ผู้ทรงเป็นที่รักยิ่งของพสกนิกรทุกหมู่เหล่า
งานจัดสร้างพระเมรุมาศ สิ่งปลูกสร้างประกอบพระเมรุมาศ และบูรณปฏิสังขรณ์ราชรถและพระยานมาศในงานพระราชพิธีครั้งนี้ รัฐบาลในฐานะผู้แทนประชาชนทุกหมู่เหล่าได้ดำเนินงานอย่างตั้งใจเพื่อเป็นการถวายพระเกียรติยศสูงสุดแด่พระองค์ท่าน
การจัดสร้างพระเมรุมาศและสิ่งปลูกสร้างประกอบคืบหน้าร้อยละ 98
พลเอก ธนะศักดิ์ ปฏิมาประกร รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานกรรมการฝ่ายจัดสร้างพระเมรุมาศ สิ่งปลูกสร้างประกอบพระเมรุมาศ และบูรณปฏิสังขรณ์ราชรถและพระยานมาศในงานพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ได้ลงพื้นที่มาโดยตลอดระยะเวลาการดำเนินงานเพื่อตรวจความคืบหน้า
และในห้วงเดือนตุลาคม สัปดาห์แรกแห่งการเริ่มต้นก็ได้ลงพื้นที่ ณ ท้องสนามหลวงอีกวาระหนึ่งท่ามกลางสายฝนที่โปรยปรายลงมาตลอดเวลา โดยมีนายอนันต์ ชูโชติ อธิบดีกรมศิลปากร รายงานความคืบหน้าการดำเนินงานดังนี้
งานก่อสร้างพระเมรุมาศและอาคารประกอบ ภาพรวมขณะนี้คืบหน้าร้อยละ 98 การก่อสร้างพระเมรุมาศคงเหลือการตกแต่งรายละเอียดพระจิตกาธานและงานติดตั้งพระวิสูตร ส่วนพระที่นั่งทรงธรรมและอาคารประกอบพื้นที่อื่นๆ ทั้งภายในและภายนอกมณฑลพิธีอยู่ระหว่างตกแต่งรายละเอียดขั้นสุดท้าย งานภูมิทัศน์บริเวณแปลงนาด้านหน้าดำเนินการแล้วเสร็จ แต่จะมีการตกแต่งรั้วไม้ไผ่เพื่อปลูกผักสวนครัวเพิ่มเติม และภายในเขตมณฑลพิธีอยู่ระหว่างการตกแต่งด้วยไม้กระถางและไม้ดอกไม้ประดับ
งานศิลปกรรมประกอบพระเมรุมาศ ได้แก่ งานประติมากรรมเทวดา เทพนม เทพชุมนุม ครุฑ คชสีห์ ราชสีห์ และสัตว์หิมพานต์ จัดทำแล้วเสร็จและติดตั้งบนพระเมรุมาศแล้วทั้งหมด รวมทั้งจิตรกรรมฉากบังเพลิงและจิตรกรรมโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ได้นำขึ้นติดตั้งตามตำแหน่งแล้วเช่นกัน
งานประณีตศิลป์ในพระราชพิธี ได้แก่ งานจัดสร้างพระโกศจันทน์และฟืนไม้จันทน์แล้วเสร็จ งานจัดสร้างพระโกศพระบรมอัฐิคืบหน้ารวมร้อยละ 89 อยู่ระหว่างการลงยาสีและประดับอัญมณี งานออกแบบและจัดทำเครื่องสังเค็ดคืบหน้ารวมร้อยละ 81
งานบูรณปฏิสังขรณ์ราชรถและพระยานมาศ รวมทั้งการจัดสร้างราชรถปืนใหญ่ และพระที่นั่งราเชนทรยานน้อยดำเนินการแล้วเสร็จทั้งหมด ซึ่งนายกรัฐมนตรีได้ไปเป็นประธานในพิธีบวงสรวงอัญเชิญราชรถเมื่อวันที่ 21 กันยายนที่ผ่านมา
เตรียมพร้อมพิธียกพระนพปฎลมหาเศวตฉัตร 18 ตุลาคมนี้
นายวีระ โรจน์พจนรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม ได้กล่าวถึงการประชุมหารือเตรียมการจัดพิธียกพระนพปฎลมหาเศวตฉัตรยอดพระเมรุมาศ งานพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร ในวันที่ 18 ตุลาคม 2560 ว่าได้เชิญหน่วยงานต่างๆ ได้แก่ สำนักพระราชวัง, สำนักเลขาธิการสำนักพระราชวัง, สำนักนายกรัฐมนตรี, กรุงเทพมหานคร, กรมประชาสัมพันธ์ และกองอำนวยการร่วมบริเวณท้องสนามหลวง (กอร.รส.) ร่วมหารือเพื่อให้การดำเนินงานเป็นไปด้วยความเรียบร้อยและสมพระเกียรติ
ซึ่งที่ประชุมได้หารือเกี่ยวกับการจัดสถานที่และการดำเนินงานที่เกี่ยวข้อง เช่น
การลำดับพิธีการ การรับรองผู้ร่วมพิธี การกำหนดเส้นทางเดินรถ การรักษาความปลอดภัย โดยให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องประสานการดำเนินงานตามที่ได้รับมอบหมายและรายงานผลให้ทราบในการประชุมครั้งต่อไป
เตรียมแผนอย่างรอบคอบ หากวันพระราชพิธีจริงมีฝนตก
พลเอก ธนะศักดิ์ ปฏิมาประกร รองนายกรัฐมนตรีเปิดเผยอีกว่า ในวันนี้จะได้เริ่มต้นการทดลองเรื่องระบบไฟ ซึ่งถือว่าโชคดีที่วันนี้ฝนตก เนื่องจากจะทำให้ทีมดำเนินงานทราบรายละเอียดว่าระหว่างที่ฝนตกแล้วเปิดไฟจะส่งผลกระทบหรือไม่ ส่วนในอนาคตจะมีการซักซ้อมกรณีเกิดไฟดับด้วย เพื่อไม่ให้เกิดความผิดพลาด
และหากในวันพระราชพิธีจริงเกิดเหตุการณ์ฝนตกก็มั่นใจว่าสภาพอาคารและระบบไฟฟ้าจะสามารถรองรับได้ นอกจากนี้ยังได้ติดตั้งสายล่อฟ้าไว้ทุกยอดของพระเมรุมาศและอาคารสิ่งปลูกสร้างประกอบแล้ว
ขณะที่พื้นโดยรอบพระเมรุมาศจะมีการบดอัดทรายลงไปเพื่อป้องกันกรณีเกิดน้ำขัง แต่เนื่องจากวันนี้มีฝนตกลงมา อาจทำให้การบดอัดมีความยากลำบาก
ส่วนการระบายของน้ำในกรณีที่เกิดฝนตก มีบางส่วนที่น้ำยังไม่ระบาย แต่เจ้าหน้าที่ได้ทำเครื่องหมายไว้ และเตรียมการรื้อเพื่อดำเนินการอัดดินใหม่ให้น้ำระบายตามช่องทางที่กำหนดไว้
ขณะที่ในช่วงนี้ถือเป็นช่วงที่ต้องถนอมสิ่งปลูกสร้างต่างๆ ทั้งส่วนที่ได้ติดตั้งไปแล้ว และส่วนที่นำกลับเข้ามาเก็บเพื่อตกแต่งเพิ่มเติมก่อนนำไปประกอบใหม่
“ภาพรวมไม่กังวลใจในส่วนใด ถือว่าประสบความสำเร็จตามเป้า โดยในวันที่ 12 และ 17 ตุลาคมจะมีการทดสอบระบบที่จะใช้ในพิธียกพระนพปฎลมหาเศวตฉัตรยอดพระเมรุมาศในวันที่ 18 ตุลาคม โดยจะยกพระนพปฎลมหาเศวตฉัตรยอดพระเมรุมาศซึ่งมีความสูง 5.10 เมตร จึงต้องมีระบบความปลอดภัยที่สูงเพิ่มขึ้น” พลเอก ธนะศักดิ์กล่าว
ขณะที่นั่งร้านบริเวณโดยรอบพระเมรุมาศ คาดว่าภายใน 3 วันจากนี้จะทำการรื้อให้เหลือเพียงแค่นั่งร้านที่จะใช้ในพิธียกพระนพปฎลมหาเศวตฉัตรเท่านั้น โดยเน้นย้ำเจ้าหน้าที่ว่า หากจะนำนั่งร้านส่วนใดลงต้องตรวจอย่างละเอียดจนมั่นใจว่าจะไม่ซ่อมเพิ่มเติม และภายหลังพิธียกพระนพปฎลมหาเศวตฉัตรในวันที่ 18 ตุลาคม ถัดจากนั้นอีก 3 วันจะดำเนินการนำนั่งร้านทั้งหมดลง
สุดภูมิใจที่ได้ถวายงานในหลวงรัชกาลที่ 9
รองนายกรัฐมนตรียังกล่าวถึงความรู้สึกในโอกาสที่การดำเนินงานใกล้เสร็จสิ้นว่า
“ภูมิใจและดีใจ เชื่อว่างานครั้งนี้ทำให้ทุกคนหายเหน็ดเหนื่อย หากไม่ได้ความทุ่มเทเสียสละคงไม่สำเร็จขึ้นมาได้ โดยเป็นความตั้งใจที่ทุกคนอยากทำถวายในหลวงรัชกาลที่ 9”
บุคคลสำคัญต่างประเทศแสดงความประสงค์เข้าร่วมพระราชพิธีจำนวนมาก
นอกจากนี้รองนายกรัฐมนตรียังเปิดเผยอีกว่า งานพระราชพิธีในครั้งนี้มีบุคคลสำคัญจากต่างประเทศได้แสดงความประสงค์ที่จะเข้าร่วมงานพระราชพิธีผ่านทางกระทรวงต่างประเทศหลายประเทศแล้ว ซึ่งจะสรุปจำนวนประเทศอีกครั้ง
เสาร์ที่ 7 ตุลาคม ซ้อมริ้วขบวนในสถานที่จริงครั้งแรก
ส่วนในวันเสาร์ที่ 7 ตุลาคม 2560 จะมีการซ้อมริ้วขบวนพระอิสริยยศ ณ สถานที่จริงในงานพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพ คาดว่าจะเริ่มดำเนินการตั้งแต่เวลา 4.00 น. หากยังติดขัดหรือยังมีจุดบกพร่อง คาดว่าจะดำเนินการซ้อมจนกว่าจะพอใจ และกำหนดจุดผิดพลาดเพื่อแก้ไขในการซ้อมครั้งต่อไป โดยราชรถและพระยานมาศพร้อมสำหรับการเคลื่อนออกเพื่อร่วมการฝึกซ้อมริ้วขบวนในสถานที่จริงครั้งแรกแล้ว