วันนี้ (10 มกราคม) เว็บไซต์ AirVisual รายงานสถานการณ์ฝุ่นรอบโลกฉบับเรียลไทม์ (ช่วงเวลา 08.00 น.) พบว่าผลการจัดอันดับค่าฝุ่นรอบโลกของประเทศไทย เฉพาะเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑลมีปริมาณฝุ่นแบบภาพรวมที่ 183 US AQI ส่วนปริมาณฝุ่น PM2.5 มีค่าเฉลี่ยที่ 117 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร
ซึ่งเป็นสาเหตุให้ไทยถูกยกให้เป็นพื้นที่ที่พบค่าฝุ่นสูงเป็นอันดับ 6 ของโลก ส่วนอันดับ 1 เป็นเมืองบิชเคก ประเทศคีร์กีซสถาน พบค่าฝุ่นที่ 258 US AQI เป็นปริมาณสูงที่สุดในโลกช่วงเวลานี้
ส่วนสาเหตุที่ฝุ่นก่อตัวเยอะขึ้นเกิดจากสภาพการจราจรหนาแน่นตั้งแต่ช่วงเช้า ส่งผลให้ฝุ่นละอองสะสมในหลายพื้นที่ ประกอบกับสภาพอากาศหลายพื้นที่ของกรุงเทพฯ มีลมสงบถึงลมอ่อนทั้งสัปดาห์ ทำให้ฝุ่นละอองสะสมและลอยตัวอยู่ในชั้นอากาศเพิ่มขึ้น
นอกจากนี้หากจำแนกเป็นพื้นที่ต่างๆ ทั่วเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑลจะพบว่ามีพื้นที่ค่าฝุ่น PM2.5 เกินมาตรฐาน (เกิน 50 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร) 62 พื้นที่ และอยู่ในเกณฑ์ ‘เริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพ’ ถึง ‘มีผลกระทบต่อสุขภาพ’ โดยสามารถแบ่งเป็น 5 พื้นที่ที่พบค่าฝุ่นสูงได้ดังนี้
- ตำบลมหาชัย อำเภอเมือง จังหวัดสมุทรสาคร (109)
- ริมถนนเพชรเกษม เขตภาษีเจริญ (101)
- ริมถนนซอยนิคมบ้านพันรถไฟธนบุรี 5 เขตบางกอกน้อย (97)
- ริมถนนพระรามที่ 2 เขตบางขุนเทียน (93)
- ริมถนนสามเสน เขตพระนคร (92)
อย่างไรก็ตาม กรมควบคุมมลพิษขอให้ประชาชนในพื้นที่ดังกล่าวควรเฝ้าระวังสุขภาพและควรสวมหน้ากากอนามัยตลอดเวลาเมื่อทำกิจกรรมกลางแจ้ง พร้อมขอความร่วมมือประชาชนงดการเผาในที่โล่งทุกชนิด บำรุงรักษาเครื่องยนต์ไม่ให้เกิดควันดำ ใช้ระบบขนส่งสาธารณะทดแทนการใช้รถส่วนบุคคล ตรวจสอบและไม่ใช้รถขนส่งสาธารณะที่มีควันดำ และขอความร่วมมือสถานที่ก่อสร้างและโรงงานอุตสาหกรรมควบคุมและลดการระบายฝุ่นและมลพิษทางอากาศด้วย
โดยประชาชนสามารถติดตามสถานการณ์คุณภาพอากาศแบบเรียลไทม์ได้ทางเว็บไซต์ AirVisual หรือทางแอปพลิเคชัน AirVisual ทั้งในระบบ Android และ iOS เพื่อตรวจสอบสถานการณ์ฝุ่นบริเวณนั้นๆ
พิสูจน์อักษร: ภาสิณี เพิ่มพันธุ์พงศ์