ดูเหมือนว่าโลกของกีฬาจะมีส่วนเกี่ยวข้องกับสถาบันการเมืองมากขึ้นอีกครั้ง ท่ามกลางความขัดแย้งของประเทศสเปนที่มีการออกเสียงลงประชามติเพื่อความเป็นอิสระจากสเปนในฐานะสาธารณรัฐกาตาลุญญา แม้ว่าศาลรัฐธรรมนูญของสเปนได้ตีความไว้ว่า แผนลงมติของกาตาลุญญาจะไม่มีผลทางกฎหมายเนื่องจากขัดต่อรัฐธรรมนูญอย่างชัดเจน แต่ทางแคว้นกาตาลุญญา ก็ยังเปิดโหวตตามปกติเมื่อวันที่ 1 ตุลาคมที่ผ่านมา ท่ามกลางแรงกดดันจากทางรัฐบาลประเทศสเปน
เช่นเดียวกับสโมสรฟุตบอลบาร์เซโลนา หนึ่งในสโมสรยักษ์ใหญ่ของ ลาลีกา สเปน และเป็นหนึ่งในสโมสรฟุตบอลที่มีชื่อเสียงมากที่สุดในโลก ซึ่งที่ผ่านมาได้เดินหน้าสนับสนุนการเปิดโหวต เพื่อความเป็นอิสระสำหรับประชาชนในการปกครองแบบประชาธิปไตย
วันที่ 1 ตุลาคมหลังจากการปะทะกันของกำลังตำรวจสเปนที่ต้องการยับยั้งไม่ให้มีการโหวตเกิดขึ้น ตัดภาพมาที่คัมป์นู สนามเหย้าของบาร์เซโลนา ทางทีมบาร์เซโลนาได้แสดงความประสงค์ที่จะไม่ลงสนามแข่งขันท่ามกลางความขัดแย้งที่เกิดขึ้น แต่ทางลาลีกา สเปน ก็ยืนยันว่าต้องลงแข่งขัน ไม่เช่นนั้นจะมีบทลงโทษ
25 นาทีก่อนทั้งสองทีมจะลงสนาม ทางบาร์เซโลนาจึงได้ตัดสินใจลงสนาม แต่มีข้อแม้ว่าจะไม่ให้แฟนบอลเข้าร่วมชมการแข่งขัน รวมถึงระหว่างที่ทีมเดินเข้าสนาม บาร์เซโลนาได้ใส่ชุดซ้อมสีเหลืองสลับแดง ซึ่งเป็นสีของธง Estelada สัญลักษณ์ที่เกี่ยวข้องกับการต่อสู้เพื่อผลักดันอิสรภาพให้กับแคว้นกาตาลุญญา
รวมถึงก่อนหน้านี้ เคราร์ด ปิเก้ กองหลังคนสำคัญของทีมยังได้โพสต์ข้อความบนทวิตเตอร์ เปิดเผยว่าเขาได้ไปโหวตออกเสียงลงประชามติเพื่อความเป็นอิสระจากสเปน ในฐานะสาธารณรัฐกาตาลุญญาเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
“ผมได้โหวตเรียบร้อยแล้ว และทุกคนที่รวมใจกัน จะไม่มีใครสามารถหยุดพวกเราในการปกป้องประชาธิปไตยได้”
Ja he votat. Junts som imparables defensant la democràcia. pic.twitter.com/mGXf7Qj1TM
— Gerard Piqué (@3gerardpique) October 1, 2017
แต่ในขณะเดียวกัน ลาส พัลมาส ทีมเยือนในเกมนี้ ก็ได้แสดงสัญลักษณ์สนับสนุนความเป็นชาติเดียวกันของสเปน โดยติดธงชาติสเปนไว้บนชุดแข่งในการลงสนามพบกับบาร์เซโลนาในเกมนี้
COMUNICADO OFICIAL
https://t.co/okzQAcyTj7 pic.twitter.com/5nt9GpjnwX— UD Las Palmas (@UDLP_Oficial) October 1, 2017
ซึ่งผลสุดท้ายก็เป็นบาร์เซโลนา ที่เอาชนะไปได้ 3-0 จาก 2 ประตูของลิโอเนล เมสซี และเซร์คิโอ บุสเก็ตส์
เคราร์ด ปิเก้ นักฟุตบอลที่กลายเป็นกำลังสำคัญของการโหวตครั้งนี้
เคราร์ด ปิเก้ ถือว่าเป็นนักฟุตบอลที่มีชื่อเสียงมากที่สุดคนหนึ่งในทีมบาร์เซโลนา แต่วันนี้เขาได้เลือกใช้ชื่อเสียงของเขาในการประกาศตัวสนับสนุนให้มีการเปิดโหวตออกเสียงลงประชามติเพื่อความเป็นอิสระจากสเปน ในฐานะสาธารณรัฐกาตาลุญญา แม้จะประกาศสนับสนุนให้เปิดโหวต แต่ปิเก้ก็ไม่ได้แสดงท่าทีว่าจะโหวตให้ออกหรืออยู่ต่อแต่อย่างใด
เมื่อวันพฤหัสที่ผ่านมา ปิเก้ได้โพสต์ข้อความลงทวิตเตอร์สนับสนุนว่า ในแคว้นกาตาลุญญา ทุกคนควรที่จะออกมาแสดงออกเชิงสัญลักษณ์อย่างสงบ พร้อมติดแฮชแท็ก #Votarem แปลว่า เราจะโหวต
แต่ผลกระทบที่ตามมาของการสนับสนุนการโหวต ทำให้แฟนบอลทีมชาติสเปนไม่พอใจ ขณะที่ เซร์คิโอ รามอส คู่หูกองหลังในทีมชาติสเปน ได้ทวีตตอบว่า อาจจะไม่ใช่สิ่งที่ดีที่สุดที่ปิเก้ควรจะทำ
โดยหลังจากจบการแข่งขันเมื่อวันที่ 1 ตุลาคมที่ผ่านมา ปิเก้ได้ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนทั้งน้ำตาว่า เขาอยากจะเกษียณจากทีมชาติก่อนฟุตบอลโลกรอบสุดท้าย ถ้าการที่เขาตัดสินใจสนับสนุนการโหวตครั้งนี้เป็นปัญหาต่อทุกคน
“ผมเป็นคนกาตาลุญญา ทุกคนมีสิทธิ์ที่จะโหวตออกหรือไม่ออก เราแค่ต้องการที่จะโหวต”
ผลกระทบต่อสโมสรฟุตบอลในรัฐกาตาลุญญาหากได้รับอิสรภาพจากสเปน
3 สโมสรใหญ่ในแคว้นประกอบไปด้วย บาร์เซโลนา เอสปันญอล และคิโรนา จะได้รับอิสรภาพเช่นกัน จากคำพูดของ เคราร์ด ฟิเกรัส รัฐมนตรีกระทรวงกีฬาของกาตาลุญญา ทั้ง 3 สโมสรจะสามารถตัดสินใจไปร่วมลีกใดก็ได้ รวมถึงพรีเมียร์ลีกอังกฤษ เปรียบเสมือนว่าทั้ง 3 ทีมจะกลายเป็นเหมือนนักเตะฟรีเอเจนต์
“ในกรณีที่รัฐได้รับอิสรภาพ ทีมของกาตาลุญญาจะสามารถตัดสินใจได้ว่าจะลงเล่นให้กับลีกในสเปน หรือประเทศเพื่อนบ้านอย่างฝรั่งเศส หรือพรีเมียร์ลีกอังกฤษ” ฟิเกรัส ได้ให้สัมภาษณ์กับ The Independent
โดยจากบทวิเคราะห์ของ Business Insider มองว่าหากสโมสรบาร์เซโลนามีทางเลือก ก็อาจตัดสินใจไปพรีเมียร์ลีกอังกฤษ เพราะค่าลิขสิทธิ์ถ่ายทอดสดของพรีเมียร์ลีกขณะนี้อยู่ที่ 4,600 ล้านเหรียญสหรัฐ สูงกว่าทุกลีกในยุโรป โดยเฉพาะลาลีกา สเปน ซึ่งอยู่ในอันดับที่ 4 ที่ 1,300 ล้านเหรียญสหรัฐ
นอกจากนี้ ฟิเกรัส ยังเผยว่า ตัวอย่างของทีมที่ไปอยู่ในลีกของประเทศอื่นก็คือ โมนาโก ที่อยู่ร่วมกับ ลีกเอิงในประเทศฝรั่งเศส รวมถึงสโมสรคาร์ดิฟฟ์ และสวอนซี ซิตี้ จากเวลส์ ที่เล่นอยู่ในพรีเมียร์ลีกอังกฤษ
แต่แน่นอนว่าต้องมีการปรับปรุงเงื่อนไขและข้อตกลงต่างๆ อีกมากมายกว่าที่พรีเมียร์ลีกอังกฤษจะสามารถรับสโมสรฟุตบอลจากนอกสหราชอาณาจักรเป็นครั้งแรก และที่สำคัญที่สุดคือ กาตาลุญญาต้องได้รับอิสรภาพก่อนที่จะเริ่มพูดคุยถึงความเป็นไปได้
ซึ่งจากท่าทีของคนในวงการฟุตบอลาลีกา สเปน ต่างก็ไม่อยากให้เหตุการณ์นี้เกิดขึ้น โดยเฉพาะซีเนดีน ซีดาน ผู้จัดการทีมเรอัล มาดริด คู่ปรับตลอดการของบาร์เซโลนา จากเมืองหลวงมาดริด ได้ออกมาให้สัมภาษณ์ว่า “ลีกสเปนที่ไม่มีบาร์เซโลนา ผมไม่ต้องการแบบนั้นเลย”
อ้างอิง: