2ไม่น่าเชื่อว่าในวันหนึ่งจะมีคนหยิบเรื่องการเอาแหวนไปทำลายมาสร้างเป็นตำนาน และจุดเริ่มต้นมหากาพย์การผจญภัยในโลกภาพยนตร์ และทำให้ประโยคแสนธรรมดาจากมนุษย์ประหลาด ‘ของรักของข้า’ กลายเป็นคำพูดคลาสสิกที่มีคนพูดตามกันทั้งโลก
The Fellowship of the Ring คือวรรณเลื่องชื่อที่วางแผงในฐานะนวนิยายสุดคลาสสิกที่เปิดโลกการต่อสู้ สงครามต่างเผ่าพันธุ์สุดยิ่งใหญ่ และจินตนาการสุดแฟนตาซีให้กับคนอ่าน และสร้างกระแสมิดเดิลเอิร์ธฟีเวอร์ให้เกิดขึ้นเป็นครั้งแรกในปี 1954
กระทั่งวันที่ 10 ธันวาคม 2001 ภาพที่เคยเป็นเพียงจินตนาการก็ถูกฉายลงบนจอภาพยนตร์เป็นครั้งแรก ณ Odeon Leicester Square ที่ประเทศอังกฤษ โดยได้ ปีเตอร์ แจ็กสัน มารับหน้าที่ดัดแปลงบท (ร่วมกับ แฟรน วอลช์ และฟิลิปปา โบเยนส์) และกำกับภาพยนตร์ด้วยตัวเอง
พร้อมทีมนักแสดงคุณภาพชุดใหญ่มาขึ้นจอ ทั้ง เอไลจาห์ วูด, เอียน แม็คเคลเล, ฌอน แอสติน, วิกโก มอร์เทนเซน, ฌอน บีน, ออร์แลนโด บลูม, คริสโตเฟอร์ ลี, ฮิวโก แวฟวิง, ลิฟ ไทเลอร์, เคต บลานเชตต์ และแอนดี้ เซอร์คิส เทพเจ้าโทชัน แคปเจอร์ ที่ทำให้ตัวละคร ‘กอลลัม’ กลายเป็นไอคอนของ ‘ตัวประหลาด’ ที่น่าจดจำมากที่สุดในโลกภาพยนตร์
ภาพยนตร์เล่าเรื่องราวในดินแดนมิดเดิลเอิร์ธ ที่จอมมารผู้ชั่วร้ายนาม เซารอน หลอมแหวนวิเศษที่มีพลังมหาศาลขึ้นมา เพื่อครอบครองผืนแผ่นดินทั้งหมด จนกลายเป็นสงครามครั้งยิ่งใหญ่ที่ทุกคนต้องร่วมมือต่อต้านแผนของจอมมารจนสำเร็จ
ก่อนที่แหวนวงนั้นจะถูกผลัดเปลี่ยนผู้ครอบครองไปเรื่อยๆ และทำให้เจ้าของมีชะตาชีวิตที่ถูกครอบงำราวต้องคำสาป กระทั่งตกมาอยู่ในมือของ ‘โฟรโด’ ฮอบหนุ่มจิตใจใสซื่อจากหมูบ้านแสนสงบ ในเวลาเดียวกับที่อำนาจมืดของเซารอนค่อยๆ ฟื้นขึ้นมา
โฟรโดได้รับมอบหมายภารกิจให้นำแหวนวิเศษไปทำลาย ณ ใจกลางภูเขาไฟที่เป็นต้นกำเนิดเรื่องราวทั้งหมด และกลายเป็นจุดเริ่มต้นของสงครามระหว่างเผ่าพันธุ์, การหักหลัง ต่อรองผลประโยชน์ และ ‘ด้านมืด’ ในจิตใจที่ซุกซ่อนอยู่ในตัวทุกคน ไม่ว่าคนนั้นจะมีจิตใจที่บริสุทธิ์ขนาดไหนก็ตาม
ทันทีที่เข้าฉาย The Lord of the Rings: The Fellowship of the Ring กลายเป็นภาพยนตร์ที่ประสบความสำเร็จอย่างมาก ทำรายได้ทั่วโลก 871.5 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ขึ้นแท่นหนังทำเงินมากที่สุดในประวัติศาสตร์อันดับ 5 ณ ตอนนั้น
ได้รับกระแสชื่นชมอย่างมากจากทั้งแฟนหนังสือและนักวิจารณ์ ก่อนจะเฉิดฉายบนเวทีออสการ์ด้วยการถูกเสนอชื่อเข้าชิงถึง 13 สาขา และคว้ามาได้ 4 สาขา ได้แก่ แต่งหน้ายอดเยี่ยม, ถ่ายภาพยอดเยี่ยม, ดนตรีประกอบยอดเยี่ยม และเทคนิคพิเศษยอดเยี่ยม
เป็นจุดเริ่มต้นการขยายจักรวาลให้กับภาคต่อ ทั้ง The Two Towers และ The Return of the King ที่ประสบความสำเร็จไม่แพ้กัน รวมทั้ง The Hobbit ที่เล่าเรื่องการเดินทางของ บิลโบ แบ็กกินส์ ผู้ครองแหวนก่อนโฟรโดโดยเฉพาะ
และซีรีส์ฟอร์มยักษ์ของ Amazon ที่เล่าย้อนเวลากลับไป 3,441 ปีก่อนเหตุการณ์ใน The Fellowship of the Ring ที่อยู่ระหว่างถ่ายทำ และใกล้จะออกอากาศให้ได้รับชมพร้อมกันเร็วๆ นี้