ออง ซาน ซูจี ที่ปรึกษาแห่งรัฐและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศแห่งเมียนมา ขึ้นชี้แจงต่อศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ (ICJ) หรือศาลโลก ณ กรุงเฮก ประเทศเนเธอร์แลนด์ วานนี้ (11 ธันวาคม) ซึ่งเป็นวันที่ 2 ของการไต่สวนในคดีที่แกมเบีย เป็นฝ่ายยื่นฟ้องเมียนมาด้วยข้อกล่าวหาฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ชนกลุ่มน้อยชาวมุสลิมโรฮีนจา
ในการกล่าวเปิดชี้แจงต่อหน้าองค์คณะตุลาการจากทั่วโลก 17 คน ผู้นำรัฐบาลเมียนมาวัย 74 ปี กล่าวว่า คดีฟ้องร้องเมียนมาครั้งนี้ไม่ครบถ้วนและก่อให้เกิดความเข้าใจผิดต่อภาพรวมข้อเท็จจริงของสถานการณ์ และชี้ว่าปัญหาความขัดแย้งในรัฐยะไข่นั้นเป็นเรื่องที่ซับซ้อนและไม่ง่ายที่จะจัดการ และเกิดขึ้นมายาวนานย้อนหลังไปหลายร้อยปี
ซูจีกล่าวพร้อมกับอธิบายรายละเอียดแผนที่รัฐยะไข่ที่ถูกนำขึ้นแสดงต่อศาล ยืนยันว่าชนวนความรุนแรงที่เกิดขึ้นในรัฐยะไข่มาจากการกระทำของกองทัพปลดปล่อยโรฮีนจาแห่งอาระกัน หรือ อาร์ซา (ARSA) ที่ได้รับการฝึกใช้อาวุธและวัตถุระเบิดมาจากกลุ่มหัวรุนแรงในอัฟกานิสถานและปากีสถาน
เหตุรุนแรงในช่วงแรก เริ่มต้นเมื่อเดือนตุลาคม 2016 หลังกลุ่มอาร์ซาบุกโจมตีสถานีตำรวจเมียนมาใกล้ชายแดนบังกลาเทศ ส่งผลให้ตำรวจเสียชีวิตไป 9 นาย และชาวบ้านในพื้นที่เสียชีวิตไปกว่า 100 คน จากนั้นในช่วงเดือนสิงหาคม 2017 กลุ่มอาร์ซา ปฏิบัติการบุกจู่โจมระลอกสอง คราวนี้พุ่งเป้ายึดเมืองมองดอว์ ทางตอนเหนือของรัฐยะไข่ ติดชายแดนบังกลาเทศ ทำให้กองทัพเมียนมาจำเป็นต้องตอบโต้ด้วยปฏิบัติการต่อต้านก่อการร้าย ซึ่งนำมาสู่เหตุการณ์ความรุนแรงที่ก่อให้เกิดข้อกล่าวหาฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ชาวโรฮีนจา
อย่างไรก็ตาม ซูจียอมรับว่าทหารเมียนมาอาจมีการใช้กำลังที่ไม่เหมาะสมในบางครั้ง แต่ยืนยันว่าหากมีทหารก่ออาชญากรรมสงคราม พวกเขาจะต้องถูกดำเนินคดี
ทั้งนี้การกวาดล้างชาวโรฮีนจาในรัฐยะไข่ ส่งผลให้ชาวโรฮีนจากว่า 7 แสนคนต้องทิ้งบ้านเรือนหนีข้ามชายแดนไปยังบังกลาเทศ ขณะที่มีรายงานชาวโรฮีนจาเสียชีวิตจากการสู้รบหลายพันคน มีการสังหารหมู่ ข่มขืน และจุดไฟเผาชาวโรฮีนจาที่ถูกขังในบ้าน ซึ่งคณะสืบสวนข้อเท็จจริงของสหประชาชาติ (UN fact-finding mission) อธิบายการกระทำของกองทัพเมียนมาว่าโหดร้ายทารุณ
สำหรับการไต่สวนเบื้องต้นของศาลโลกในคดีนี้ จะใช้เวลา 3 วัน ซึ่งในวันที่ 2 และ 3 นี้ จะเป็นฝ่ายเมียนมาที่ขึ้นชี้แจงและแก้ต่าง ก่อนที่ศาลจะพิจารณาคำร้องของทางฝ่ายแกมเบีย ที่ขอให้ศาลมีมาตรการชั่วคราวเพื่อคุ้มครองชาวโรฮีนจาจากการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ของเมียนมา และป้องกันการสังหารและการใช้ความรุนแรงกวาดล้างชาวโรฮีนจาที่อาจเกิดขึ้นอีกในอนาคต
พิสูจน์อักษร: พรนภัส ชำนาญค้า
อ้างอิง: