ทางการฮ่องกงยืนยันว่า เศรษฐกิจฮ่องกงได้เข้าสู่ภาวะถดถอยเป็นครั้งแรกในรอบ 1 ทศวรรษ สืบเนื่องจากวิกฤตการประท้วงที่ยืดเยื้อหลายเดือน จนส่งผลกระทบต่อภาคการบริโภค การค้า การลงทุน และอุตสาหกรรมท่องเที่ยว ซึ่งเป็นเส้นเลือดใหญ่ที่หล่อเลี้ยงเศรษฐกิจฮ่องกง โดยตลอดทั้งปีนี้ คาดว่าเศรษฐกิจจะหดตัว 1.3%
ตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวม (GDP) ของฮ่องกงหดตัวลงถึง 3.2% ในไตรมาส 3 (กรกฎาคม-กันยายน) สอดคล้องกับตัวเลขประมาณการเบื้องต้นที่ประกาศไปก่อนหน้านี้ ขณะที่ไตรมาสก่อนหน้า ขนาด GDP ลดลง 0.5% ซึ่งถือเป็นการหดตัว 2 ไตรมาสติด อันเป็นนิยามหรือมาตรวัดภาวะถดถอยในทางเทคนิค
แถลงการณ์จากรัฐบาลระบุว่า อุปสงค์ภายในฮ่องกงย่ำแย่อย่างมากในช่วงไตรมาส 3 เนื่องจากเหตุรุนแรงในสังคมได้กระทบกระเทือนต่อกิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับการบริโภค นอกจากนี้ยังบั่นทอนความเชื่อมั่นในการลงทุนและบริโภค ซึ่งส่งผลกระทบต่อแนวโน้มการเติบโตทางเศรษฐกิจในอนาคต
ตลอดช่วงเวลากว่า 4 เดือนที่วิกฤตการเมืองในฮ่องกงดำเนินมา ร้านค้าและธุรกิจจำนวนมากไม่สามารถดำเนินกิจการได้ตามปกติ ขณะที่นักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางมาฮ่องกงน้อยลงอย่างมาก
ท่ามกลางปัจจัยลบมากมาย รวมถึงความไม่แน่นอนของสงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีนที่ส่งผลต่อการส่งออกของฮ่องกง ทำให้ทางการได้ปรับลดคาดการณ์การขยายตัวทางเศรษฐกิจของฮ่องกงตลอดทั้งปี 2019 เป็นติดลบ 1.3%
“การยุติความรุนแรงและฟื้นฟูความสงบเรียบร้อยเป็นหัวใจสำคัญในการพลิกฟื้นเศรษฐกิจ รัฐบาลจะติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด และใช้มาตรการต่างๆ ที่จำเป็นเพื่อสนับสนุนและปกป้องภาคธุรกิจ” แถลงการณ์ของรัฐบาลฮ่องกงระบุ
พิสูจน์อักษร: พรนภัส ชำนาญค้า
อ้างอิง: