แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เข้ารอบ 8 ทีมสุดท้าย ศึกคาราบาวคัพ 2019/20 ด้วยการเอาชนะเชลซีแบบหวุดหวิด 2-1 จากประตูของ มาร์คัส แรชฟอร์ด ที่สนามสแตมฟอร์ด บริดจ์ เมื่อคืนวันพุธที่ 30 ตุลาคม
โดยรูปเกมเชลซีครองบอลได้เหนือกว่า 65-35% โอกาสยิงมากกว่า 12-7 ครั้ง เตะมุมมากกว่า 7-2 ครั้ง แต่แรชฟอร์ดยิงจุดโทษขึ้นนำก่อน 1-0 ในนาทีที่ 25 ก่อนที่ มิชี บาตชูอายี ตีเสมอ 1-1 นาที 61 และเป็นแรชฟอร์ดที่ซัดฟรีคิกในนาทีที่ 73 จากระยะ 30 หลา สไตล์ คริสเตียโน โรนัลโด อดีตเบอร์ 7 ของทีม พุ่งเข้าประตู พาทีมเอาชนะไป 2-1 และหยุดสถิติชนะต่อเนื่องของเชลซีไว้ที่ 7 นัด
“เหมือน คริสเตียโน โรนัลโด มาก ว่าไหม?” โอเล กุนนาร์ โซลชาร์ กุนซือแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ให้สัมภาษณ์กับ MUTV
“เด็กคนนี้มีจิตวิญญาณที่แข็งแกร่งเหมือนเหล็ก เขาไม่มีปัญหาในการยิงจุดโทษ ก่อนที่จะก้าวขึ้นมายิงฟรีคิกคว้าชัยให้เราในเกมนี้ ยอดเยี่ยมมาก
“แรชฟอร์ดมีจิตวิญญาณของผู้ทำประตู ผมเห็นเขาในสนามซ้อมหลายครั้ง เมื่อคุณให้โอกาสและประสบการณ์กับนักเตะเยาวชน เช่น แบรนดอน วิลเลียมส์ ที่ทำผลงานได้อย่างดีเยี่ยมในค่ำคืนนี้ นี่จะเป็นสิ่งที่ช่วยเขาเป็นอย่างมาก
“เรารู้ว่าเราไม่ใช่สินค้าที่สมบูรณ์แบบแล้ว เรายังอยู่ในขั้นตอนของการผลิต และพัฒนาต่อไป เราทำได้ดีเยี่ยม ในการเล่นฟุตบอลที่มีความลื่นไหลและรวดเร็ว นั่นคือแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดที่เราพยายามจะนำกลับมา”
ขณะที่ แฟรงค์ แลมพาร์ด กุนซือเชลซี ก็ยกย่องลูกฟรีคิกสุดสวยของแรชฟอร์ด
“มันเป็นสิ่งที่วิเศษมาก มาจากไหนก็ไม่รู้ เทคนิคที่ยอดเยี่ยม มันเป็นการยิงที่สวยงามมากจากเขา ในช่วงเวลาที่เราคิดว่าเรากำลังได้เปรียบอยู่”
ส่วนทางด้านแรชฟอร์ด เจ้าของประตูสุดสวย ยอมรับว่า ได้สร้างความคุ้นเคยกับลูกบอลในสนามซ้อมมา
“ต้องยอมรับว่า เป็นที่ลูกบอล ตอนที่เราฝึกซ้อมกับมัน ซึ่งตอนเรายิง เราเห็นว่าลูกบอลจะส่ายขึ้นลง และสามารถออกไปทิศทางไหนก็ได้
“ต้องขอบคุณที่ลูกบอลพุ่งเข้ามุมประตูไป มันเป็นวันที่ดีมาก”
พิสูจน์อักษร: ภาวิกา ขันติศรีสกุล
อ้างอิง:
