วันที่ 2 พฤศจิกายน 2562 นี้ งาน Dragonfly360 ซึ่งเป็นโครงการรณรงค์ครั้งยิ่งใหญ่ที่มุ่งขับเคลื่อนสังคมไทยไปสู่ความเสมอภาคทางเพศ พร้อมกับส่งเสริมศักยภาพของผู้หญิงให้เป็นที่ยอมรับเตรียมเกิดขึ้นแล้ว ณ โรงแรมเซ็นทารา แกรนด์ ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์

งานประชุมครั้งสำคัญนี้ได้ความร่วมมือจากคนดังมากมายมาเป็นกระบอกเสียงพูดถึงมุมมองด้านเพศต่างๆ ถกเรื่องของความไม่เสมอภาคทางเพศ อันเป็นปัญหาใหญ่โดยเฉพาะในเอเชียที่คนจำนวนมากยังไม่เข้าใจ ด้วยทัศนคติที่มองว่า ‘ชายเป็นใหญ่’ ที่ปลูกฝังมาหลายชั่วอายุคน แต่งานนี้จะช่วยหมุนโลกแห่งความไม่เท่าเทียมให้เสมอภาคมากขึ้นได้อย่างไร? และเราทุกคนร่วมมืออะไรได้บ้าง? และเกี่ยวอะไรกับแมลงปอที่เป็นชื่อและสัญลักษณ์ของงาน? เราได้ถาม แพม-ประนัปดา พรประภา นักธุรกิจสาวและคุณแม่ ประธานกรรมการและผู้ร่วมก่อตั้งงาน Dragonfly360 ถึง 5 ประเด็นน่ารู้เกี่ยวกับงานครั้งนี้

เรายังได้ยินคำที่บอกว่า ‘เป็นผู้หญิงควรจะฉลาด แต่อย่าฉลาดเกินไปเพราะผู้ชายจะไม่ชอบ’ หรือ ‘อย่าว่ายน้ำตากแดด เดี๋ยวตัวคล้ำ ผู้ชายจะไม่ชอบ’ เรื่องเหล่านี้ยังมีอยู่

อะไรจุดประกายให้เกิดงานนี้ขึ้น

“เกิดจากแนวคิดตอนที่ไปอยู่นิวยอร์กในช่วงพักจากการทำงานที่ต้องเกี่ยวข้องกับโลกของผู้ชายเยอะ ขณะนั้นได้ไปร่วมงาน Women in the World Conference ที่ปลุกพลังผู้หญิง และเราเห็นว่าผู้หญิงที่นิวยอร์กเป็นผู้หญิงที่แข็งแกร่ง และนึกถึงบ้านเราที่ส่วนมากเป็นการจัดงานที่เน้นเฉพาะกลุ่ม แต่ยังไม่มีใครที่มุ่งเน้นเรื่องการเปลี่ยนทัศนคติของคน จนได้มาเจอหลายๆ คน และเห็นว่าจริงๆ ผู้หญิงพยายามทำอะไรกับเรื่องนี้ แต่ทำในระดับที่ค่อนข้างเล็ก และเราได้พบว่าหลายคนยังกลัวกับคำว่า ‘Feminism’ หรือ ‘Women Empowerment’ เราเลยมองว่ายังมีเรื่องต้องเปลี่ยนแนวคิดของคนไทยอีกเกี่ยวกับเรื่องนี้ ด้วยเพราะคนไทยไม่ชอบความขัดแย้ง ซึ่งมีข้อดีและข้อไม่ดีอยู่ในนั้น เพราะเป็นหัวข้อที่คนไม่สบายใจที่จะพูดถึง นี่จึงเป็นจุดเริ่มต้น และคนจำนวนมากติดต่อมาอยากมีส่วนร่วม อยากทำ และเกิดขึ้นมาจนเป็นดั่งที่เห็น เรายังพบอีกว่าผู้ที่อยากสนับสนุนผลักดันให้เกิดงานนี้ขึ้นนั้นกลับเป็นผู้ชาย นี่ช่วยให้เห็นภาพเรื่องของความเท่าเทียมชัดขึ้นอีก”

ความเสมอภาคทางเพศในประเทศไทยยังต้องไปอีกไกลแค่ไหน

“ทุกวันนี้เวลาไปส่งลูกชาย 10 ขวบไปโรงเรียน เรายังได้ยินคำที่บอกว่า ‘เป็นผู้หญิงควรจะฉลาด แต่อย่าฉลาดเกินไปเพราะผู้ชายจะไม่ชอบ’ หรือ ‘อย่าว่ายน้ำตากแดด เดี๋ยวตัวคล้ำ ผู้ชายจะไม่ชอบ’ เรื่องเหล่านี้ยังมีอยู่ หรือแค่มองออกไปตามป้ายโฆษณาใหญ่ๆ เราจะเห็นคำว่า ‘Whitening’ เต็มไปหมด ทำไมเราต้องเน้นว่าผู้หญิงต้องขาว ต้องสวย ทำไมไม่เน้นว่าผู้หญิงควรจะเก่ง ควรจะฉลาด ควรจะยืนหยัดในด้านอื่นด้วย เลยมองว่างานนี้สำคัญ เพราะสิ่งแรก เราต้องมองว่าเราต้องชอบและยอมรับในความเป็นตัวเองก่อน ก่อนที่เราจะสร้างความเปลี่ยนแปลงกับคนนอกได้ 

งานนี้แพมไม่ได้ต้องการให้ผู้หญิงสตรอง แต่ต้องการให้ผู้หญิงโอบรับความเป็นผู้หญิง และอย่างที่สองคือผู้ชายเองต้องมีส่วนร่วมด้วย เราเห็นกันบ่อยๆ ว่าผู้หญิงต้องทำงานบ้าน ดูแลลูก แต่ในปัจจุบันทั้งผู้ชายและผู้หญิงเกือบทุกคนในไทยต่างก็ทำงาน แต่ผู้หญิงก็ถูกคาดหวังว่าต้องดูแลบ้านและดูแลลูกไปด้วย เหมือนในโฆษณาที่เกี่ยวกับงานบ้าน ที่มักเป็นผู้หญิงเสมอ ทำให้ผู้หญิงต้องเจอปัญหา Work-life Balance นี่ไม่ใช่ความเท่าเทียม เพราะที่ยุโรปก็มี Paternity Leave ให้คุณพ่อได้ลาไปดูแลลูก”

ในปัจจุบันทั้งชายและหญิงเกือบทุกคนในไทยต่างก็ทำงาน แต่ผู้หญิงยังถูกคาดหวังว่าต้องดูแลบ้านและดูแลลูกไปด้วย เหมือนในโฆษณาที่เกี่ยวกับงานบ้านที่เป็นผู้หญิงเสมอ

คนที่มาเข้าร่วมงานครั้งนี้คาดหวังอะไรจากงาน Dragonfly360 ได้บ้าง

“เราคาดหวังได้ว่าจะได้รับแรงบันดาลใจกลับไปเต็มๆ เลย อาจทำให้รู้สึกเศร้าจากเรื่องราวของผู้หญิงที่ถูกล่วงละเมิดทางเพศ ซึ่งเรามองว่าหนังที่ดีต้องสามารถทำให้เราหัวเราะ ร้องไห้ และจบด้วยความหวังด้วยเช่นกัน งานนี้มีเรื่องของเยาวชนอายุ 17 ปี ที่ติดต่อมาขอมีส่วนร่วมในการพูดด้วยการเป็นกระบอกเสียงของเด็กรุ่นใหม่ด้วย คุณจะได้รู้ว่าแท้จริงแล้วสิ่งที่เรามองว่า ‘ปกติ’ มันปกติจริงไหม แพมต้องการสร้าง Dragonfly อีก 800 คนให้กลับออกไป”

เกี่ยวอะไรกับแมลงปอ (Dragonfly) 

“จริงๆ แล้วไม่ได้ตั้งตามชื่อของแมลง แต่ตั้งตามมังกรที่บินได้ มีช่วงหนึ่งที่เราไม่อยากลุกจากเตียงด้วยเรื่องของงาน เพื่อนเลยบอกกับเราว่า ‘You are a dragon. Fly!’ ทำให้เราคิดว่าไม่มีใครมาเอาพลังจากเราไปได้นอกจากเราจะเป็นผู้ให้เขาไปเอง และบวกกับการหาข้อมูล เราพบว่าจริงๆ แมลงปอเป็นแมลงที่มีความเกี่ยวโยงกับความเปลี่ยนแปลง ความหวัง และการเชื่อมต่อ และจริงๆ แล้วเป็นนักล่าชั้นยอดที่แข็งแกร่งในอาณาจักรของสัตว์ แถมยังเป็นแมลงที่บินได้ 360 องศารอบตัว เลยหยิบมาเป็นชื่อของงานครั้งนี้”

มีรายงานตัวเลขที่ชี้ตรงกันว่า ประเทศที่ชายและหญิงมีความเท่าเทียมสามารถสร้างรายได้ GDPให้กับประเทศมหาศาล ดังนั้นการสนับสนุนผู้หญิงในบทบาทของการทำงานให้ไปอยู่ในระดับบริหารจึงถือเป็นเรื่องสำคัญ

เราทุกคนช่วยส่งเสริมได้อย่างไร

“สิ่งแรกที่เราต้องทำคือไม่ให้คนกลัวคำว่า ‘Feminism’ หรือ ‘Women Empowerment’ สิ่งที่สองคือ เราต้องทำให้มันเป็นเรื่องเก๋ เหมือนที่ จัสติน ทรูโด ทำที่แคนาดา สิ่งที่สามคือเราต้องสร้างความตื่นตัวเหมือนกับที่เราตื่นเรื่องของพลาสติก แพมเลยพยายามเจาะองค์กรใหญ่ๆ ที่มีพนักงานจำนวนมาก ค่อยๆ สร้างความเปลี่ยนแปลงในด้านนโยบาย สร้างแนวคิดให้บริษัทอื่นๆ อยากทำตามในด้าน Gender Equality เพราะการเปลี่ยนเชิงนโยบายสามารถทำได้ง่ายกว่าในแง่ของกฎหมายของประเทศ 

“เรายังร่วมมือกับอินฟลูเอนเซอร์และเซเลบริตี้เพื่อเข้าถึงคนกลุ่มมาก สร้างความตื่นตัวถึงปัญหาทั้งด้านความเสมอภาค ความรุนแรงในครอบครัว การล่วงละเมิดทางเพศในที่ทำงาน ให้รู้ว่านี่ไม่ใช่เรื่องปกติที่จำต้องทน และเราอยากให้ทุกคนมีพื้นที่ที่ได้พูดถึงเรื่องนี้ และเราสามารถนำความเป็น Feminist แบบตะวันตกมาปรับเป็นแบบเอเชียในแบบของเราได้

“การเปลี่ยนแปลงนี้ยังเริ่มได้ด้วยจากตัวเรา โดยเติมพลังให้ตัวเองก่อน ก่อนจะไปช่วยคนรอบตัว หรือองค์กรที่ใหญ่กว่า และเราต้องเริ่มเปลี่ยนตอนนี้ เพราะยังต้องไปอีกไกลและใช้เวลา และการเปลี่ยนแปลงนี้สามารถจะช่วยปรับ GDP และผลักดันให้ประเทศไทยเติบโตขึ้นอีก มีงานตัวเลขที่ชี้ตรงกันว่าในประเทศที่ชายและหญิงมีความเสมอภาคเท่าเทียมสามารถสร้างรายได้ให้กับประเทศเพิ่มขึ้นมหาศาล ดังนั้นการสนับสนุนผู้หญิงในบทบาทของการทำงานให้ไปอยู่ในระดับบริหารจึงถือเป็นเรื่องสำคัญ เพราะต้องใช้ทักษะทั้ง Empathy, Sensitivity, Connectivity ซึ่งเป็นเซนส์ที่ผู้หญิงมีครบทั้งหมดด้วย”

งาน Dragonfly360 จัดขึ้นวันที่ 2 พฤศจิกายน 2562 เวลา 09.00-18.00 น. ที่เซ็นทาราแกรนด์ เซ็นทรัลเวิลด์ กรุงเทพฯ อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ dragonfly360.co

พิสูจน์อักษร: ลักษณ์นารา พักตร์เพียงจันทร์