- องค์การการค้าโลก (WTO) อนุมัติให้สหรัฐฯ สามารถเรียกเก็บภาษีสินค้าจากสหภาพยุโรป (EU) มูลค่า 7,500 ล้านดอลลาร์ได้ โดยคณะอนุญาโตตุลาการระบุว่ารัฐบาลสหราชอาณาจักร เยอรมนี ฝรั่งเศส และสเปน มีการอุดหนุน Airbus ผู้ผลิตเครื่องบินของยุโรปอย่างผิดกฎหมาย ขณะที่ EU ประกาศพร้อมตอบโต้ด้วยมาตรการเดียวกัน
- เศรษฐกิจไทยเดือนสิงหาคมชะลอตัวต่อเนื่อง ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยยอดส่งออกไทยหดตัวต่อเนื่อง ติดลบ 2.1% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน หากไม่รวมทองคำ ติดลบถึง 8.9% ซึ่งถือเป็นการหดตัวต่อเนื่อง 10 เดือนติดต่อกัน สืบเนื่องจากภาวะเศรษฐกิจประเทศคู่ค้าที่ชะลอตัว แต่การท่องเที่ยวสามารถขยายตัวได้ 7.4% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน จากมาตรการยกเว้นค่าธรรมเนียม Visa on Arrival โดยเฉพาะจากจีน อินเดีย และไต้หวัน ด้านเสถียรภาพเศรษฐกิจ อัตราเงินเฟ้อทั่วไปอยู่ที่ 0.52% ลดลงจากเดือนก่อนหน้าที่ 0.98% สำหรับแนวโน้มไตรมาส 3 มองว่ามีโอกาสจะขยายตัวได้มากกว่าไตรมาส 2 ที่ขยายตัว 2.3% จากแรงหนุนของภาคการท่องเที่ยวที่ขยายตัวจากฐานที่ต่ำ รวมทั้งมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาล
- Fed Voter มองดอกเบี้ยปัจจุบันอยู่ในระดับเหมาะสม ประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) สาขาชิคาโกเห็นว่าอัตราดอกเบี้ยนโยบาย ณ ปัจจุบันอยู่ในระดับที่เหมาะสมแล้ว พร้อมกล่าวเสริมว่าแม้นโยบายการเงินจะช่วยบรรเทาผลกระทบจากภาวะชะลอตัวทางเศรษฐกิจทั่วโลกและความไม่แน่นอนทางการค้า แต่ก็ไม่สามารถแก้ไขปัญหาด้าน Productivity และ Demographic ได้ นอกจากนี้อัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจและอัตราเงินเฟ้อที่อยู่ในระดับต่ำ ส่งผลให้เกิดข้อจำกัดในการดำเนินนโยบายการเงิน ธนาคารกลางสหรัฐฯ จึงควรดำเนินนโยบายในลักษณะ Whatever-it-takes เพื่อประคองอัตราเงินเฟ้อให้สอดคล้องกับระดับเป้าหมาย
- นายกรัฐมนตรีบอริส จอห์นสัน ของสหราชอาณาจักร ยื่นข้อเสนอ Brexit ใหม่ต่อสหภาพยุโรป (EU) เมื่อวานนี้ โดยจะไม่มีการตั้งด่านตรวจที่ชายแดนระหว่างไอร์แลนด์เหนือและสาธารณรัฐไอร์แลนด์ (Irish Backstop) แต่จะปล่อยให้ไอร์แลนด์เหนือยังอยู่กับ EU จนถึงปี 2025 หากไม่รับข้อเสนอดังกล่าว อังกฤษจะออกจาก EU ตามกำหนดการเดิมในวันที่ 31 ตุลาคม อย่างไรก็ตาม สื่อเผยว่า EU อาจไม่ยอมรับข้อตกลงดังกล่าว
- ตัวเลขเศรษฐกิจสำคัญ 1) ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคการเกษตรสหรัฐฯ เดือนกันยายนอยู่ที่ 1.35 แสนคน ต่ำกว่าคาดที่ระดับ 1.4 แสนคน และต่ำกว่าเดือนก่อนหน้าที่ 1.57 แสนคน 2) ปริมาณน้ำมันดิบคงคลังสหรัฐฯ อยู่ที่ 3.100 ล้านบาร์เรล มากกว่าคาดที่ 1.567 ล้านบาร์เรล และสูงกว่าครั้งก่อนที่ 2.412 ล้านบาร์เรล 3) PMI ภาคการก่อสร้างอังกฤษเดือนกันยายนอยู่ที่ระดับ 43.3 ต่ำกว่าคาดที่ 45.0 และชะลอตัวต่อเนื่องจากเดือนก่อนหน้าที่ 45.0
ภาวะตลาดวานนี้
- ความกังวลต่อเศรษฐกิจสหรัฐฯ ถดถอย สร้างแรงกดดันต่อเนื่องต่อตลาดหุ้นทั่วโลก หลังตัวเลข ISM Manufacturing PMI เดือนกันยายนออกมาที่ระดับ 47.8 ต่ำกว่า 50 เป็นเดือนที่ 2 ประกอบกับกลุ่มพลังงานได้รับแรงกดดันจากราคาน้ำมันโลกที่ปรับตัวลงจากตัวเลขน้ำมันดิบคงคลังสหรัฐฯ มากกว่าที่คาดไว้ ส่งผลให้ราคาน้ำมันดิบ WTI ปิดที่ 52.72 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล (-1.68%) และน้ำมันดิบเบรนท์ปิดที่ 57.8 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล (-1.85%) ส่งผลให้กลุ่มพลังงานปรับตัวนำมากกว่ากลุ่มอื่นๆ
- ด้านตลาดหุ้นประเทศตลาดเกิดใหม่ (Emerging Market) ได้รับผลกระทบจากการปรับตัวลงของตลาดสหรัฐฯ และยุโรปที่ปรับตัวลงจากวันก่อนหน้า โดยปรับตัวลงแรงสุดคือดัชนี KOSPI เกาหลีใต้ ปิดลด -1.95% หลังเกาหลีเหนือกลับมาทดสอบขีปนาวุธอีกครั้ง
สหรัฐฯ
- Dow 30 ปิดที่ 26078.62 ลดลง 494.42 (-1.86%)
- S&P 500 ปิดที่ 2887.61 ลดลง 52.64 (-1.79%)
- Nasdaq ปิดที่ 7785.25 ลดลง 123.44 (-1.56%)
ยุโรป
- DAX ปิดที่ 11925.25 ลดลง 338.58 (-2.76%)
- FTSE 100 ปิดที่ 7122.54 ลดลง 237.78 (-3.23%)
- Euro Stoxx 50 ปิดที่ 3413.31 ลดลง 104.94 (-2.98%)
- FTSE MIB ปิดที่ 21298.24 ลดลง 629.33 (-2.87%)
เอเชีย
- Nikkei 225 ปิดที่ 21778.61 ลดลง 106.63 (-0.49%)
- S&P/ASX 200 ปิดที่ 6639.9 ลดลง 102.9 (-1.53%)
- Shanghai ปิดที่ 2905.19 ลดลง 26.98 (-0.92%)
- SZSE Component ปิดที่ 9446.24 ลดลง 0 (0%)
- China A50 ปิดที่ 13564.3 ลดลง 141.52 (-1.03%)
- Hang Seng ปิดที่ 26042.69 ลดลง 49.58 (-0.19%)
- Taiwan Weighted ปิดที่ 10947.88 ลดลง 19.77 (-0.18%)
- SET ปิดที่ 1613.64 ลดลง 10.45 (-0.64%)
- KOSPI ปิดที่ 2031.91 ลดลง 40.51 (-1.95%)
- IDX Composite ปิดที่ 6055.43 ลดลง 82.83 (-1.35%)
- BSE Sensex ปิดที่ 38305.41 ลดลง 361.92 (-0.94%)
- PSEi Composite ปิดที่ 7610.68 ลดลง 129.18 (-1.67%)
Commodity
- ราคาน้ำมันดิบ WTI ปิดที่ 52.72 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ลดลง 0.9 (-1.68%)
- ราคาน้ำมันดิบเบรนท์ ปิดที่ 57.8 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ลดลง 1.09 (-1.85%)
- ราคาทองคำ ปิดที่ 1510.45 ดอลลาร์ต่อออนซ์ เพิ่มขึ้น 21.45 (+1.44%)
พิสูจน์อักษร: ภาสิณี เพิ่มพันธุ์พงศ์
อ้างอิง:
- Infoquest
- Bloomberg
- Investing