×

6 ผู้กำกับแฟนฉันบอก “ฉากจบแบบนี้ดีที่สุดแล้ว”

01.10.2019
  • LOADING...
แฟนฉัน

ภาพยนตร์ แฟนฉัน เข้าฉายครั้งแรกวันที่ 3 ตุลาคม 2546 สร้างปรากฏการณ์เต็มทุกรอบตั้งแต่เปิดตัวในสุดสัปดาห์แรก และกลายเป็นภาพยนตร์ที่ประสบความสำเร็จที่สุดในปีนั้นด้วยรายได้กว่า 137 ล้านบาท

 

ปิ๊ง-อดิสรณ์ ตรีสิริเกษม, ต้น-นิธิวัฒน์ ธราธร, ย้ง-ทรงยศ สุขมากอนันต์, เอส-คมกฤษ ตรีวิมล, บอล-วิทยา ทองอยู่ยง และ เดียว-วิชชพัชร์ โกจิ๋ว คือ 6 ผู้กำกับหน้าใหม่ที่ร่วมกันกำกับภาพยนตร์เรื่องนี้ พวกเขาต่างแจ้งเกิดและกลายเป็นกำลังสำคัญในการผลักดันวงการภาพยนตร์รวมถึงวงการโทรทัศน์มาจนถึงทุกวันนี้ 

 

ในโอกาสครบรอบ 16 ปี แฟนฉัน เราพาย้อนเวลากลับไปพูดคุยกับผู้กำกับ แฟนฉันเกี่ยวกับภาพยนตร์เรื่องสำคัญในชีวิตพวกเขา รวมถึงฉากจบที่ว่ากันว่าดีที่สุดเรื่องหนึ่งของภาพยนตร์ไทย

 

แฟนฉัน

 

ย้อนกลับไปตอนที่แฟนฉันเข้าฉาย เคยคิดไหมว่าจะประสบความสำเร็จขนาดนี้ 

บอล: ผมไม่ได้คิดว่าจะดังในระดับร้อยล้าน แต่คิดว่าใครได้ดูจะชอบ คือตอนนั้นคนที่ทำการตลาดพูดเลยว่าไม่ต้องทำอะไรกับหนังเรื่องนี้เลย แค่ทำอย่างไรก็ได้ให้คนได้ดูหนังเรื่องนี้ แค่นี้เลย นี่คือมิชชันของ แฟนฉัน

 

ย้ง: คือ แฟนฉัน อาจจะไม่ใช่หนังที่ดีมาก แต่เป็นหนังที่ถ้าคนไปดู ก็คงจะได้ใจเขา มันดูซื่อๆ จริงใจ เป็นหนังดูง่ายและเป็นหนังที่ใครดูก็ได้ เคยมีคนพูดว่าจริงๆ แล้วแฟนฉัน เป็นหนังตลาด เพียงแต่ ณ ตอนนั้นยังไม่เคยมีตลาดแบบนี้ในเมืองไทย เพราะฉะนั้นโจทย์เลยมีแค่ว่าทำอย่างไรก็ได้ให้คนมาดูกันเยอะๆ 

 

เอส: คือเราไม่ได้รู้สึกว่ามันคือหนังดีหรือไม่ดี เพราะเราเป็นคนทำเอง มันพูดยากนะที่คนทำเองจะมาบอกว่า “โห มุกนี้ ซีนนี้แม่งโคตรเท่เลย” แต่สิ่งที่รู้สึกครั้งแรกเลยคือตอนที่เราไปทดลองฉายที่มหาวิทยาลัยกรุงเทพ เราก็เห็นคนดูเขาทั้งหัวเราะทั้งร้องไห้ พอเห็นแบบนี้เราถึงได้รู้สึกว่า เออ หนังพวกกูมันดีเหมือนกันเนอะ 

 

ต้น: คือก่อนหนังฉายนะครับ ไอ้พวกเด็ก แฟนฉัน เนี่ย เดินไปไหนไม่มีใครสนใจมันหรอก แต่พอหลังจากสองชั่วโมงผ่านไป พอเขาดูหนังจบแล้วก็กรี๊ดอยากจะถ่ายรูปกับพวกมัน จนกลายเป็นซูเปอร์สตาร์ในเวลาสองชั่วโมง คนรักตัวละครเหล่านี้ ซึ่งผมรู้สึกว่ามันเป็นอะไรที่พิเศษมาก 

 

ในฐานะที่สร้างมากับมือ ตอนที่คุณได้ดู แฟนฉัน อีกครั้ง มีความรู้สึกว่าอยากกลับไปเปลี่ยนแปลงอะไรตรงไหน

เดี่ยว: ความรู้สึกว่าอยากเปลี่ยน มันเกิดขึ้นมาในช่วงแรกๆ ช่วงปีสองปีแรกเรายังอาจรู้สึกอย่างนั้นอยู่ แต่พอเวลายิ่งผ่านไป เรากลับรู้สึกว่ามันก็ควรจะเป็นอย่างนี้แหละ ในความรู้สึกของเรานี่คือสิ่งที่ดีที่สุดสำหรับแฟนฉันแล้ว 

 

ย้ง: คือผมไม่ได้รู้สึกว่าอยากเปลี่ยนอะไรนะ มันรู้สึกแค่ว่าไอ้ตอนที่เราทำ แฟนฉัน กัน ครั้งนั้นพวกเราเด็กมาก มันมีอารมณ์ไฟแรงของการอยากลองของอะไรเต็มไปหมด ซึ่งพอเราได้ดูในวันที่เราคิดว่าตัวเองมีวุฒิภาวะมากขึ้นแล้ว ก็รู้สึกว่า เฮ้ย ทำไมกูจะต้องลองของอะไรเยอะขนาดนี้ด้วยวะ 

 

ต้น: คือหลังจากหนังเสร็จ ผมไม่เคยคิดจะแก้มันอีกเลย เพราะรู้สึกว่าดูครั้งไหนๆ เราจะรู้สึกว่ามันเป็นอย่างนี้ของมัน ซึ่งปกติเราก็จะทำงานให้ออกมาดีที่สุดในช่วงเวลานั้น ก็เลยไม่เคยรู้สึกว่าอยากจะแก้ไขอะไร (หันไปบอกกับเพื่อนๆ) แต่สิ่งที่กูอยากจะพูดคือ ถ้าอยากเปลี่ยน คือไอ้ตอนที่เราเถียงกันตอนตัดหนังกันคืนสุดท้าย อันนั้นอยากแก้ เพราะคืนนั้นเราเถียงกันเยอะมาก และมันก็มีหลายสิ่งหลายอย่างที่ผมอยากแก้ แต่เถียงชนะพวกเขาไม่ได้ 

 

บอล: ผมไม่ได้รู้สึกอยากแก้อะไร เพราะมันเป็นความคิด ความรู้สึกของพวกเราในช่วงเวลานั้นๆ เรากลับมาดูอีก ก็จะเห็นไอ้คนทำตอนช่วงวัยนั้น เพียงแต่เท่าที่จำได้นะ มันจะมีบางมุกของหนังที่รู้สึกว่าถ้าสอดแทรกบางอย่างเข้าไปเพิ่ม มุกมันคงจะสมบูรณ์มากยิ่งขึ้น 

 

ตอนจบของแฟนฉันก็คือสิ่งที่คุณจะไม่กลับไปเปลี่ยนแปลงมันแน่ๆ

เอส: ผมเคยบอกโต้ง บรรจง ว่าตอนจบของ กวน มึน โฮ เท่มากเลย เท่เป็นอันดับสองของหนัง GTH รองจาก แฟนฉัน เพราะอันดับหนึ่งมันคือ แฟนฉัน ที่ผมคิดว่ามันจบเท่ที่สุดแล้ว 

 

ต้น: จริงๆ ตอนที่เราเขียนบทกัน มันมีทางจบหลายแบบมาก แต่สิ่งที่ทำให้เราเลือกตอนจบแบบนี้ เพราะมันตอบโจทย์ความรู้สึกของคนดูได้ดีที่สุดแล้ว 

 

เดี่ยว: คือไม่ได้ยอตัวเองนะ แต่คนเขาจะพูดกันเยอะมากกว่า แฟนฉัน เป็นการจบที่ฉลาด คือเท่าที่เราเคยได้ยินคนอื่นยกย่อง เชิดชูหนังเรื่องนี้ ส่วนใหญ่คนมักจะพูดถึงตอนจบ เพราะมันมีประเด็นตอนจบแบบ Bitter Sweet คือมันไม่ได้สุขแบบสุขมากๆ และมันก็ไม่ได้เศร้าแบบเศร้ามากๆ 

 

คือไม่ใช่เรื่องของฉาก หรือเรื่องของยุคสมัยเพียงอย่างเดียว แต่มันเป็นเรื่องของความรู้สึก ซึ่งผมมองว่าตอนจบของ แฟนฉัน มันไปไกลกว่าที่เราคิดเอาไว้เยอะ เพราะสำหรับพวกเรา มันมีความหมายมากที่เราทำให้คนอื่นรู้สึกแบบนั้นได้ในหนังของเรา 

 

ย้ง: ผมรู้สึกเหมือนกันว่าใน แฟนฉัน ส่วนที่เราไม่ควรจะกลับไปแตะต้องมากที่สุดเลยก็คือตอนจบ เพราะไอเดียที่ให้เจี๊ยบมันเห็นหน้าเจ้าสาวคนนี้ตอนที่ยังเป็นเด็กอยู่เนี่ย  คือไอเดียที่เราอยากให้มันจบแบบฟีลกู๊ดแต่ไม่เลี่ยนไม่เสี่ยว ซึ่งจบแบบนี้ดีที่สุดแล้ว 

 

แฟนฉัน

แฟนฉัน

 

ภาพยนตร์ แฟนฉัน ว่าด้วยเรื่องราวความผูกพันและภาพจำในวัยเด็กของ ‘เจี๊ยบ’ ที่มีต่อ ‘น้อยหน่า’ เพื่อนสนิทในวัยเด็กและกลุ่มเพื่อนละแวกบ้าน เมื่อวันเวลาผ่านไปจนเติบโต วันหนึ่งเขาได้รับการ์ดเชิญงานแต่งงานของ ‘น้อยหน่า’ ลิ้นชักความทรงจำมากมายในวันวานก็ทำให้เขาหวนกลับไปนึกถึงเรื่องราว ‘รักครั้งแรก’ ของตัวเองอีกครั้ง

     

แฟนฉัน เต็มไปด้วยเสน่ห์แบบหวนรำลึกถึงความหลัง ไล่เรียงตั้งแต่ข้าวของเครื่องใช้ ของเล่น และกิจกรรมวัยเด็ก นอกจากนั้นหนังยังเต็มไปด้วยบทเพลงสตริงสุดฮิตในยุค 80 เช่น ประตูใจ และ รักคือฝันไป ของวงสาว สาว สาว, แฟนฉัน และ รักครั้งแรก ของวงชาตรี, ป้ากะปู่ และ รักบึงเก่า ของวงเพื่อน, คอนเสิร์ตคนจน ของวงนกแล

 

และที่แน่ๆ แฟนฉัน ได้กลายเป็นภาพยนตร์ไทยสุดคลาสสิกเรื่องหนึ่งไปแล้ว

     

อ่านเรื่องเบื้องหลัง: ครบรอบ 16 ปี ‘แฟนฉัน’ ชวนอ่าน ‘อยากบอกเธอรักครั้งแรก’ บทความแรกก่อนดัดแปลงเป็นหนังฮิต ต้นกำเนิด GTH thestandard.co/fanchan-15-anniversary

 

พิสูจน์อักษร: ลักษณ์นารา พักตร์เพียงจันทร์

  • LOADING...

READ MORE





Latest Stories

Close Advertising
X