- ส่งออกไทยขยายตัวครั้งแรกในรอบ 5 เดือน โดยวานนี้ พิมพ์ชนก วอนขอพร ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า (สนค.) เผยว่า ยอดการส่งออกไทยเดือนกรกฎาคม 2562 ขยายตัว 4.28% แตะระดับ 21,200 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งเป็นการขยายตัวครั้งแรกในรอบ 5 เดือน หลังผลกระทบจากสงครามการค้าลดลง และการส่งออกทองคำที่ขยายตัวสูง ขณะที่ยอดการนำเข้าขยายตัว 1.7% แตะระดับ 21,095 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ส่งผลให้โดยรวมเกินดุลการค้ากว่า 110 ล้านดอลลาร์สหรัฐ แต่รวม 7 เดือนมูลค่าการส่งออกหดตัว 1.91% อย่างไรก็ตามในส่วนของยอดการส่งออกเดือนกรกฎาคมนั้น เมื่อหักส่วนของทองคำและน้ำมันออกพบว่า เหลือการขยายตัวเพียง 1.55% เท่านั้น
- ทรัมป์กดดัน Fed ไม่เลิก ชี้ Fed คือปัจจัยเดียวที่ขวางเศรษฐกิจสหรัฐฯ โดยวานนี้ โดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ทวีตข้อความโจมตีเจอโรม พาวเวลล์ ประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) ว่า ณ ตอนนี้สหรัฐฯ กำลังเดินหน้าเจรจาการค้าไปได้ด้วยดีทั้งกับจีนและประเทศอื่นๆ แต่ปัญหาเดียวก็คือการที่ Fed ไม่ยอมปรับลดอัตราดอกเบี้ยให้มากกว่านี้ เพราะสหรัฐฯ กำลังแข่งกับหลายประเทศที่มีอัตราดอกเบี้ยต่ำกว่ามาก ซึ่งจริงๆ แล้วอัตราดอกเบี้ยสหรัฐฯ ควรที่จะต่ำกว่า ความเห็นของทรัมป์สอดคล้องกับท่าทีของนีล แคชคารี ประธาน Fed สาขามินนีแอโพลิส ซึ่งไม่มีอำนาจลงมติกำหนดนโยบายในปีนี้ แต่ได้เข้าร่วมประชุมหารือ ซึ่งเขาให้ความเห็นเพิ่มเติมว่า Fed ควรนำมาตรการ Forward Guidance มาใช้กระตุ้นเศรษฐกิจควบคู่ไปด้วย
- วานนี้ธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) เปิดเผยรายงานการประชุมประจำเดือนกรกฎาคมที่มีมติให้ปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลง 0.25% โดยรายงานการประชุมระบุว่า การปรับอัตราดอกเบี้ยครั้งล่าสุดนั้นเป็นการปรับแบบ Mid-Cycle Adjustment เพื่อปรับท่าทีของธนาคารกลางต่อเศรษฐกิจ เนื่องจากเศรษฐกิจสหรัฐฯ ยังมีความแข็งแกร่งในส่วนของการใช้จ่ายการบริโภคจากตลาดแรงงานที่แข็งแกร่ง แต่ภาคการลงทุนโดยเฉพาะภาคการเกษตรและก่อสร้างเริ่มมีสัญญาณชะลอตัว ขณะที่มีความกังวลว่าการที่อัตราเงินเฟ้อต่ำกว่าเป้าหมายอย่างต่อเนื่องอาจส่งผลให้มีการปรับลดอัตราเงินเฟ้อเป้าหมาย และทำให้บรรลุเงินเฟ้อเป้าหมายเดิมได้ยาก ทั้งนี้ การปรับลดดอกเบี้ยดังกล่าว เป็นไปเพื่อบริหารความเสี่ยงจากความไม่แน่นอนกรณีสงครามการค้า และเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจเพื่อเร่งอัตราเงินเฟ้อให้กลับเข้าสู่เป้าหมายเร็วขึ้น
- จับตา PMI เยอรมนีและสหภาพยุโรป โดยวันนี้เยอรมนีและสหภาพยุโรปมีกำหนดจะประกาศตัวเลขดัชนี Manufacturing PMI (เบื้องต้น) ซึ่งนักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะอยู่ที่ระดับ 43.0 และ 46.3 ตามลำดับ ซึ่งอยู่ในแดนหดตัวทั้งคู่ และอาจกดดันเศรษฐกิจทั้งเยอรมนีและสหภาพยุโรปเพิ่มเติม หลังจากที่ก่อนหน้านี้มีรายงาน GDP ของเยอรมนีที่ขยายตัว 0% พร้อมกระแสคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ว่าเศรษฐกิจเยอรมนีจะเข้าสู่ภาวะถดถอยทางเทคนิคในไตรมาสที่ 3 สืบเนื่องจากยอดการส่งออกสินค้าอุตสาหกรรมและรถยนต์มีแนวโน้มลดลงอย่างต่อเนื่อง จากความกังวลกรณีสงครามการค้า และกรณีพิพาทผู้ผลิตเครื่องบิน
- ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ ประกาศยกเลิกการเดินทางเยือนกรุงโคเปนเฮเกน ประเทศเดนมาร์ก ตามคำเชิญของสมเด็จพระราชินีนาถมาร์เกรเธอที่ 2 หลัง เมตเต เฟรเดอริกเซน นายกรัฐมนตรีเดนมาร์กยืนยันว่า ไม่สนใจที่จะหารือเกี่ยวกับการขายเกาะกรีนแลนด์ หลังสหรัฐฯ แสดงความประสงค์ที่จะเจรจาขอซื้อดินแดนดังกล่าว โดยนักวิเคราะห์มองว่า สหรัฐฯ ต้องการซื้อกรีนแลนด์เพื่อเสริมสร้างยุทธศาสตร์ทางการทหาร และคาดหวังสินทรัพย์กลุ่มน้ำมันและแร่ธาตุที่ยังไม่ถูกสำรวจในกรีนแลนด์
ภาวะตลาดวานนี้
- เอเชียยังไร้ปัจจัยกำหนดทิศทาง แม้สถานการณ์ความวุ่นวายทางการเมืองในฮ่องกงยังคงอยู่ ขณะที่ตลาดหุ้นยุโรปปิดตลาดในแดนบวก หลังนักลงทุนเข้าเก็งรายงานการประชุมธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) เช่นเดียวกับตลาดหุ้นสหรัฐฯ ที่ปรับตัวขึ้นอีกหลังมีการเผยรายงานการประชุม Fed ออกมา ซึ่งความเห็นในรายงานดังกล่าวมีการแสดงความกังวลต่อสงครามการค้า โดยกรรมการบางคนเสนอปรับลดดอกเบี้ยอย่างต่อเนื่องเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ และเป้าหมายเงินเฟ้อจากระดับ 2% ถึงแม้ตลาดจะตอบรับในเชิงบวกต่อรายงานดังกล่าว แต่ Risk Indicator เช่น ราคาทองคำ และอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ ยังไม่มีสัญญาณถึงเงินทุนไหลออกเช่นกัน
ยุโรป
- Euro Stoxx 50 ปิดที่ 3394.89 เพิ่มขึ้น 44.66 (1.33%)
- DAX ปิดที่ 11802.85 เพิ่มขึ้น 151.67 (1.3%)
- FTSE 100 ปิดที่ 7203.97 เพิ่มขึ้น 78.97 (1.11%)
- FTSE MIB ปิดที่ 20847.07 เพิ่มขึ้น 361.64 (1.77%)
เอเชีย
- Nikkei 225 ปิดที่ 20618.57 ลดลง -58.65 (-0.28%)
- S&P/ASX 200 ปิดที่ 6483.3 ลดลง -61.7 (-0.94%)
- Shanghai ปิดที่ 2880.33 เพิ่มขึ้น 0.33 (0.01%)
- Hang Seng ปิดที่ 26270.04 เพิ่มขึ้น 38.5 (0.15%)
- SET ปิดที่ 1638.24 เพิ่มขึ้น 12.67 (0.78%)
- KOSPI ปิดที่ 1964.65 เพิ่มขึ้น 4.4 (0.22%)
- BSE Sensex ปิดที่ 37060.37 ลดลง -267.64 (-0.72%)
อเมริกา
- Dow 30 ปิดที่ 26202.73 เพิ่มขึ้น 240.29 (0.93%)
- S&P 500 ปิดที่ 2924.43 เพิ่มขึ้น 23.92 (0.82%)
- Nasdaq ปิดที่ 8020.21 เพิ่มขึ้น 71.65 (0.9%)
Commodity
- ราคาน้ำมันดิบ WTI ปิดที่ 56.08 ดอลลาร์/บาร์เรล ลดลง -0.06 (-0.11%)
- ราคาน้ำมันดิบเบรนท์ ปิดที่ 60.02 ดอลลาร์/บาร์เรล เพิ่มขึ้น 0.28 (0.47%)
- ราคาทองคำ ปิดที่ 1517.25 ดอลลาร์/ออนซ์ เพิ่มขึ้น 5.65 (0.37%)
พิสูจน์อักษร: ลักษณ์นารา พักตร์เพียงจันทร์
อ้างอิง:
- InfoQuest
- Bloomberg
- Investing
- CNBC