- ญี่ปุ่นผ่อนปรนการส่งออกวัสดุไฮเทคบางส่วนให้เกาหลีใต้ โดยสื่อเกาหลีใต้รายงานว่ารัฐบาลญี่ปุ่นได้อนุมัติการจัดส่งวัสดุไฮเทคไปยังเกาหลีใต้เป็นครั้งที่ 2 นับตั้งแต่ที่ญี่ปุ่นได้เริ่มคุมเข้มการส่งออกเมื่อเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา ความเคลื่อนไหวดังกล่าวเกิดขึ้นก่อนหน้าการประชุมระหว่างรัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศญี่ปุ่นกับเกาหลีใต้ที่กรุงปักกิ่งในวันพุธนี้ ท่ามกลางความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศที่ย่ำแย่ลงเรื่อยๆ สำหรับวัสดุที่ญี่ปุ่นอนุมัติคือสารไวแสง ซึ่งเป็นวัสดุที่จำเป็นสำหรับการผลิตชิปชั้นสูงของซัมซุง อิเลคโทรนิคส์ โดยการอนุมัติในครั้งนี้นับเป็นครั้งที่ 2 หลังจากที่เมื่อต้นเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา ญี่ปุ่นได้อนุมัติการส่งออกสารไวแสงให้กับซัมซุงไปครั้งหนึ่งแล้ว
- คณะรัฐมนตรียังไม่อนุมัติฟรีวีซ่า จีน-อินเดีย สนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรีว่าที่ประชุมครั้งนี้มีการหารือมาตรการกระตุ้นการท่องเที่ยว โดยคณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติมาตรการต่ออายุการยกเว้นค่าธรรมเนียม VOA ที่จะหมดอายุลงในเดือนตุลาคมนี้ โดยจะต่ออายุถึงวันที่ 30 เมษายน 2563 เพื่อกระตุ้นการท่องเที่ยว ทั้งนี้ในที่ประชุมมีการเสนอมาตรการฟรีวีซ่าให้จีนและอินเดียเพื่อกระตุ้นการท่องเที่ยว แต่คณะรัฐมนตรียังไม่เห็นชอบ เพราะต้องมีการหารือกันในทุกมิติก่อน
- คณะรัฐมนตรีจีนอนุมัติโครงการพัฒนานครเซินเจิ้น และควบรวมเศรษฐกิจของฮ่องกงและมาเก๊าเข้าด้วยกัน เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพทางเศรษฐกิจและคงสถานะศูนย์กลางทางการเงินของพื้นที่ดังกล่าวเอาไว้ท่ามกลางสถานการณ์ความตึงเครียดจากเหตุประท้วงในฮ่องกง โดยโครงการพัฒนาดังกล่าวจะประกอบไปด้วยการพัฒนาการปกครองทางสังคม และการให้เงินสนับสนุนโรงพยาบาลต่างๆ
- จับตารายงานการประชุม FOMC โดยหลังจากที่คณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินสหรัฐฯ (FOMC) ได้ประชุมและตัดสินใจปรับลดอัตราดอกเบี้ยไปเมื่อช่วงปลายเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา คืนวันนี้จะมีการเปิดเผยรายงานการประชุมที่นักลงทุนจับตามอง เพื่อพิจารณาถึงรายละเอียดในถ้อยคำของการประชุมดังกล่าวและคาดการณ์ท่าทีของธนาคารกลางต่อไปในอนาคต ซึ่งในปัจจุบัน FOMC ถูกกดดันอย่างหนักจาก ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ให้มีการปรับลดอัตราดอกเบี้ยอย่างต่อเนื่องเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจและทำให้สกุลเงินดอลลาร์ไม่แข็งค่าจนเกินไป
- ทรัมป์ขู่ยุโรปก่อนเจรจากันอีกครั้ง หลังจากช่วงปลายเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา สหรัฐฯ ได้ลงนามในข้อตกลงร่วมกับสหภาพยุโรปเพื่อลดอุปสรรคทางการค้าระหว่างกัน ส่งผลให้เกษตรกรสหรัฐฯ สามารถส่งออกเนื้อวัวปลอดภาษีไปยังยุโรปได้มากขึ้น 46% ภายในปีแรก ล่าสุดวานนี้ โดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ กล่าวถึงยุโรปอีกครั้งว่าเป็นภูมิภาคที่มีการต่อรองที่สูง อย่างไรก็ตาม สหรัฐฯ มีไพ่ในมือที่เหนือกว่า สิ่งที่ต้องทำก็แค่ขึ้นภาษีนำเข้ารถยนต์เท่านั้น ยุโรปก็พร้อมที่จะมอบทุกอย่างให้กับเรา เนื่องจากยุโรปส่งออกรถยนต์อย่าง Mercedes-Benz และ BMW จำนวนมากเข้ามายังสหรัฐฯ ซึ่งท่าทีดังกล่าวมีขึ้นก่อนที่ทรัมป์จะพบปะกับกลุ่มผู้นำยุโรปในช่วงสุดสัปดาห์นี้ ซึ่งถูกคาดการณ์ว่าจะมีการเจรจาการค้าเพื่อแก้ไขปัญหาการเกินดุลกันอีกครั้ง
ภาวะตลาดวานนี้
- ตลาดยังไร้ทิศทางชัดเจน โดยตลาดเอเชียปรับตัวผสมผสาน ขณะที่ตลาดหุ้นยุโรปและสหรัฐฯ ปรับตัวดีขึ้นในช่วงตลาดเปิด แต่อ่อนตัวลงต่อเนื่องในช่วงท้ายการซื้อขายก่อนปิดลบวานนี้ ทั้งนี้คาดว่าตลาดรอจับตาแนวโน้มนโยบายการเงินจากธนาคารกลางสำคัญจากสหรัฐฯ และยุโรป ซึ่งจะมีการแถลงต่อสื่อในวันพฤหัสบดีนี้
- หุ้นไทยปรับตัวลงวานนี้ โดยส่วนหนึ่งได้รับผลกระทบจากการปรับตัวลงของหุ้น AOT จากเหตุกังวลที่คณะรัฐมนตรียังไม่อนุมัติฟรีวีซ่า จีน-อินเดีย ซึ่งอาจกระทบต่อยอดนักท่องเที่ยวซึ่งเป็นแหล่งรายได้สำคัญ โดย AOT ปิดที่ (-1.75%) ซึ่งเป็นอันดับหนึ่ง Most active value ขณะที่ภาคธนาคาร (-1.36%) ก็ยังเป็นกลุ่มหลักที่กดดันตลาดอย่างต่อเนื่อง นับตั้งแต่ธนาคารแห่งประเทศไทยประกาศลดอัตราดอกเบี้ยนโยบาย
ยุโรป
- Euro Stoxx 50 ปิดที่ 3350.23 ลดลง 18.96 (-0.56%)
- DAX ปิดที่ 11651.18 ลดลง 64.19 (-0.55%)
- FTSE 100 ปิดที่ 7125 ลดลง 64.65 (-0.9%)
- FTSE MIB ปิดที่ 20485.43 ลดลง 230.06 (-1.11%)
เอเชีย
- Nikkei 225 ปิดที่ 20677.22 เพิ่มขึ้น 114.06 (+0.55%)
- S&P/ASX 200 ปิดที่ 6545 เพิ่มขึ้น 77.6 (+1.2%)
- Shanghai ปิดที่ 2880 ลดลง 3.09 (-0.11%)
- Hang Seng ปิดที่ 26231.54 ลดลง 60.3 (-0.23%)
- SET ปิดที่ 1625.57 ลดลง 11.69 (-0.71%)
- KOSPI ปิดที่ 1960.25 เพิ่มขึ้น 20.35 (+1.05%)
- BSE Sensex ปิดที่ 37328.01 ลดลง 74.48 (-0.2%)
อเมริกา
- Dow 30 ปิดที่ 25962.44 ลดลง 173.35 (-0.66%)
- S&P 500 ปิดที่ 2902.3 ลดลง 21.35 (-0.73%)
- Nasdaq ปิดที่ 7948.56 ลดลง 54.25 (-0.68%)
Commodity
- ราคาน้ำมันดิบ WTI ปิดที่ 56.08 ดอลลาร์/บาร์เรล ลดลง 0.06 (-0.11%)
- ราคาน้ำมันดิบเบรนท์ ปิดที่ 60.02 ดอลลาร์/บาร์เรล เพิ่มขึ้น 0.28 (+0.47%)
- ราคาทองคำ ปิดที่ 1517.25 ดอลลาร์/ออนซ์ เพิ่มขึ้น 5.65 (0.37%)
พิสูจน์อักษร: ภาสิณี เพิ่มพันธุ์พงศ์
อ้างอิง:
- Infoquest
- Bloomberg
- Investing
- CNBC