ผู้ประท้วงชาวฮ่องกงนับล้านคนชุมนุมครั้งใหญ่ตามกำหนดการของแกนนำนักเคลื่อนไหวเมื่อวานนี้ (18 ส.ค.) ถึงแม้ทางการจีนจะออกมาเตือนเรื่องการประท้วงอย่างผิดกฎหมาย อย่างไรก็ตาม บรรยากาศการชุมนุมครั้งนี้เป็นไปอย่างสงบ ไม่มีเหตุรุนแรงหรือความตึงเครียดเหมือนกับการประท้วงตลอดช่วง 10 สัปดาห์ที่ผ่านมา
ผู้จัดการประท้วงระบุว่า มีผู้ชุมนุมมากถึง 1.7 ล้านคนที่ออกมาเดินขบวนเมื่อวานนี้ หรือคิดเป็น 1 ใน 4 ของจำนวนประชากรฮ่องกงทั้งเกาะ โดยเริ่มจากการชุมนุมที่วิกตอเรียพาร์กในเขตคอสเวย์เบย์เมื่อช่วงบ่าย ท่ามกลางสายฝนที่โปรยปรายลงมา จนทำให้ภาพสวนสาธารณะดังกล่าวกลายเป็นทะเลร่ม
จากนั้นผู้ประท้วงได้เดินขบวนมุ่งหน้าสู่ย่านเซ็นทรัล ซึ่งเป็นศูนย์กลางธุรกิจของฮ่องกง ถึงแม้ตำรวจได้สั่งห้ามการชุมนุมในพื้นที่ดังกล่าวก็ตาม อย่างไรก็ตาม ผู้ประท้วงได้ฝ่าฝืนคำสั่งและมุ่งหน้าสู่ที่ทำการรัฐบาล โดยกลุ่มแนวหน้าเพื่อสิทธิมนุษยชนพลเรือน (Civil Human Rights Front) เผยว่า พวกเขาได้ยื่นคำร้องขอเดินขบวนจากคอสเวย์เบย์ไปยังเขตเซ็นทรัล แต่ตำรวจอนุญาตให้ชุมนุมกันเพียงในบริเวณวิกตอเรียพาร์กเท่านั้น
สำหรับการประท้วงเมื่อวันเสาร์และวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นสุดสัปดาห์ที่ 11 ยุติลงอย่างสันติ โดยไม่มีรายงานการใช้แก๊สน้ำตาหรือกระสุนยางเข้าสลายกลุ่มผู้ชุมนุม
แต่บรรยากาศหลายวันก่อนหน้านี้ค่อนข้างตึงเครียด เมื่อกองทัพจีนนำยานหุ้มเกราะและรถลำเลียงทหารมาจอดที่ศูนย์กีฬาเซินเจิ้นเบย์ ในเมืองเซินเจิ้น ใกล้กับชายแดนฮ่องกง ส่งผลให้เกิดความกังวลว่าจีนอาจตัดสินใจใช้กำลังเข้าปราบปรามผู้ประท้วงอย่างเด็ดขาด ขณะที่สถานทูตจีนในลอนดอนเตือนว่า รัฐบาลจีนจะไม่นั่งดูอย่างนิ่งเฉย หากรัฐบาลฮ่องกงควบคุมสถานการณ์ไม่ได้
ทั้งนี้วิกฤตการเมืองในฮ่องกงมีชนวนมาจากการผลักดันร่างกฎหมายส่งผู้ร้ายข้ามแดน ซึ่งเปิดทางให้จีนสามารถกำจัดผู้ที่เห็นต่างได้ อย่างไรก็ตาม การประท้วงยังคงดำเนินต่อเนื่อง แม้ผู้นำยืนยันว่าร่างกฎหมายได้ตายไปแล้ว ขณะที่ผู้ชุมนุมได้เพิ่มข้อเรียกร้องให้รัฐบาลรับประกันสิทธิเสรีภาพของพลเรือนตามระบอบประชาธิปไตย และต้องการให้ตำรวจรับผิดชอบจากกรณีที่ปราบปรามผู้ประท้วงด้วยกำลังเกินกว่าเหตุก่อนหน้านี้
พิสูจน์อักษร: พรนภัส ชำนาญค้า
อ้างอิง: