นักวิเคราะห์คาดดัชนีหุ้นไทยแกว่งตัวในกรอบแคบ นักลงทุนรอดูข้อมูล GDP สหรัฐฯ และการเจรจาการค้า ซึ่งจะมีผลต่อการพิจารณาปรับลดดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) ตลอดจนการแถลงนโยบายของรัฐบาลที่หนุนตลาด ขณะที่ Moody’s ปรับเพิ่ม Outlook ของไทย ช่วยหนุน Flow ไหลเข้าตลาดเช่นกัน
ประเมินตลาดหุ้นไทยยังแข็งแรงหลังยืนเหนือ 1,720 จุดได้ และมีแรงซื้อหุ้นของนักลงทุนต่างประเทศ หลังไทยได้รัฐบาลใหม่ แนวโน้มดอกเบี้ยโลกอาจพลิกเป็นขาลง อย่างไรก็ตาม เนื่องจากตลาดหุ้นไทยจะหยุดทำการ 3 วัน แต่ต่างประเทศมีเหตุการณ์สำคัญคือการประกาศตัวเลข GDP ไตรมาส 2 ของสหรัฐฯ (คาดขยายตัว 1.8%) ขณะที่จีนและสหรัฐฯ จะเปิดเจรจาการค้าในช่วงที่ตลาดหุ้นไทยหยุด ซึ่งน่าจะทำให้นักลงทุนชะลอการซื้อขายออกไปก่อน
การประชุมธนาคารกลางยุโรป (ECB) ส่งสัญญาณเตรียมผ่อนคลายนโยบายการเงินในเดือนกันยายน ซึ่งจะเป็นได้ทั้งการใช้มาตรการ QE และลดดอกเบี้ยลงอีก ขณะที่อังกฤษยังมีแนวโน้มที่จะแยกตัวจากสหภาพยุโรปโดยที่สามารถทำข้อตกลงได้ทันเส้นตาย
แต่ตัวแปรเหล่านี้ รวมทั้งข่าวที่สภาผู้แทนราษฎรของสหรัฐฯ ผ่านร่างงบประมาณรายจ่าย 2 ปี ที่หนุนสกุลเงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้น จะมีผลลบต่อราคาน้ำมัน ทองคำ และเงินบาทอ่อนค่าลง (คาดเงินบาทอ่อน ไม่มีผลให้ต่างชาติซื้อหุ้นไทยน้อยลง)
ส่วนตัวแปรในประเทศที่สำคัญๆ คือ Moody’s ปรับแนวโน้มเศรษฐกิจ (Outlook) ของไทยจาก Stable เป็น Outlook ซึ่งเพิ่มความเชื่อมั่นให้นักลงทุน แน่นอนว่าเหตุผลหลักๆ มาจากการมีรัฐบาลใหม่ และวันนี้ PTTEP, SCC จะมีการนำส่งงบการเงิน ซึ่งจะมีผลต่อราคาหุ้นทั้งสองตัว ส่วนเหตุการณ์ที่น่าติดตามวันนี้คือ หอการค้าจะแถลงเรื่องการปรับค่าแรงขั้นต่ำ
ภาพรวมตลาดอาจเคลื่อนไหว Sideway ในวันนี้ แต่นักวิเคราะห์จากบริษัทหลักทรัพย์ KTBST ยังมองเห็นเป้า 1,750 จุดในสัปดาห์หน้า จาก Flow ที่เข้าตลาดจากรัฐบาลใหม่ และการผ่อนคลายนโยบายการเงินของบรรดาธนาคารกลาง นอกจากนี้ยังมีการประเมินการเจรจาการค้าและการปรับลดดอกเบี้ยของ Fed ว่าจะออกมาเป็นบวกต่อตลาด (หาก Fed ลดดอกเบี้ย 0.25% จะบวกต่อตลาดมากที่สุด)
พิสูจน์อักษร: พรนภัส ชำนาญค้า
อ้างอิง:
- บริษัทหลักทรัพย์ KTBST
