×

Destination Capital ผนึก KTBST SEC และ MFC เตรียมระดมทุน ตั้งกอง Private Equity Trust ลงทุนโรงแรมในไทย

โดย THE STANDARD TEAM
01.10.2020
  • LOADING...
UPDATE Destination Capital KTBST SEC MFC เตรียมระดมทุน ตั้งกอง Private Equity Trust ลงทุนโรงแรมในไทย

Destination Capital PTE. LTD. (DC) ผนึกบริษัทหลักทรัพย์ เคทีบี (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) (KTBST SEC) และบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน เอ็มเอฟซี จำกัด (มหาชน) (MFC) ลงนามในสัญญาก่อตั้งทรัสต์เพื่อระดมทุนจัดตั้ง DESCAP 1 Private Equity Trust เพื่อซื้อธุรกิจโรงแรมในไทย พร้อมวางเป้าหมายให้โอกาสผลตอบแทนที่ดีระยะยาวให้กับนักลงทุนที่ประมาณ 15% ต่อปี ในระยะเวลา 5-7 ปี

เจมส์ แคพแลน ประธานกรรมการบริหาร บริษัท เดซติเนชั่น แคปปิตอล พีทีอี จำกัด เปิดเผยว่าบริษัทก่อตั้งขึ้นเพื่อบริหารจัดการสินทรัพย์โรงแรมและรวบรวมเงินลงทุนเพื่อเข้าซื้อกิจการโรงแรมและรีสอร์ตที่มีโอกาสสร้างมูลค่าเพิ่ม โดยการลงนามความร่วมมือในครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อระดมเงินทุนจัดตั้งทรัสต์เพื่อกิจการเงินร่วมลงทุน DESCAP 1 Private Equity Trust หรือ ‘กองทรัสต์’ โดยมีพันธมิตรจาก KTBST SEC ทำหน้าที่เป็นผู้ก่อตั้งทรัสต์และผู้จัดการกองทรัสต์ (Trust Settlor and Trust Manager) และ MFC เป็นทรัสตี (Trustee)

สำหรับกลยุทธ์การลงทุนของ DESCAP 1 Private Equity Trust มีโมเดลธุรกิจในการร่วมทุนพัฒนาธุรกิจเพื่อเข้าไปซื้อกิจการรีสอร์ตและโรงแรมในเมืองใหญ่ และนำมาปรับปรุงตกแต่ง (Renovate) พร้อมเปลี่ยนตำแหน่งทางการตลาด (Reposition) และปรับภาพลักษณ์แบรนด์ (Rebrand) เพื่อเพิ่มมูลค่าให้กับสินทรัพย์ สร้างผลตอบแทนให้สูงขึ้น และนำกำไรจ่ายผลตอบแทนให้กับผู้ลงทุนในกองทรัสต์ (ผู้ถือหน่วยทรัสต์) ซึ่งด้วยประสบการณ์ของเดซติเนชั่นกรุ๊ป ซึ่งเป็นบริษัทแม่ที่ประสบความสำเร็จในการบริหารธุรกิจโรงแรมทั้งในประเทศไทยและภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกนานกว่า 24 ปีที่เข้าซื้อกิจการโรงแรมและเพิ่มมูลค่า จึงเชื่อมั่นได้ว่าจะสามารถพัฒนาโรงแรมให้มีมูลค่าเพิ่มและสามารถสร้างโอกาสผลตอบแทนที่ดีให้กับผู้ลงทุนได้

“พวกเรารู้สึกเป็นเกียรติที่จะมีบทบาทสำคัญในการช่วยฟื้นฟูอุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทย โดยการระดมเงินเพื่อจัดตั้ง DESCAP 1 Private Equity Trust นี้ได้รับความร่วมมือจาก KTBST SEC ในฐานะ Trust Manager เข้ามาเป็นพันธมิตรร่วมมือในการช่วยระดมเงินทุนจากนักลงทุนเพื่อเพิ่มสภาพคล่องให้กับภาคธุรกิจโรงแรม หลังจากที่ได้รับผลกระทบในช่วงล็อกดาวน์ บางส่วนขาดสภาพคล่องจนต้องปิดกิจการ ให้สามารถกลับมาเดินหน้าเปิดบริการได้อีกครั้ง ซึ่งมีส่วนสำคัญในการจ้างงานและกระตุ้นเศรษฐกิจ สร้างความพร้อมให้กับธุรกิจโรงแรมในประเทศไทยเพื่อรองรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ และให้ประเทศไทยเป็นประเทศเป้าหมายด้านการท่องเที่ยวระดับโลก (Global Travel Destination)” เจมส์กล่าว

เจมส์กล่าวเพิ่มเติมว่า DESCAP 1 Private Equity Trust ยึดเป้าหมายการลงทุนในประเทศไทยเป็นหลัก เนื่องจากมีโอกาสที่การท่องเที่ยวจะกลับมาฟื้นฟูได้ หลังจากที่ในปี 2562 มีนักท่องเที่ยวสูงถึง 40 ล้านคนต่อปี แต่ในปี 2563 ที่ทั่วโลกต้องเผชิญกับวิกฤตการระบาดของโควิด-19 จึงคาดว่าจะเหลือจำนวนนักท่องเที่ยวประมาณ 7 ล้านคนต่อปี ซึ่งที่ผ่านมาก่อนช่วงวิกฤตโควิด-19 นักท่องเที่ยวทั้งหมดได้เข้ามาในประเทศไทยตั้งแต่เดือนมีนาคม 2563 แล้ว โดยคาดว่าจำนวนนักท่องเที่ยวจะค่อยๆ ฟื้นตัวในปี 2564 หลังจากที่มีวัคซีนออกมา และสายการบินเริ่มกลับมาบินตามปกติ

โดยกองทรัสต์นี้จะเข้าซื้อกิจการโรงแรมและรีสอร์ตที่ได้กรรมสิทธิ์ 100% (Freehold) ในทำเลเมืองท่องเที่ยวสำคัญ ประกอบด้วย กรุงเทพฯ พัทยา หัวหิน และภูเก็ต เพราะมีโอกาสฟื้นตัวได้อย่างรวดเร็วที่สุด

ณัฐพงศ์ ณ ระนอง ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร KTBST SEC เปิดเผยว่าการเตรียมระดมเงินทุนเพื่อจัดตั้ง DESCAP 1 Private Equity Trust มีกลุ่มเป้าหมาย 2 กลุ่มหลักๆ คือนักลงทุนสถาบันและนักลงทุนรายใหญ่ที่สนใจลงทุนในธุรกิจโรงแรมสามารถนำเงินมาลงทุนในกองทรัสต์ได้ โดยกองทรัสต์มีแผนที่จะระดมทุนเพื่อซื้อกิจการโรงแรมเพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับสินทรัพย์ และเป็นการสร้างและพัฒนาธุรกิจโรงแรมเพื่อรองรับการเติบโตจากอุตสาหกรรมท่องเที่ยวในประเทศที่สร้างรายได้อย่างมาก

ทั้งนี้ กองทรัสต์นี้อยู่ภายใต้การกำกับดูแลของสำนักงาน ก.ล.ต. และคาดว่าจะเปิดให้ผู้ลงทุนในและต่างชาติที่สนใจจองซื้อหน่วยทรัสต์ในช่วงเดือนตุลาคม โดยมีมูลค่าจัดตั้งกองทรัสต์เป้าหมายอยู่ที่ 2,500 ล้านบาท โดยกองทรัสต์นี้มีระยะเวลาการลงทุน 5 ปี และขยายเวลาลงทุนได้อีกไม่เกิน 2 ปี และมีผลตอบแทนเป้าหมายที่ 15% ต่อปี*

ทั้งนี้ KTBST SEC ได้รับการติดต่อจากบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนและบริษัทหลักทรัพย์หลายแห่ง ซึ่งมีความประสงค์จะเข้าร่วมเป็นผู้จัดจำหน่ายหน่วยทรัสต์ของกองทรัสต์นี้ ซึ่งแสดงให้เห็นว่านักลงทุนมองเห็นโอกาสการลงทุนในอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวไทย และเชื่อมั่นในผลงานที่ผ่านมาในการบริหารโรงแรมของ DC ซึ่งเป็นผู้บริหารสินทรัพย์กองทรัสต์นี้

ทั้งนี้ การลงทุนผ่าน Private Equity Trust แม้ว่าจะเป็นธุรกรรมที่ค่อนข้างใหม่สำหรับประเทศไทย แต่ในต่างประเทศมีการดำเนินการมานานแล้ว ซึ่งการลงทุนในกองทรัสต์สามารถสร้างโอกาสผลตอบแทนที่สูงให้กับผู้ลงทุน

“ด้วยประสบการณ์ของ KTBST SEC ในฐานะผู้ก่อตั้งทรัสต์และผู้จัดการกองทรัสต์ (Trust Settlor and Trust Manager) และ MFC ในฐานะทรัสตี และบริษัท เดซติเนชั่น แคปปิตอล พีทีอี จำกัด ในฐานะผู้บริหารสินทรัพย์ (Asset Manager) ที่นำเงินไปลงทุนเพื่อช่วยธุรกิจโรงแรมให้มีสภาพคล่องและช่วยสร้างมูลค่าให้สินทรัพย์ ถือเป็นประโยชน์กับทั้งเจ้าของธุรกิจ และเพิ่มทางเลือกให้นักลงทุนได้มีสินทรัพย์ที่หลากหลายขึ้นในพอร์ตการลงทุน” ณัฐพงศ์กล่าว

*ผู้ลงทุนควรทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไข ผลตอบแทน และความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน

 

พิสูจน์อักษร: ภาสิณี เพิ่มพันธุ์พงศ์

  • LOADING...

READ MORE




Latest Stories

Close Advertising