ประชาชนออสเตรเลียหลายล้านคนเข้าคูหาเลือกตั้งทั่วไปในวันนี้ (18 พ.ค.) เพื่อเลือกสมาชิกรัฐสภาและนายกรัฐมนตรีคนใหม่ โดยศึกครั้งนี้เป็นการชิงชัยกันระหว่างสกอตต์ มอร์ริสัน นายกรัฐมนตรีคนปัจจุบัน กับบิล ชอร์เทน ผู้นำฝ่ายค้านจากพรรคเลเบอร์ ขณะที่นโยบายเรื่องสิ่งแวดล้อม และการแก้ปัญหาโลกร้อนของผู้สมัครเป็นประเด็นที่ชาวออสเตรเลียให้ความสนใจเป็นพิเศษ
การเลือกตั้งครั้งนี้มีชาวออสเตรเลียราว 16.5 ล้านคนที่ลงทะเบียนใช้สิทธิ ขณะที่ประชาชนกว่า 4.7 ล้านคนได้ใช้สิทธิเลือกตั้งล่วงหน้าไปก่อนหน้านี้ โดยหน่วยเลือกตั้งเปิดให้ประชาชนเข้าคูหาลงคะแนนเสียงตั้งแต่ช่วงเช้าเวลา 8.00 น. ตามเวลาท้องถิ่น และจะปิดหีบลงคะแนนในเวลา 18.00 น. โดยพรรคที่กวาดเสียงข้างมากในสภาผู้แทนราษฎรจะได้จัดตั้งรัฐบาล ซึ่งคาดว่าจะทราบผลอย่างไม่เป็นทางการในค่ำคืนวันนี้หรือพรุ่งนี้เช้า
ผู้สังเกตการณ์การเลือกตั้งออสเตรเลียมองว่า ศึกเลือกตั้งครั้งนี้เป็นการขับเคี่ยวกันด้วยอุดมการณ์ที่เข้มข้นที่สุดในรอบหลายปีของออสเตรเลีย โดยนายกฯ มอร์ริสัน ซึ่งเป็นผู้นำพรรคแนวร่วมลิเบอรัล/เนชั่นแนล ชูนโยบายเศรษฐกิจเป็นจุดแข็งที่แตกต่างจากนโยบายของชอร์เทน ซึ่งให้ความสำคัญกับการเพิ่มรายจ่ายเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ
นอกจากนโยบายเศรษฐกิจแล้ว นักวิเคราะห์จากสถาบันเกรตแทนในเมลเบิร์นอย่างแดเนียล วู้ด มองว่า แคมเปญแก้ปัญหาการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศก็เป็นวาระสำคัญที่ประชาชนให้ความสนใจอย่างมาก และอาจเป็นตัวแปรที่ชาวออสเตรเลียตัดสินใจลงคะแนนให้ เพราะในช่วงฤดูร้อนที่ผ่านมา ออสเตรเลียบันทึกสถิติอากาศร้อนที่สุดเป็นประวัติการณ์ ซึ่งทำให้เกิดภัยแล้งและไฟไหม้ทุ่ง รวมถึงคลื่นความร้อนหรือฮีตเวฟ
ก่อนศึกเลือกตั้งจะเปิดฉากขึ้น มอร์ริสันยอมรับว่าการเลือกตั้งครั้งนี้จะขับเคี่ยวกันอย่างสูสี ซึ่งการจะครองเสียงข้างมากในสภาผู้แทนราษฎรได้ ต้องคว้าที่นั่งอย่างน้อย 77 ที่นั่ง ขณะที่พรรคแนวร่วมลิเบอรัล/เนชั่นแนล มีอยู่ 73 ที่นั่งในปัจจุบัน ส่วนพรรคเลเบอร์มี 72 ที่นั่ง
พิสูจน์อักษร: ลักษณ์นารา พักตร์เพียงจันทร์
อ้างอิง: