*เปิดเผยเนื้อหาสำคัญของเรื่อง*
ถึงแม้ว่าแฟนๆ หลายคนจะออกมาบ่นถึงความช้าในการดำเนินเรื่องของ Game of Thrones ซีซัน 8 เอพิโสด 4 กันอยู่บ้าง เพราะใช้เวลาส่วนมากไปกับการขมวดปมความขัดแย้งสำหรับเปิดสงครามตัดสินครั้งสุดท้ายที่เหลือเวลาอีกแค่ 2 เอพิโสดเท่านั้น แต่ยังมีการแสดงให้เห็นถึงความสัมพันธ์ของตัวละครหลายคู่ ที่เห็นถึงการเปลี่ยนแปลงได้อย่างน่าสนใจ
THE STANDARD POP ขอชวนทุกคนย้อนกลับไปทบทวนความสัมพันธ์ดังกล่าว ว่าตลอดระยะเวลา 8 ซีซันที่ผ่านมา มีตัวละครไหนบ้างที่ทีมผู้สร้างใช้เวลาหลายซีซันเพื่อพัฒนาตัวละคร จนมาถึงคลี่คลายกลายเปลี่ยนจาก ‘เพื่อนร้าย’ กลายเป็น ‘เพื่อนรัก’ ที่เผชิญชะตากรรมอันแสนลำบากร่วมกันในท้ายที่สุด
แดเนริส ทาร์แกเรียน / จอราห์ มอร์มอนต์
วันแรกที่รู้จักกัน จอราห์เข้ามาหาในฐานะสปายคอยส่งข้อมูลของแดเนริสให้กับลอร์ดวาริส เพื่อหวังปลดโทษคดีค้าทาสของตัวเอง แต่ตอนหลังถูกเสน่ห์ ความกล้าหาญ และความดีของแม่มังกรละลายหัวใจ จนสถาปนาตัวเองกลายเป็นข้ารับใช้ที่รัก และภักดีกับแม่มังกรเป็นที่สุด
ส่วนแดเนริสก็รับความหวังดีของจอราห์ไว้ด้วยใจ ให้อภัยที่เขาเคยเป็นสปาย สั่งให้เขาหาทางรักษาโรคเกล็ดเทาให้ได้เพื่อกลับมาหาเธออีกครั้ง แม้ว่าในท้ายที่สุดเธอไม่อาจมอบ ‘ความรัก’ แบบที่จอราห์ปรารถนาคืนกลับให้เขา แถมยังแต่งตั้งทีเรียน แลนนิสเตอร์ เป็น ‘หัตถ์ของราชินี’ แทนเขา แต่จอราห์ก็ยังคงเป็นคนที่ซื่อสัตย์กับเธอมากที่สุด เขาคือคนเดียวที่กวัดแกว่งดาบเพื่อปกป้องแดเนริสกลางสนามรบที่มองไม่เห็นทางรอด
อย่างน้อยที่สุด การที่แดเนริสมีชีวิตรอดต่อไปได้ ก็นับว่าเป็นวาระสุดท้ายที่สวยงามที่สุดสำหรับชายผู้เปี่ยมไปด้วยความรัก ห่วงใย และความภักดีต่อเธอที่สุด
ซานซา สตาร์ก / ธีออน เกรย์จอย
จากความสับสนในตัวเองของธีออน ที่ถูกพ่อมอบหมายภารกิจให้ล้างแค้นตระกูลสตาร์ก ในขณะเดียวกันเขาก็เติบโตขึ้นมาท่ามกลางพี่น้องสตาร์ก เสมือนเป็นคนในครอบครัวคนหนึ่ง แต่สุดท้ายเขาก็เลือกทรยศกระตูลสตาร์ก จนแรมซีย์ โบลตัน ยึดครองวินเทอร์เฟลได้สำเร็จ และเป็นหนึ่งในต้นเหตุให้ซานซาต้องพบกับโชคชะตาช่วงที่ ‘เลวร้าย’ ที่สุดในชีวิต
ทั้งซานซาและธีออน ต่างเรียนรู้จากความเจ็บปวด จนทั้งคู่ค่อยๆ แข็งแกร่งขึ้นตามลำดับ ซานซากลายมาเป็นผู้นำหญิงแห่งแดนเหนือที่มีคนยอมรับ ส่วนธีออนก็สลัดภาพอดีตที่แสนเลวร้าย กลับมาต่อสู้กับไนต์คิงและกองทัพคนตาย ร่วมกับบรรดา ‘พี่น้อง’ ของเขาอีกครั้ง
ภาพที่ซานซาและธีออนโผกอดกันหลังไม่ได้เจอกันเป็นเวลานาน ภาพที่ธีออนอาสาเป็นคนปกป้องแบรนดอน สตาร์ก ภาพที่ธีออนรวมพลังเฮือกสุดท้ายวิ่งโจมตีไนต์คิงแบบสุดชีวิต รวมทั้งภาพเข็มกลัดหมาป่า สัญลักษณ์แห่งความไว้ใจของซานซา สตาร์ก ก็เป็นเครื่องยืนยันได้เป็นอย่างดีว่า ‘หนี้บาป’ ที่เขาเคยทำไว้ทั้งหมด ได้รับการสะสางและให้อภัยเรียบร้อยแล้ว
อาร์ยา สตาร์ก / เดอะฮาวด์
เริ่มต้นความสัมพันธ์กันด้วยความแค้น จากการที่เดอะฮาวด์ คือเพชฌฆาตที่สังหารไมคาห์ เพื่อนสนิทของเธอ จนอาร์ยาจัดชื่อของเขาไปไว้ในบัญชีสังหารเป็นชื่อแรกๆ แต่จากเหตุการณ์ที่ทั้งคู่ต้องเดินทางร่วมกัน เดอะฮาวด์เริ่มเกิดความรู้สึกเอ็นดูและปกป้องอาร์ยาอยู่หลายครั้ง จนตอนหลังสามารถดื่มด้วยกันได้
ล่าสุดที่ทั้งคู่มีจุดหมายเดียวกันอยู่ที่คิงส์แลนดิ้ง เดอะฮาวด์ต้องการสะสางบัญชีแค้นกับพี่ชายอย่างเดอะเมาท์เทน ส่วนเป้าหมายของอาร์ยา คงไม่พ้นการปิดบัญชีกับเซอร์ซี แลนนิสเตอร์ ให้ได้
จอน สโนว์ / ทอร์มุนด์ ไจแอนส์เบน
อีกหนึ่งเพื่อนรักที่หมายจะเอาชีวิตกันตั้งแต่ต้น พวกเขาเกือบฆ่ากันตายเมื่อครั้งจอนรุกล้ำดินแดนนอกกำแพงพื้นที่ของเหล่าคนเถื่อน ถึงจะเกลียดกัน แต่วันนั้นพวกเขาต่างยอมรับในฝีมือและจิตใจที่ห้าวหาญซึ่งกันและกันเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะความปรารถนาดีของจอนที่ต้องการหาบ้านเป็นหลักแหล่งให้กับเหล่าคนเถื่อน และใช้ชีวิตร่วมกันอย่างสันติ
ตอนหลังทอร์มุนด์พากองทัพนักรบคนเถื่อนมาช่วยจอนสู้ศึกสำคัญหลายครั้ง โดยเฉพาะสงครามกับเหล่าไวต์วอล์กเกอร์ ที่ทอร์มุนด์มีส่วนสำคัญอย่างมาก ล่าสุดทอร์มุนด์ขอพาคนเถื่อนกลับไปอยู่พื้นที่นอกกำแพงอีกครั้ง จอนขอฝากโกสต์ให้เดินทางขึ้นเหนือไปด้วย ส่วนทอร์มุนด์กล่าวทิ้งท้ายว่าจอนจะเป็น ‘ราชา’ ของเขาตลอดไป
เจมี แลนนิสเตอร์ / บริแอนน์แห่งทาร์ธ
เริ่มต้นรู้จักกันด้วยคำปรามาส เจมีก็ไม่ต่างจากผู้ชายคนอื่นที่มองบริแอนน์ว่าเป็นนักรบหญิงไม่มีคนยอมรับ ส่วนบริแอนน์ก็มองเจมีเป็นเพียงผู้ชายที่ชอบดูถูกเธอ และเธอส่งผู้ชายพวกนั้นลงไปนอนคลุกฝุ่นที่พื้นมานักต่อนัก
แต่การใช้ชีวิตเสี่ยงตายร่วมกัน (เจมีเสียมือไปข้างหนึ่งจากการพูดปกป้องไม่ให้บริแอนน์โดนข่มขืน) ทั้งคู่ค่อยๆ เปิดใจให้กันมากขึ้น เจมีถึงขนาดยอมยกดาบวาเลเรียนเพื่อให้บริแอนน์ใช้ทำหน้าที่ของตัวเอง ก่องสงครามไวต์วอล์กเกอร์จะเริ่มต้น เจมีแต่งตั้งบริแอนน์ให้เป็น ‘อัศวิน’ ที่เท่าเทียมกับนักรบชายคนอื่น และในตอนล่าสุดบริแอนน์ก็ได้มอบความรักและสัญลักษณ์ของหญิงสาว (ที่เธอปฏิเสธมาตลอด) ให้กับเจมีเช่นกัน
เซอร์ซี แลนนิสเตอร์ / ยูรอน เกรย์จอย
ความสัมพันธ์ที่เต็มไปด้วยการต่อรองผลประโยชน์ที่แต่ละฝ่ายต้องการ เซอร์ซีต้องการให้ยูรอนเป็นคนพากองทัพ Golden Company มาร่วมศึก ส่วนยูรอนก็อยากได้ชื่อว่าเป็น ‘ชายผู้พิชิตราชินี’
ตอนหลังทั้งคู่มีสัมพันธ์ที่ลึกซึ้งต่อกัน ทำให้ยูรอนยิ่งภูมิใจในความเป็น ‘ชาย’ ของตัวเองมากขึ้น แต่สีหน้าและท่าทางของเซอร์ซีคงลึกลับยากต่อการคาดเดาว่าเธอรู้สึกอย่างไรกับยูรอนกันแน่ แต่ที่แน่ๆ เธอเพิ่งหลอกว่าลูกในท้องเป็นของยูรอน (จริงๆ เป็นลูกของเจมี) ซึ่งน่าจับตามองมากๆ ว่าราชินีผู้เต็มไปด้วยแผนการและความเคียดแค้น จะใช้ ‘หมาก’ ตัวสำคัญที่เพิ่งได้รับในศึกตัดสินครั้งสุดท้ายนี้อย่างไร
ทีเรียน แลนนิสเตอร์ / ลอร์ดวาริส
เสนาธิการคนสำคัญที่อยู่เบื้องหลังการปกครองของราชินีแดเนริส เราเห็นตั้งแต่ซีซันแรกๆ ว่าลอร์ดวาริสคือผู้ทรงอิทธิพลที่มีแต้มต่อเหนือคนอื่นด้วย ‘การข่าว’ ที่กว้างขวางเชื่อถือได้ ส่วนทีเรียนก็แสดงให้เห็นถึงการวางแผนการรบการปกครอง รวมทั้งมีวาทศิลป์ในการเจรจาต่อรองที่หาเทียบได้ยาก (ถึงแม้ช่วงหลังๆ จะพลาดบ่อยก็เถอะ!)
ทั้งคู่ต่างทำหน้าที่ของตัวเองอย่างดีที่สุด มีน้อยครั้งที่เราจะได้เห็นทั้งคู่แลกเปลี่ยนความคิดเห็นกัน ซึ่งถ้าคุยกันเมื่อไร เชื่อได้เลยว่านั่นต้องเป็นเรื่องสำคัญแน่ๆ เช่นเดียวกับในเอพิโสดล่าสุด ที่ทั้งคู่ต้องคุยกันว่าสุดท้ายแล้วพวกเขาจะใช้ความสามารถที่มีเพื่อใครกันแน่
ในขณะที่ลอร์ดวาริส มองว่าตอนนี้แดเนริสใจร้อนเกินไป อาจทำให้ผู้บริสุทธิ์เสียชีวิตเป็นจำนวนมากถ้าเลือกโจมตีเซอร์ซีทันที เลยเลือกสนับสนุนจอน สโนว์ (ตอนนี้คือเอกอน ทาร์แกเรียน) ที่คิดว่าเหมาะสมมากกว่าแทน ส่วนทีเรียนถึงแม้จะเคยสงสัยในตัวแดเนริสอยู่บ้าง แต่ก็ยังยืนยันที่จะยืนอยู่ข้างแม่มังกรด้วยความภักดีต่อไป ถึงแม้อุดมการณ์ ณ ตอนนี้จะต่างกัน แต่อย่างน้อยก็เชื่อได้ว่าสองคนที่เคยถูกคนดูมองว่าเป็นตัวละครที่เหลวไหล เปลี่ยนแปลงไปมา ได้กลายเป็นสองเสนาธิการที่ใช้ความสามารถทุกอย่างเพราะ ‘ความหวังดี’ ต่ออาณาจักรจริงๆ
พิสูจน์อักษร: ลักษณ์นารา พักตร์เพียงจันทร์