สิ่งแรกที่พุ่งเข้ามาปะทะในทันทีที่นึกถึง BMW 3 Series ทุกเจเนอเรชันคือ รูปลักษณ์ของคอนโซลที่ทำมุมเข้าหาคนขับ อันเป็นเสน่ห์เฉพาะของบรรดา 3 Series ที่สืบทอดกันมาตั้งแต่ยุคคลาสสิก และถูกฝังเป็นดีเอ็นเอเข้มข้นให้ BMW 3 Series ยังคงครองใจสาวกเรื่อยมา ตั้งแต่ยุคอนาล็อกยันดิจิทัล
ในช่วงเวลาที่วงการฮอลลีวูดทำให้ผู้คนทั่วโลกตาลุกวาวกับภาพยนตร์ไซไฟล้ำยุคอย่าง ET, คนหนุ่มกำลังตกหลุมรัก มาริลิน มอนโร และเป็นยุคที่ยังเห็น จอห์น เลนนอน ใช้ชีวิตเดินเหินปกติ ในห้วงยามนั้นเอง แวดวงยานยนต์โดยค่ายใบพัดสีฟ้าได้ถือกำเนิดรถยนต์โมเดลซีดาน 2 ประตู BMW 3 Series มาเป็นบัดดี้คู่ใจของเหล่าบิมเมอร์ ซึ่งรุ่นต้นตระกูลก็คือ E21 จากความตั้งใจแรกที่จะเป็นเพียงรุ่นอัปเกรดของ BMW 2 Series รูปแบบที่เป็นคูเป้ 2 ประตู กลายเป็นว่าผลผลิตขับเคลื่อนสี่ล้อจากมันสมองของ พอล บราก ผู้ที่เป็น Director of Design ของ BMW ในช่วงเวลานั้น ได้ขยายความนิยมอย่างรวดเร็ว ส่งผลให้ 3 Series ขึ้นแท่นตำนานของ BMW มาจนถึงทุกวันนี้
แต่หากมีเพียงแค่ความสวยงามจากรูปลักษณ์ภายนอก อาจไม่ต่างจากชายหนุ่มที่มีความหล่อเหลาสะดุดตา แต่ขาดความฉลาดและความสามารถก็คงหมดเสน่ห์ในเวลาอันรวดเร็ว ทว่า กับ BMW 3 Series นั้น เป็นหนุ่มหล่อทั้งภายนอกภายใน เพราะจัดเต็มมาอย่างครบเครื่องหมดจดทุกเจเนอเรชันคือ ไม่ได้มีเพียงแค่ดีไซน์ที่ปราดเปรียว แต่ยังเต็มไปด้วยนวัตกรรมและสมรรถนะของเครื่องยนต์ที่เก่งกาจตามยุคสมัย จากรุ่นแรกในปี 1975 ที่มีแค่เครื่องยนต์สี่สูบ M10 ภายใน 2 ปี ถัดจากนั้น ก็พัฒนาเครื่องยนต์หกสูบออกมาสู่ธารกำนัล และในปีเดียวกันนี้เอง BMW 320 E21 ได้เปิดตัวรถ Group 5 ลงสู่สนามแข่ง เพื่อทดแทน BMW 3.0 CSL รถรุ่นพี่ E21 ที่สิงห์นักแข่งรู้จักกันดีในนาม The Flying Brick (อิฐบินได้) เหตุเพราะรูปทรงล้อกับอิฐบล็อก ส่วนเครื่องยนต์นั้นคุมความเร็วด้วย Formula Two ที่น่าทึ่งคือ รถคันนี้ถูกพัฒนาในเวลาเพียง 3 เดือน โดยไร้ซึ่งดราฟต์ใดๆ ทั้งสิ้น และทีมที่ได้เจิม Group 5 320 ก็คือ McLaren จากสหรัฐอเมริกา ในรายการแข่งขัน International Motor Sports Association และคว้าชัยครั้งแรกที่ Zolder ประเทศเบลเยียม โดยมี มาร์ค ซูเรอร์ เป็นคนขับ ต่อมา Group 5 320 ก็ยังคงครองเส้นชัยในปี 1981 และ 1982 จากสนามรายการ Guia Race of Macau
จากสมรรถนะอันเหนือชั้นและกิตติศัพท์ทั้งหลายทั้งปวง เมื่อสั่งสมเวลาล่วงมาได้ 8 ปี เราก็พบว่า ความนิยมของ BMW 3 Series ขยายตัวพุ่งทะยานด้วยยอดขายเกือบ 1,400,000 คันทั่วโลกเลยทีเดียว
แน่นอนว่า เครดิตในการสร้างฐานความนิยมอย่างหนาแน่นต้องยกให้ต้นตระกูลอย่าง E21 ที่ทรงพลังเหลือล้น จนสามารถถ่ายถอดจิตวิญญาณเจ้าถนนจากรุ่นสู่รุ่นได้อย่างเต็มเปี่ยม และนี่คือเหตุผลที่ E21 ยังมีคุณค่าอยู่เสมอ แม้ว่าเรื่องราคารถคลาสสิกในตลาดเยอรมนีจะไม่ค่อยผันผวนมาก แต่ BMW 320 E21 ก็ยังคงเนื้อหอม มีตัวเลขที่พุ่งขึ้นอย่างน่าตกใจ (อ้างอิงจากข้อมูล VDA Oldtimer Index รถ E21 มีมูลค่าเพิ่มขึ้นถึง 61.2% สูงเป็นอันดับ 1 ในตลาดเยอรมนีในช่วงปี 2016-2017)
มาถึงปี 2019 มรดกที่สืบทอดจากรุ่นสู่รุ่นมาอย่างยาวนานได้ก่อร่างขึ้นเป็น The All-New BMW 3 Series ที่มีหัวใจดวงเดิม เพิ่มเติมคือเทคโนโลยีสุดล้ำตามยุคสมัย ไม่ว่าจะเป็นดีไซน์โฉบเฉี่ยว สง่างาม ภายนอกดูสวย ดุดัน คม แน่น ลดจุดศูนย์ถ่วงให้ต่ำลง เพื่อให้ Aerodynamics ดีขึ้น ส่วนภายในยกเครื่องใหม่ทั้งหมด คุณจะรู้สึกได้ถึงห้องโดยสารที่กว้างขวาง เติมเต็มได้ทุกความสะดวกสบายอย่างที่คุณต้องการ เสริมด้วยความชาญฉลาดของ BMW ConnectedDrive ผู้ช่วยอัจฉริยะระหว่างขับรถซึ่งฝังเซนเซอร์ไว้ ให้สามารถแสดงผลสภาพการจราจรจริงแบบเรียลไทม์ และบอกให้คุณรู้เมื่อมีอุบัติเหตุบนท้องถนน เพื่อให้คนสายพันธุ์สมาร์ทไม่ต้องปวดหัวกับปัญหาการจราจรอีกต่อไป ยิ่งไปกว่านั้น ในฐานะบัดดี้คู่การขับขี่ตัวจริง ยังมีฟีเจอร์ Intelligent Personal Assistant เพียงแค่ออกคำสั่งด้วยการทักทายว่า Hey BMW บรรยากาศภายในรถก็จะเปลี่ยนไป ไม่ว่าจะเป็นการสั่งให้เปิดเพลง ปรับอุณหภูมิภายในรถ ปรับไฟ Ambient ในห้องโดยสาร เรียกได้ว่า เป็นรถที่พร้อมจะเพิ่มความสุขทางการขับขี่ให้แก่คุณในทุกมิติ
ในงานมอเตอร์โชว์ปี 2019 นี้ ถึงเวลาแล้วที่ BMW 3 Series เจเนอเรชันล่าสุด จะสานต่อจิตวิญญาณที่สั่งสมมาจากรุ่นสู่รุ่น ออกมาเป็นยนตรกรรมที่ถึงพร้อมทั้งเทคโนโลยี นวัตกรรม งานดีไซน์สวยล้ำ และหัวใจนักแข่ง
พิสูจน์อักษร: ภาวิกา ขันติศรีสกุล
