บุญถึง ศรีสังข์ ปอดเหล็กทีมชาติไทย คว้ารางวัล Best of Thailand ประเภทมาราธอน ครองตำแหน่งแชมป์คนไทย 3 สมัยติดต่อกันในการแข่งขันวิ่ง ‘บุรีรัมย์ มาราธอน 2019’ ด้าน สัญชัย นามเขต นักวิ่งทีมชาติไทยอีกคน ได้แชมป์คนไทยประเภทฮาล์ฟมาราธอนเป็นสมัยที่ 3 เช่นกัน ขณะที่ปอดเหล็กเคนยาสุดแกร่งพาเหรดกวาดแชมป์ทั้งมาราธอนและฮาล์ฟมาราธอน ท่ามกลางกองเชียร์ชาวบุรีรัมย์ที่มารอต้อนรับกว่า 5,000 คนตลอดเส้นทางวิ่ง บรรยากาศสุดอบอุ่นประทับใจ
การแข่งขันวิ่ง ‘บุรีรัมย์ มาราธอน 2019’ ครั้งที่ 3 ชิงเงินรางวัลรวมกว่า 1,650,000 บาท เมื่อวันที่ 10 กุมภาพันธ์ 2562 ออกสตาร์ทที่สนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต จังหวัดบุรีรัมย์ สนามแข่งรถระดับโลกที่จัดการแข่งขันโมโตจีพี และเข้าเส้นชัยที่บุรีรัมย์ คาสเซิล โดยรายการนี้เป็นศึกวิ่งมาราธอนมาตรฐานระดับโลกที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในเมืองไทย ซึ่งในปีนี้การกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) ร่วมจัดการแข่งขันและสนับสนุนอย่างเป็นทางการ ภายใต้คอนเซปต์ ‘Your Ultimate Destination – สวรรค์ของนักวิ่ง’ ซึ่งจัดขึ้นเป็นปีที่ 3 ติดต่อกัน ท่ามกลางนักวิ่งเต็มโควตา 24,000 คน โดยมี ธีรวัฒน์ วุฒิคุณ ผู้ว่าราชการจังหวัดบุรีรัมย์ เป็นประธานเปิดการแข่งขัน ร่วมด้วย ดร.ก้องศักดิ์ ยอดมณี ผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทย
สำหรับการแข่งขันแบ่งเป็น 4 ระยะทาง ประกอบด้วย มาราธอน 42.195 กิโลเมตร, ฮาล์ฟมาราธอน 21.1 กิโลเมตร, มินิมาราธอน 10 กิโลเมตร และฟันรัน 7 กิโลเมตร
เริ่มจากประเภทมาราธอน 42.195 กิโลเมตร ผู้ที่เข้าเส้นชัยคนแรก ได้แก่ อาร์มอน เคไม (เคนยา) ทำเวลาได้ 2.17.49 ชั่วโมง, อันดับ 2 วิลลี่ กีบอร์ คอยติเล่ (เคนยา) ทำเวลาได้ 2.18.03 ชั่วโมง, อันดับ 3 เดวิด ทารัส (เคนยา) 2.18.45 ชั่วโมง ส่วนนักกีฬาไทยที่เข้าเส้นชัยคนแรก ได้แก่ บุญถึง ศรีสังข์ ปอดเหล็กทีมชาติไทยที่เป็นคนไทยที่เข้าเส้นชัยคนแรก 3 ปีติดต่อกัน ทำเวลาได้ 2.36.01 ชั่วโมง
ด้าน บุญถึง ศรีสังข์ เปิดเผยว่ารู้สึกดีใจมากที่สามารถคว้าแชมป์คนไทยในประเภทมาราธอนเป็นสมัยที่ 3 ติดต่อกัน รวมทั้งสามารถสร้างชื่อเสียงให้กับประเทศไทยได้สำเร็จด้วย สำหรับสนามแข่งขันรายการนี้เป็นสนามที่มีมนต์ขลังที่มีนักกีฬาไทยและต่างประเทศมาแข่งขัน รวมทั้งนักกีฬาทีมชาติไทย หลังจากนี้จะฝึกซ้อมและช่วยดูแลน้องๆ นักกีฬาทีมชาติไทยเพื่อสู้ศึกซีเกมส์ที่ฟิลิปปินส์เป็นเจ้าภาพ ตั้งใจว่าจะทำผลงานให้ดีที่สุดและคว้าเหรียญใดเหรียญหนึ่ง
ขณะที่นักกีฬาหญิงผู้เข้าเส้นชัยคนแรกคือ อันดับ 1 พอลลีน เอ็นเจอรี คาเฮนยา (เคนยา) 2.38.36 ชั่วโมง, อันดับ 2 หลี่จือซวน (จีน) 2.44.03 ชั่วโมง, อันดับ 3 อเมเลเวิร์ค ฟิกาดู โบโช (เอธิโอเปีย) 2.44.42 ชั่วโมง ด้านนักกีฬาสาวไทยที่เข้าเส้นชัยคนแรก ได้แก่ ลินดา จันทะชิต 3.03.35 ชั่วโมง, อันดับ 2 สายปัญญา ตันวิไล 3.35.08 ชั่วโมง, อันดับ 3 ภชพร ลัญฉนวัฒน์ 3.36.29 ชั่วโมง
สำหรับ บุญถึง ศรีสังข์ เป็นนักวิ่งระยะไกลทีมชาติไทย เคยเข้าร่วมการแข่งขันโอลิมปิกในการวิ่งมาราธอนมาแล้ว ส่วน สัญชัย นามเขต นักกีฬาไทยที่เข้าเส้นชัยคนแรกประเภทฮาล์ฟมาราธอนเปิดเผยว่า “ผมเป็นนักกีฬามาราธอนทีมชาติไทย แต่ในรายการนี้มาลงแข่งมินิมาราธอน ผมเป็นชาวสุรินทร์”
ภาพ: Buriram Marathon
พิสูจน์อักษร: ภาสิณี เพิ่มพันธุ์พงศ์
