อากาศติดลบจากลมหมุนขั้วโลกในสหรัฐฯ รุนแรงสุดในรอบหลายทศวรรษ เสียชีวิตแล้วกว่า 20 ราย

หลังจากลมหมุนขั้วโลก Polar Vortex เข้าปกคลุมหลายพื้นที่ของสหรัฐอเมริกา ส่งผลให้ในบางรัฐหิมะตกอย่างหนัก อุณหภูมิติดลบเพิ่มมากขึ้น และเริ่มมีผู้เสียชีวิตจากปรากฏการณ์ทางธรรมชาตินี้แล้ว โดยยังไม่มีรายงานการสรุปจำนวนผู้เสียชีวิตที่แน่ชัด สำนักข่าว BBC ระบุว่ามีผู้เสียชีวิตแล้วอย่างน้อย 8 รายในเขตมิดเวสต์ ในขณะที่สำนักข่าว The New York Times เผยยอดผู้เสียชีวิตในเขตมิดเวสต์เพิ่มสูงขึ้นกว่า 20 คนแล้ว

หนึ่งในจำนวนผู้เสียชีวิตคือเด็กนักเรียนจากรัฐไอโอวาที่ถูกพบร่างเสียชีวิตอยู่ภายนอกอาคารเรียนท่ามกลางอากาศที่หนาวจัด มีผู้ป่วยเข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาลเนื่องจากสภาพอากาศที่เลวร้ายเพิ่มมากขึ้น ในรัฐอิลลินอยส์มีผู้ป่วยถูกนำตัวเข้าห้องฉุกเฉินอย่างน้อย 144 รายในช่วง 2 วันที่ผ่านมา ส่วนใหญ่มาด้วยภาวะอุณหภูมิในร่างกายต่ำผิดปกติ (Hypothermia) และถูกน้ำแข็งกัด

จากข้อมูลสถิติของ NOAA และ National Climatic Data Center บ่งชี้ว่าส่วนใหญ่แล้วรัฐอะแลสกาจะเป็นพื้นที่ที่มีความหนาวเย็นที่สุดของสหรัฐฯ เคยมีอุณหภูมิติดลบถึง -76 องศาฟาเรนไฮต์ (ราว -60 องศาเซลเซียส) เมื่อวันที่ 27 มกราคม 1989 และจากการรายงานของ Midwestern Regional Climate Center ระบุว่ากระแสลมหมุนขั้วโลกในปีนี้ทุบสถิติอุณหภูมิภายในเมืองและชุมชนต่างๆ ทั่วสหรัฐฯ ไปมากกว่า 680 สถิติ อาทิ เมืองเมดิสัน รัฐวิสคอนซิน มีอุณหภูมิต่ำที่สุดวัดได้ -32 องศาเซลเซียส ทำลายสถิติที่บันทึกไว้นับตั้งแต่ปี 1985

ด้วยสภาพอากาศที่เลวร้าย ส่งผลให้เส้นทางรถราง การสัญจรบนท้องถนน รวมถึงเที่ยวบินบางเส้นทางถูกระงับชั่วคราว กระทบต่อพลเมืองอเมริกันหลายสิบล้านคนทั่วประเทศ ทางการคาดว่ายอดผู้เสียชีวิตอาจเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องในช่วงเวลานี้ เตือนพลเมืองให้มีสติและเพิ่มความอบอุ่นให้แก่ร่างกาย

พิสูจน์อักษร: ภาสิณี เพิ่มพันธุ์พงศ์

อ้างอิง: