‘แชมเปญ’ น้ำองุ่นซ่าสีทองอันสื่อถึงความหรูหรา มรดกตกทอดทางประวัติศาสตร์ของชาวฝรั่งเศสแห่งแคว้นชองปาญ (Champagne) แคว้นอันเก่าแก่อันเป็นแหล่งเพาะปลูกองุ่นตอนเหนือสุดของฝรั่งเศสที่โลกรู้จักดี แชมเปญมักถูกนำมาดื่มเป็นสัญลักษณ์แห่งการเฉลิมฉลองชัยชนะ และเป็นเครื่องดื่มของผู้ที่สรรหาการใช้ชีวิตอันน่ารื่นรมย์และชนชั้นสูง ทั้งยังเห็นได้จากบันทึกประวัติศาสตร์ที่ว่าเป็นเครื่องดื่มโปรดของพระนางมารี อ็องตัวแน็ต ราชินีองค์สุดท้ายของราชวงศ์ฝรั่งเศส นี่เป็นเหตุผลที่ว่าทำไมแชมเปญจึงได้รับขนานนามว่าเป็น ‘เจ้าแห่งไวน์ทั้งปวง’
และแน่นอนว่ารสชาติของพรายฟองละเอียดอันงดงามจากแคว้นชองปาญอันลือชื่อในฝรั่งเศสยังถูกนำมาเฉลิมฉลองในคืนพิเศษที่เต็มไปด้วยหมู่ดาวที่จัดขึ้นเมื่อเร็วๆ นี้ที่งานมิชลิน ไกด์ กาล่า ไนต์ ณ โรงแรมพาร์ค ไฮแอท กรุงเทพฯ ซึ่งเหล่าเชฟมิชลินดาวพรายระดับโลกบินตรงมาเพื่อเฉลิมฉลองและรังสรรค์มื้ออาหารสุดพิเศษคู่กับเชฟจากไทยที่ได้รับดาวในปีนี้
พาร์ตเนอร์ทางการของงาน มิชลิน ไกด์ 2019 อย่าง Perrier-Jouët (แปร์ริเอ-ฌูเอต) ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้ผลิตแชมเปญที่เก่าแก่คุณภาพเยี่ยมของโลกจากเมืองเอแปร์เนย์ (Épernay) แห่งแคว้นชองปาญ มีจุดเริ่มต้นแสนโรแมนติกตั้งแต่ปี ค.ศ. 1881 เพื่อเฉลิมฉลองความรักของ เมอซิเออร์ปีแอร์-นีโกลาส์ แปร์ริเอ (Pierre-Nicolas Perrier) และภรรยา โคเซ อาเดเลด ฌูเอต (Rose Adélaide Jouët) โดยได้สร้างสรรค์แชมเปญที่มีความหอมราวกับกลิ่นดอกไม้ และรสสัมผัสอันเป็นเอกลักษณ์ของแชมเปญ Perrier Jouët
และในครั้งนี้ แชมเปญแสนพิเศษนี้ก็ได้ถูกนำมาจับคู่กับอาหารจานเรียกน้ำย่อยชั้นเลิศอย่าง ‘Raw & Crystal Hokkaido Scallops, Celery, Seawater Seasoned With Lemon & Smoked Taramasalata’ ผลงานประดิดประดอยแห่งรสชาติจากฝีมือ เชฟฌอง-ฟรองซัวส์ คูแก็ตต์ (Jean-Francois Rouquette) เชฟมิชลิน 1 ดาวจากห้องอาหาร Pur’ – Jean-François Rouquette โรงแรม Park Hyatt Vendome จากกรุงปารีส
ความสดชื่นของแชมเปญสีทองระยับของ Perrier-Jouët Grand Brut ที่เสิร์ฟคู่กับอาหาร เข้ากับรสชาติแห่งท้องทะเลอันเป็นธีมของค่ำคืนได้อย่างดิบดี กลิ่นหอมของผลไม้จำพวกเลมอน พีช แอพริคอต ไปจนถึงมะม่วง ผสมกับกลิ่นดอกไม้อย่างดอกมะนาว ดอกสายน้ำผึ้ง เคล้าด้วยคลื่นวานิลลาอ่อนๆ ชวนดื่ม ยิ่งทำให้อาหารทะเลจากฮอกไกโดจานนี้โดดเด่น นอกจากนั้นยังมอบรสสัมผัสที่สะอาดชวนรู้สึกตื่นตัวเหมาะกับเป็นคอร์สแรกๆ ของค่ำคืน ความกลมกล่อมของรสชาติแชมเปญยังอ้อยอิ่งในปาก ดึงกลิ่นของผักและมะนาวออกมายิ่งขึ้น และเพิ่มรสชาติของซอสทารามาซาลาตาสไตล์กรีกได้ชัดเจน
นอกเหนือจากความพิศุทธิ์งดงามของฟองในน้ำไวน์ที่มีประวัติความเป็นมาเก่าแก่แล้ว แชมเปญยังมีกระบวนการผลิตอันซับซ้อนมากกว่าไวน์ขาวและไวน์แดงโดยทั่วไปมาก และ Perrier-Jouët Grand Brut เป็นแชมเปญที่เหมาะกับโอกาสนี้เนื่องจากเป็นรุ่นที่ถูกนำมาผสมผสานโดยใช้ความประณีตดุจการเจียระไนเพชร โดยผ่านการคัดเลือกวัตถุดิบต่างๆ อย่างพิถีพิถันตามรายละเอียดของการเก็บเก่ียว และการรีเสิร์ฟไวน์ 12% และ 20% จะถูกเก็บไว้เพียงไม่กี่ปีเท่านั้นเพื่อความสมดุลของสไตล์ของไวน์ โดยขึ้นอยู่กับสภาพอากาศในปีนั้นๆ ด้วย
Perrier-Jouët Grand Brut นั้นใช้องุ่นชาร์ดอนเนย์ 20% จากไร่องุ่นของแปร์ริเอ-ฌูเอต อันเป็นที่รู้จักดีถึงคุณภาพเยี่ยมขององุ่นชาร์ดอนเนย์จากแหล่งเพาะปลูกระดับพรีเมียร์และกรองด์ครูว์ รวมถึงองุ่นพันธุ์ปิโนต์ นัวร์ 40% เพื่อสร้างโครงสร้างบอดี้อันละเอียดอ่อน โดยเป็นองุ่นจากพื้นที่บนเทือกเขาแคงส์ (Montagne de Reims) ทางตอนเหนือและในหุบเขามาร์น (Marne) รวมทั้งยังผสม 40% ขององุ่นพันธุ์ปิโนต์ เมอนิเยร์ เพื่อความกลมกลืนทางรสชาติ เพิ่มกลิ่นและรสที่หอมหวนยวนใจ ซึ่งความซับซ้อนนี้เองที่ทำให้นี่เป็นแชมเปญรุ่นพิเศษที่สามารถเก็บได้นานถึง 3 ปี
นอกจากนั้น Perrier-Jouët Grand Brut ยังเหมาะแก่การจับคู่กับอาหารทะเลจำพวกหอยนางรม หรืออาหารทะเลที่เสิร์ฟคู่กับเลมอนหรือมะนาวได้ดี ไปจนปลาต่างๆ คาร์ปาชิโอ และเนื้อสัตว์ที่มีสีขาว กระทั่งเห็ดชุบแป้งทอดอีกด้วย
อุณหภูมิอากาศที่ลดลงเหมาะแก่การเฉลิมฉลองปลายปีแบบนี้ ลองให้แชมเปญเป็นอีกหนึ่งในตัวเลือกดินเนอร์ของคุณ และเรามีเคล็ด (ไม่) ลับมาฝากเพื่อความสดชื่นและรสชาติที่สมดุลพอเหมาะเพื่อรสที่อร่อยที่สุด โดยแนะให้แช่ที่อุณหภูมิ 7-9 องศาเซลเซียส
แล้วคุณจะรู้ว่ารสสัมผัสของดวงดาวที่ใครๆ ต่างหลงใหลเป็นอย่างไร
พิสูจน์อักษร: พรนภัส ชำนาญค้า