คณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) เผยกลยุทธ์และนโยบายการดำเนินงานปี 2562 ผ่าน 5 เป้าหมายที่สำคัญออกมาเมื่อวันจันทร์ที่ 3 ธันวาคมที่ผ่านมา โดยสาระสำคัญของการประกาศในครั้งนี้อยู่ที่การเตรียมดันใช้ 5G ให้เกิดขึ้นเร็วที่สุด พร้อมช่วยเหลือผู้ประกอบการทีวีดิจิทัลในการแบ่งเบาค่าใช้จ่ายทั้ง Must Carry และ Mux
สำหรับกลยุทธ์การขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ชาติ 5G จะดำเนินการโดยทบทวนการประเมินมูลค่าคลื่นความถี่ (Set Zero โทรคมนาคม) ให้สมเหตุสมผล เหมาะสมกับบริบทอุตสาหกรรม และส่งเสริมการพัฒนาเศรษฐกิจดิจิทัล, ทบทวนเงื่อนไขและระยะเวลาการชำระเงินค่าประมูลคลื่นความถี่ของคลื่นที่ประมูลไปแล้ว และจะนำมาประมูลใหม่เพื่อสร้างแรงจูงใจ
แบ่งวิธีการอนุญาตเป็น 2 รูปแบบคือ ใบอนุญาตที่ใช้งานครอบคลุมการให้บริการครอบคลุมทั่วประเทศ (Nation Wide) และใบอนุญาตแบบที่ครอบคลุมเฉพาะพื้นที่ที่กำหนด (Specific Area) เช่น ในเขตพื้นที่ภาคการผลิตและอุตสาหกรรม รวมถึงกำหนดหลักเกณฑ์การประมูลคลื่นความถี่หลายย่านพร้อมกัน (Multiband) และดำเนินการจัดตั้งศูนย์ทดลองทดสอบ 5G ในเขตพื้นที่กรุงเทพมหานคร
ส่วนการช่วยเหลือเยียวยาผู้ประกอบการทีวีดิจิทัล กสทช. เผยว่า ประกอบไปด้วย 4 แนวทางคือ
1. ปรับปรุงการใช้งานคลื่นความถี่ย่าน 700 MHz เพื่อนำไปใช้ประกอบกิจการโทรคมนาคมให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด (สลับ 470 MHz มาใช้กับทีวีดิจิทัลแทน)
2. สนับสนุนค่าภาระ Must Carry จนถึงปี 2565
3. สนับสนุนค่าใช้จ่ายการออกอากาศผ่านโครงข่ายโทรทัศน์ภาคพื้นดินระบบดิจิทัล (Mux) ร้อยละ 50 ของค่าเช่าโครงข่ายจนถึงปี 2565
4. สนับสนุนให้มีการสำรวจความนิยม (Rating) ของผู้ให้บริการโทรทัศน์ดิจิทัลที่ออกอากาศผ่านโครงข่ายอินเทอร์เน็ต เพื่อนำไปใช้อ้างอิงหารายได้อย่างเป็นธรรม
ขณะที่อีก 3 เป้าหมายในการดำเนินงานของ กสทช. ปี 2562 ประกอบไปด้วย จัดทำแผนและหลักเกณฑ์การอนุญาตสิทธิในการเข้าใช้วงโคจรดาวเทียม เพื่อรองรับมาตรา 60 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ. 2560, ร่วมมือกับสำนักงานตำรวจแห่งชาติ นำเลขหมายโทรศัพท์ 191 มาใช้เป็นเลขหมายโทรศัพท์ฉุกเฉินแห่งชาติหมายเลขเดียว (National Single Emergency Number) พร้อมเชื่อมต่อกับกล้อง CCTV ทั่วประเทศ เพื่อให้สามารถทราบพิกัดที่ตั้งที่เกิดเหตุและระงับเหตุร้ายได้ทันท่วงทีและมีประสิทธิภาพ, ทำงานร่วมกับหน่วยงานอื่นๆ ของรัฐ เช่น อย. สตช. กรมทรัพย์สินทางปัญญา กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ดำเนินการระงับการเผยแพร่เนื้อหาบนสื่อออนไลน์ที่ผิดกฎหมาย
พิสูจน์อักษร: พรนภัส ชำนาญค้า
