นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย กล่าวว่าตามที่ปรากฏเป็นการทั่วไป กรณีการสูญเสีย นายวิชัย ศรีวัฒนประภา ประธานสโมสรเลสเตอร์ ซิตี้ และประธานกรรมการกลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ ในโศกนาฏกรรมเฮลิคอปเตอร์ตกนอกสนามคิง เพาเวอร์ สเตเดี้ยม ประเทศอังกฤษ เมื่อช่วงหัวค่ำของวันที่ 27 ตุลาคมที่ผ่านมา ตามเวลาท้องถิ่น ซึ่งเฮลิคอปเตอร์ลำดังกล่าวเป็นรุ่น AgustaWestland AW169 สร้างขึ้นในปี 2558 โดยลีโอนาร์โด้ บริษัทด้านอุตสาหกรรมการบินและทหารของอิตาลี ซึ่งเป็นการรวมตัวกันของบริษัท อากัสต้าเวสต์แลนด์ กับฟินเมคคานิก้า เฮลิคอปเตอร์ ลำนี้เลขทะเบียน G-VSKP มีมูลค่าสูงถึง 6.6 ล้านปอนด์ หรือราว 280 ล้านบาทไทย
แต่เมื่อตรวจสอบการจัดซื้อจัดจ้างเฮลิคอปเตอร์ยี่ห้อดังกล่าวของกรมการขนส่งทหารบกที่ได้ดำเนินการจัดซื้อจัดจ้างในรุ่น AW139 และรุ่น AW149 จากบริษัท อากัสต้าเวสต์แลนด์ เอส.พี.เอ. ประเทศอิตาลี ประมาณ 12 ลำ พบว่าในปี 2555 ในยุคที่ พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นผู้บัญชาการทหารบก มีการจัดซื้อ AW139 จำนวน 2 ลำ วงเงิน 43,548,387 เหรียญสหรัฐ หรือ 1,350 ล้านบาท เฉลี่ยลำละ 675 ล้านบาท ซึ่งรุ่นดังกล่าวมีการประกาศขายเป็นการทั่วไปในราคาเพียง 12 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 396 ล้านบาทเท่านั้น ซึ่งทำให้มองเห็นส่วนต่างของทั้งสองลำมากถึง 558 ล้านบาท
ต่อมาในปี 2557 หลังรัฐประหาร มีการจัดซื้อ AW139 เพิ่มอีก 2 ลำ วงเงิน 46,062,500 เหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 1,474 ล้านบาท เฉลี่ยลำละ 737 ล้านบาท (เพิ่มขึ้นจากครั้งก่อนลำละ 67 ล้านบาท) ซึ่งส่วนต่างของการจัดซื้อครั้งที่ 2 เท่ากับ 692 ล้านบาท
หลังจากนั้นในปี 2559-2560 ยังมีการจัดซื้อจัดหา AW139 เพิ่มอีก 6 ลำ ส่วนรุ่น AW149 ทำการจัดซื้อจัดหามาในปี 2560 จำนวน 2 ลำอีกด้วย ซึ่งเฮลิคอปเตอร์ลำดังกล่าว ปัจจุบันยังคงใช้งานตามปกติ แต่มีจำนวนเกือบครึ่งที่ถูกสั่งให้งดบิน ทำให้เป็นที่วิพากษ์วิจารณ์กันในสังคมโซเชียลทั่วไปก่อนหน้านี้
กรณีดังกล่าวเป็นที่น่าสงสัยว่าการจัดซื้อจัดหาเฮลิคอปเตอร์จากบริษัทดังกล่าวซึ่งเป็นรุ่นล้าหลังกว่าเฮลิคอปเตอร์ของนายวิชัย ศรีวัฒนประภา ที่มีราคาเพียง 280 ล้านบาท ทำไมจึงมีราคาและส่วนต่างมากมายมหาศาลขนาดนั้น การจัดซื้อจัดหาเป็นไปตามกฎหมาย ระเบียบ ข้อบังคับ มติคณะรัฐมนตรี และแบบแผนการปฏิบัติราชการหรือไม่ และการใช้จ่ายเงินหรือการใช้ประโยชน์นั้นเป็นไปตามวัตถุประสงค์ มีความคุ้มค่า ประหยัด เกิดผลสัมฤทธิ์ และมีประสิทธิภาพหรือไม่
ด้วยเหตุดังกล่าว สมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทยจึงจะนำความไปยื่นร้องเรียนต่อประธาน/คณะกรรมการ/ผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) เพื่อให้ใช้อำนาจตาม พ.ร.ป. ว่าด้วยการตรวจเงินแผ่นดิน พ.ศ. 2561 ดำเนินการตรวจสอบการจัดซื้อจัดหาเฮลิคอปเตอร์ของกรมการขนส่งทหารบกว่าเป็นไปโดยชอบด้วยกฎหมายหรือไม่ หากพบความผิดก็ให้ดำเนินการเอาผิดผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งหมดต่อไป โดยสมาคมฯ จะเดินทางไปยื่นคำร้องต่อ สตง. ในวันศุกร์ที่ 2 พฤศจิกายน 2561 เวลา 10.00 น. ณ สำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน ซอยอารีย์ ถนนพระราม 6 เขตพญาไท กรุงเทพมหานคร
พิสูจน์อักษร: ภาสิณี เพิ่มพันธุ์พงศ์
