×

“ราวกับอยู่ในนรกก็ไม่ปาน” นักข่าวชาวญี่ปุ่นเปิดใจ หลังถูกจองจำในซีเรียนาน 3 ปี

26.10.2018
  • LOADING...

จุมเป ยาซุดะ นักข่าวฟรีแลนซ์ชาวญี่ปุ่น เดินทางกลับถึงมาตุภูมิแล้ว ด้วยความช่วยเหลือจากรัฐบาลตุรกีและกาตาร์ หลังถูกควบคุมตัวในซีเรียโดยกลุ่มกบฏที่มีสายสัมพันธ์กับอัลกออิดะห์นานกว่า 3 ปี เขาเผยความรู้สึกว่าช่วงเวลาที่ไร้อิสรภาพเป็นดั่งขุมนรกทั้งทางกายและจิตใจ

 

ยาซุดะ ได้พบกับครอบครัวอย่างพร้อมหน้าพร้อมตาอีกครั้ง หลังเดินทางจากกรุงอังการา ประเทศตุรกี ถึงสนามบินนาริตะในกรุงโตเกียวเมื่อค่ำวานนี้ (25 ต.ค.) เขาเปิดใจกับผู้สื่อข่าวรอยเตอร์สว่า “ผมดีใจที่สามารถกลับมาญี่ปุ่นได้ แต่ขณะเดียวกันก็ไม่ทราบว่าอะไรจะเกิดขึ้นหลังจากนี้ หรือผมควรทำอะไรต่อไป”

 

 

ยาซุดะ ในวัย 44 ปี ถูกจองจำในซีเรียนาน 40 เดือนก่อนจะได้รับอิสรภาพ แต่กระนั้นก็ยังจุดประเด็นถกเถียงเป็นวงกว้างในญี่ปุ่นว่า เขาควรเสี่ยงชีวิต ฝ่าดงกระสุนและสะเก็ดระเบิดไปรายงานข่าวในสมรภูมิรบหรือไม่ เพราะบางคนมองว่าเขาไม่ตรึกตรองให้รอบคอบก่อน แต่ก็มีบางคนที่มองเขาเป็นแบบอย่างของสื่อมวลชนที่กล้าหาญ โดยก่อนหน้านี้ยาซุดะเคยลาออกจากงานผู้สื่อข่าวของหนังสือพิมพ์ ชินาโนะ ไมนิจิ ในญี่ปุ่น เพื่อไปทำข่าวสงครามอิรักในปี 2003 และเคยถูกควบคุมตัวโดยกลุ่มกบฏในอิรัก 3 วันเมื่อปี 2004

 

เขาเปิดใจกับสถานีโทรทัศน์ NHK ของญี่ปุ่นว่า ช่วงเวลาที่เขาอยู่ในซีเรีย ไม่เพียงเจ็บปวดทางกายเท่านั้น แต่ยังทรมานจิตใจด้วย “ราวกับอยู่ในนรกก็ไม่ปาน”

 

“เวลาผ่านไปวันแล้ววันเล่า มันกลายเป็นเรื่องยากที่จะควบคุมตัวเอง ผมคิดแต่เพียงว่าผมจะไม่ถูกปล่อยตัวในวันนี้” ยาซุดะเล่า “ผมเริ่มรู้สึกว่าชีวิตในเรือนจำเป็นเรื่องปกติไปแล้วในตอนนี้”

 

นอกจากความเคยชินกับการใช้ชีวิตหลังกำแพงและลูกกรงเหล็กแล้ว ยาซุดะยังประสบปัญหาในการพูดภาษาญี่ปุ่นด้วย

 

ด้วยความช่วยเหลือจากรัฐบาลตุรกีและกาตาร์ ทำให้กลุ่มกบฏในซีเรียตัดสินใจปล่อยตัวยาซุดะ ขณะที่นายกรัฐมนตรีชินโซ อาเบะ ได้กล่าวขอบคุณสองประเทศกับบทบาทคนกลางที่ช่วยไกล่เกลี่ยครั้งนี้

 

แม้ยาซุดะจะได้รับอิสรภาพกลับคืน แต่ก็แลกมาด้วยประสบการณ์อันแสนเลวร้าย ในหนังสือที่เขาเขียนและตีพิมพ์ในปี 2004 ยาซุดะระบุว่าเขาตั้งใจทำงานกลางสมรภูมิรบ เพราะต้องการถ่ายทอดให้เห็นความทุกข์ทรมานจากผลพวงของสงคราม

 

พิสูจน์อักษร: ลักษณ์นารา พักตร์เพียงจันทร์

อ้างอิง:

  • LOADING...

READ MORE




Latest Stories

Close Advertising