สื่อดัง The Hollywood Reporter ออกมาเปิดเผยว่า เฮนรี คาวิลล์ ผู้รับบทเป็น คลาร์ก เคนต์ หรือซูเปอร์แมน ในหนังแฟรนไชส์ซูเปอร์ฮีโร่ Man on Steel (2013), Batman v Superman: Dawn of Justice (2016) และ Justice League (2017) ได้ปฏิเสธข้อเสนอจาก Warner Bros. ที่ต้องการให้เขาร่วมแสดงแบบ ‘รับเชิญ’ ใน Shazam! หนังซูเปอร์ฮีโร่เรื่องใหม่ของค่าย คาวิลล์ให้เหตุผลในการเซย์โนว่าเป็นเกิดจากปัญหาเรื่องคิวถ่ายทำที่ไม่ตรงกัน
อีกสาเหตุหนึ่งเป็นเพราะทาง Warner Bros. ต้องการปรับกลยุทธ์การทำหนังของค่ายใหม่ หลังจากผลงาน ‘ซูเปอร์ฮีโร่’ ของค่ายในช่วงหลังๆ ไม่ประสบความสำเร็จเท่าที่ควร เรียกว่ารายได้แต่ละเรื่องช่างอยู่ห่างไกลจากหนังซูเปอร์ฮีโร่ค่ายคู่แข่งอย่าง Marvel อยู่หลายช่วงตัว
แผนปรับกลยุทธ์ครั้งนี้คือเปลี่ยนตัวแม่ทัพจากเดิม ซึ่งเคยให้ ‘ซูเปอร์แมน’ เป็นตัวหลักในการนำจักรวาล DC แล้วหันไปทุ่มเทให้กับการพัฒนาหนังภาคแยกของตัวละครอย่าง วันเดอร์วูแมน, อควาร์แมน, เดอะ แฟลช, โจ๊กเกอร์ รวมทั้งซูเปอร์เกิร์ล ลูกพี่ลูกน้องของซูเปอร์แมน ที่กระแสตอบรับจากซีรีส์ฉายทางช่อง The CW กำลังไปได้สวย และกำลังจะถูกพัฒนาสู่การเป็นหนังซูเปอร์ฮีโร่เรื่องล่าสุดของ DC
เคราะห์ซ้ำกรรมซัดของซูเปอร์แมนยังไม่หมดแค่นั้น มีข่าวอีกว่า DC จะระงับการพัฒนาโปรเจกต์ภาคต่อของ Man on Steel ไปแบบไม่มีกำหนด สาเหตุเนื่องมาจากโปรเจกต์ ‘ซูเปอร์เกิร์ล’ ที่กำลังพัฒนาอยู่นั้น เนื้อเรื่องจะอยู่ในช่วงที่เธอเป็นวัยรุ่น ซึ่งในเวลานั้น ตัวละครซูเปอร์แมนยังเป็นเพียงแค่เด็กทารก ซึ่งนั่นเท่ากับว่าคาวิลล์จะไร้แววปรากฏตัวในหนังเรื่องนี้อย่างแน่นอน
ไม่ใช่แค่คาวิลล์เท่านั้นที่อนาคตดูไม่ค่อยสดใสเท่าไร เพราะแม้แต่ เบน เอ็ฟเฟล็กต์ที่รับบทแบทแมนก็ดูจะย่ำแย่ไม่แพ้กัน หลังมีข่าวออกมาเป็นระยะว่าทาง Warner Bros. กำลังมองหานักแสดงที่หนุ่มกว่านี้มารับบทแทนเขา โดยมีรายชื่อนักแสดงชายถูกส่งเข้าประกวดมากมาย อาทิ จอน แฮมม์ จาก Baby Driver, คิต แฮริ่งตัน หรือจอน สโนว์ จากซีรีส์ Game of Thrones ติดอยู่ในโผอันดับต้นๆ
พิสูจน์อักษร: ภาวิกา ขันติศรีสกุล
อ้างอิง