วันนี้ (25 ธันวาคม) การประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไป (General Border Committee: GBC) วันที่ 2 ระหว่างฝ่ายไทยและกัมพูชา ฝ่ายไทยได้ยื่นข้อเสนอ 3 ประเด็นหลัก โดยฝ่ายกัมพูชาส่งสัญญาณเชิงบวกด้วยการรับในบางข้อเสนอ พร้อมท้วงติงในบางรายละเอียด ซึ่งฝ่ายไทยได้เปิดโอกาสให้ฝ่ายกัมพูชานำข้อสังเกตกลับไปพิจารณา เพื่อกลับมาหารือร่วมกันอีกครั้งในช่วงเวลา 15.00 น.
อย่างไรก็ตาม เมื่อถึงช่วงเวลาประมาณ 14.00 น. ฝ่ายกัมพูชาได้ส่งตัวแทนมาแจ้งว่าไม่สามารถเข้าร่วมการประชุมได้ตามเวลานัดหมาย เนื่องจากเห็นว่าจุดยืนที่ฝ่ายไทยเสนอมีรายละเอียดจำนวนมากที่ต้องแก้ไข จึงขอเลื่อนเวลาการประชุมออกไปเป็นช่วงเย็น โดยยังไม่ได้ระบุเวลาที่แน่ชัด
ตัวแทนฝ่ายกิจการชายแดนทหารระหว่างประเทศชี้แจงว่า ในขณะนี้ฝ่ายกัมพูชาขอเวลาในการพิจารณารายละเอียดเพิ่มเติม และขอเลื่อนการประชุมในวันที่ 2 ออกไปก่อน เมื่อมีความพร้อมแล้วจะส่งสัญญาณและข้ามกลับเข้ามาเพื่อประชุมต่อ โดยฝ่ายไทยในฐานะเจ้าภาพการจัดประชุม GBC ยืนยันความพร้อมในการรอ เพื่อให้การประชุมเดินหน้าต่อไปตามกรอบเงื่อนไขและข้อกำหนดที่เป็นจุดยืนของฝ่ายไทยอย่างเข้มแข็ง
ภาพที่ปรากฏในพื้นที่เป็นฝั่งเจ้าของพื้นที่จังหวัดไพลิน โดย พลจัตวา ตี ซกคา ผู้บัญชาการทหารภูมิภาคที่ 5 ส่วนหน้า เขต 3 ได้พาคณะฝ่ายธุรการเดินทางมาเตรียมสถานที่รองรับ หากการประชุม GBC สามารถลุล่วงและเป็นไปตามจุดยืนที่ฝ่ายไทยนำเสนอ
ตามกระบวนการของการประชุมในวันสุดท้าย ผู้บริหารกระทรวงกลาโหมของทั้งสองฝ่ายจะเดินทางมาลงนามในข้อตกลงในวันที่ 27 ธันวาคม ซึ่งขณะนี้มีการเตรียมความพร้อมในทุกด้าน โดยเฉพาะด้านพิธีการ อย่างไรก็ตาม หากการประชุมไม่สามารถบรรลุข้อตกลงได้ การแถลงข่าวและพิธีลงนามในวันที่ 27 ธันวาคมจะไม่เกิดขึ้น
นาวาเอก ยอดธง พัดประดิษฐ์ ผู้อำนวยการแผน กรมกิจการชายแดนทหาร (CG) เปิดเผยว่า บรรยากาศการประชุมครั้งนี้ ฝ่ายกัมพูชามีทิศทางที่ดีขึ้น หากพิจารณาถึงความจริงใจในการประชุมตั้งแต่ระดับ ABC จนถึง GBC ในปัจจุบัน ต้องยอมรับว่าการประชุม GBC ครั้งนี้ ฝ่ายกัมพูชามีสัญญาณเชิงบวกที่จะบรรลุข้อตกลงในเอกสารบนโต๊ะเจรจา รวมถึงเชื่อมั่นว่าในแนวทางการปฏิบัติจะได้เห็นความจริงใจและความซื่อสัตย์จากฝ่ายกัมพูชามากขึ้น
ด้าน นาวาเอก อุดม กุลศิริปัญโญ เสนาธิการกองบัญชาการป้องกันชายแดนจันทบุรีและตราด เปิดเผยถึงท่าทีของฝ่ายกัมพูชาในครั้งนี้ว่า มีทิศทางที่ดีขึ้นอย่างชัดเจน เมื่อเทียบกับการประชุมในระดับก่อนหน้า
ขณะที่ พลจัตวา ตี ซกคา ผู้บัญชาการทหารภูมิภาคที่ 5 ส่วนหน้า เขต 3 กล่าวกับผู้สื่อข่าวไทยเป็นภาษาไทยว่า ความสัมพันธ์ระหว่างไทยและกัมพูชา โดยเฉพาะพื้นที่จังหวัดจันทบุรีและไพลิน เป็นเพื่อนบ้านที่อยู่ร่วมกันอย่างสงบ และไม่มีปัญหาเรื่องพื้นที่ทับซ้อน จึงไม่มีแรงจูงใจใดๆ ที่จะก่อให้เกิดความตึงเครียด
ในที่สุดการประชุมที่ชายแดนด้านจังหวัดจันทบุรีได้เริ่มต้นขึ้นอีกครั้งในช่วงเวลาประมาณ 19.40 น. โดยคณะเลขานุการ GBC ฝ่ายกัมพูชาเดินทางมาเต็มคณะถึงจุดผ่านแดนถาวรบ้านผักกาด ตำบลคลองใหญ่ อำเภอโป่งน้ำร้อน จังหวัดจันทบุรี ก่อนรีบเดินทางขึ้นไปเข้าร่วมการประชุม ณ ห้องประชุมชั้น 3 สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง
แม้จะมีการจำกัดเวลาสื่อมวลชนในการบันทึกภาพก่อนเริ่มวาระการประชุม แต่สามารถสังเกตได้ว่าสีหน้าของผู้เข้าร่วมประชุม โดยเฉพาะฝ่ายกัมพูชา มีความเคร่งเครียดมากขึ้น
การประชุมครั้งนี้มีคณะ AOT จากมาเลเซียประจำประเทศไทยเข้าร่วมสังเกตการณ์อย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่การนัดพบในเวลา 14.00 น. ก่อนเลื่อนเป็น 18.00 น. และเลื่อนอีกครั้งเป็น 19.30 น.
ฝ่ายไทยนำโดย พล.อ. ณัฐพงษ์ เพราแก้ว รองเสนาธิการทหาร กองบัญชาการกองทัพไทย ในฐานะประธานเลขานุการ GBC ฝ่ายไทย ให้การต้อนรับผู้แทนฝ่ายกัมพูชานำโดย พล.ต. แญม โบราเดน ประธานเลขานุการคณะกรรมการ GBC ฝ่ายกัมพูชา เพื่อหารือต่อในข้อเสนอ 3 ข้อที่ฝ่ายไทยยืนยันจุดยืนและฝ่ายกัมพูชายังไม่เห็นพ้อง ได้แก่
1.ฝ่ายกัมพูชาจะต้องประกาศหยุดยิงก่อน
2.การหยุดยิงจะต้องเกิดขึ้นจริงและต่อเนื่อง
3.ฝ่ายกัมพูชาจะต้องร่วมมือในการเก็บกู้ทุ่นระเบิดอย่างจริงจังและจริงใจ






