การประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศอาเซียน สมัยพิเศษ ว่าด้วยสถานการณ์ระหว่างไทยกับกัมพูชา จัดขึ้นที่กรุงกัวลาลัมเปอร์ ของมาเลเซีย ในวันนี้ (22 ธันวาคม) โดยฝ่ายไทยมี สีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศเข้าร่วมประชุม ในขณะที่ฝ่ายกัมพูชามี ปรัก สุคน รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศและความร่วมมือระหว่างประเทศกัมพูชาเข้าร่วมประชุม นอกจากนี้ยังมีรัฐมนตรีต่างประเทศจากชาติอาเซียนอื่นๆ ร่วมการประชุมด้วย
โมฮาหมัด ฮาซัน รัฐมนตรีต่างประเทศมาเลเซีย ในฐานะประธานอาเซียนประจำปี กล่าวเปิดการประชุม โดยยืนยันว่า “อาเซียนต้องทำทุกวิถีทางเพื่อรักษาสันติภาพและความมั่นคงในภูมิภาค” ขณะที่เน้นย้ำว่าความพยายามในการแก้ไขสถานการณ์ระหว่างกัมพูชาและไทย ต้องก้าวไปไกลกว่าการลดความตึงเครียด
โมฮาหมัดกล่าวว่า “ในฐานะประธานอาเซียน มาเลเซียเชื่อว่ากลุ่มประเทศในภูมิภาคต้องเสริมสร้างความไว้วางใจระหว่างภาคีต่างๆ และรับประกันว่าการเจรจาจะดำเนินต่อไปแม้จะมีความแตกต่างกันอยู่” โดยระบุว่า “เสถียรภาพในภูมิภาคเป็นความรับผิดชอบร่วมกัน
“แนวทางของอาเซียนควรยึดหลักบทเรียนจากอดีต โดยยึดมั่นในปัญญา ความสามัคคี และความไว้วางใจ ซึ่งทำให้ภูมิภาคสามารถฝ่าฟันช่วงเวลาแห่งความวุ่นวายมาได้
“อาเซียนต้องทำทุกวิถีทางเพื่อรักษาสันติภาพและเสถียรภาพในภูมิภาค เป้าหมายของเราไม่ได้จำกัดอยู่แค่การลดความตึงเครียดเท่านั้น” เขากล่าว และชี้ว่า “ต้องมีการเสริมสร้างความไว้วางใจระหว่างฝ่ายที่ขัดแย้ง และเปิดช่องทางสำหรับการเจรจาแม้จะมีข้อขัดแย้งอยู่ก็ตาม”
ขณะที่โมฮาหมัดกล่าวเตือนชาติสมาชิกอาเซียนถึงผลกระทบวงกว้างของการที่สถานการณ์สู้รบทวีความรุนแรงขึ้นอย่างต่อเนื่อง และเรียกร้องให้สมาชิกทุกประเทศให้ความสนใจเรื่องนี้อย่างเร่งด่วนที่สุด
สำหรับรูปแบบการประชุมในครั้งนี้จะเป็นแบบปิด (Closed-Door Session) โดยรัฐมนตรีต่างประเทศมาเลเซียเปิดเผยว่า ที่ประชุมจะได้รับฟังการบรรยายสรุปโดยตรงจากทีมสังเกตการณ์อาเซียน (AOT) ที่นำโดยผู้บัญชาการทหารสูงสุดมาเลเซีย ซึ่งมีการประสานงานและติดตามสถานการณ์ในพื้นที่ทั้งฝ่ายไทยและกัมพูชาอย่างใกล้ชิดด้วย
ทั้งนี้ การประชุมมีขึ้นในขณะที่สถานการณ์สู้รบในพื้นที่ชายแดนไทยและกัมพูชา ยังคงตึงเครียดและเกิดการสู้รบขึ้นอีกช่วงเช้าวันนี้
อย่างไรก็ตาม สำหรับท่าทีของฝ่ายไทยนั้น ที่ผ่านมารัฐบาลไทยยืนยันว่าเงื่อนไขสำคัญในการเจรจากับกัมพูชานั้นมี 3 ข้อ คือ
1. ขอให้ฝ่ายกัมพูชาประกาศหยุดยิง ในฐานะที่เป็นฝ่ายรุกล้ำเข้ามาในดินแดนของไทย
2. การหยุดยิงดังกล่าวต้องเกิดขึ้นจริงและต่อเนื่อง
3. ขอให้ฝ่ายกัมพูชาแสดงความจริงใจในการร่วมมือกับฝ่ายไทย โดยเฉพาะในประเด็นการเก็บกู้ทุ่นระเบิดตามแนวชายแดน






