กระทรวงศึกษาธิการสิงคโปร์ (MOE) ได้ออกประกาศเมื่อวันอาทิตย์ที่ 30 พฤศจิกายนที่ผ่านมา เกี่ยวกับมาตรการใหม่ที่ยกระดับความเข้มงวดในการควบคุมการใช้อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ของนักเรียน โดยระบุว่าตั้งแต่เดือนมกราคม ปี 2026 เป็นต้นไป นักเรียนในระดับมัธยมศึกษาจะไม่ได้รับอนุญาตให้ใช้สมาร์ตโฟนหรือสมาร์ทวอทช์’ในช่วงเวลาเรียน รวมถึงช่วงเวลานอกห้องเรียนด้วย ซึ่งถือเป็นส่วนหนึ่งของความพยายามในการสร้างสุขนิสัยการใช้หน้าจอที่ดีต่อสุขภาพให้แก่เยาวชน
ภายใต้แนวทางปฏิบัติในปัจจุบัน นักเรียนมัธยมถูกจำกัดการใช้งานอุปกรณ์เหล่านี้เฉพาะในช่วงเวลาที่มีการเรียนการสอนเท่านั้น แต่กฎระเบียบใหม่จะขยายขอบเขตให้ครอบคลุมไปถึง ‘ช่วงเวลาที่ไม่มีการเรียนการสอน’ ด้วย ซึ่งรวมถึงเวลาพักเบรก กิจกรรมเสริมหลักสูตร (CCAs) ตลอดจนช่วงเวลาเรียนซ่อมเสริมหรือกิจกรรมพัฒนาผู้เรียนต่างๆ
กระทรวงศึกษาธิการระบุในแถลงการณ์ว่า ตลอดเวลาที่อยู่ในโรงเรียน อุปกรณ์สื่อสารของนักเรียนจะต้องถูกเก็บไว้ในพื้นที่จัดเก็บที่กำหนดไว้ เช่น ล็อกเกอร์ หรือเก็บไว้ในกระเป๋านักเรียนของตนเอง สาเหตุที่ต้องรวมสมาร์ทวอทช์’เข้าไว้ในข้อห้ามนี้ด้วย เนื่องจากอุปกรณ์ดังกล่าวสามารถใช้สื่อสารผ่านข้อความและเข้าถึงแอปพลิเคชันต่างๆ รวมถึงโซเชียลมีเดียได้ ซึ่งอาจนำไปสู่การเสียสมาธิ การใช้หน้าจอโดยไม่ได้โต้ตอบกับสิ่งรอบข้าง และลดปฏิสัมพันธ์กับเพื่อนฝูง
อย่างไรก็ตาม ทางกระทรวงยังเปิดช่องว่างสำหรับความจำเป็นบางประการ โดยระบุในแถลงการณ์ว่า “ในกรณีที่จำเป็น โรงเรียนอาจอนุญาตให้นักเรียนใช้สมาร์ตโฟนได้เป็นกรณีพิเศษ”
โฆษกกระทรวงศึกษาธิการเปิดเผยว่า แนวปฏิบัติที่เข้มงวดขึ้นนี้สอดคล้องกับมาตรการที่เริ่มใช้กับนักเรียนระดับประถมศึกษาไปแล้วตั้งแต่เดือนมกราคม 2025 ภายใต้ยุทธศาสตร์ส่งเสริมสุขภาพแห่งชาติ Grow Well SG ซึ่งในช่วงเวลาที่ผ่านมา โรงเรียนมัธยมศึกษาบางแห่งได้ทดลองนำแนวทางที่เข้มงวดนี้ไปใช้และพบผลลัพธ์ที่เป็นบวก ไม่ว่าจะเป็นความเป็นอยู่ที่ดีของนักเรียนที่เพิ่มขึ้น สมาธิที่ดีขึ้น และมี ‘การปฏิสัมพันธ์ทางกายภาพ’ ระหว่างกันมากขึ้นในช่วงเวลาพัก
นอกจากการควบคุมการใช้โทรศัพท์แล้ว กระทรวงศึกษาธิการยังได้ประกาศปรับเปลี่ยนเวลาปิดระบบอัตโนมัติ (Sleep mode) ของอุปกรณ์การเรียนรู้ส่วนบุคคล (Personal Learning Device) ซึ่งเป็นแท็บเล็ตหรือแล็ปท็อปที่โรงเรียนจัดให้ โดยจะขยับเวลาปิดการใช้งานให้เร็วขึ้น จากเดิมเวลา 23.00 น. มาเป็น 22.30 น.
“สิ่งนี้จะช่วยให้นักเรียนจัดการการใช้อุปกรณ์ก่อนเข้านอนได้ และเป็นการกระตุ้นให้พวกเขานอนหลับเร็วขึ้น” กระทรวงระบุ โดยมาตรการนี้จะเริ่มมีผลบังคับใช้ตั้งแต่เดือนมกราคมเป็นต้นไป ซึ่งหมายความว่าอุปกรณ์จะเข้าสู่โหมดพักเครื่องทุกคืนตั้งแต่เวลา 22.30 น. จนถึง 06.30 น.
พร้อมกันนี้ทางกระทรวงยังได้เรียกร้องให้ผู้ปกครองที่เลือกตั้งค่าอุปกรณ์ของบุตรหลานแบบผ่อนปรน พิจารณาปรับเวลาให้สอดคล้องกับการเปลี่ยนแปลงนี้เพื่อสร้างวินัยที่ดี
ในส่วนของการบังคับใช้กฎระเบียบ กระทรวงศึกษาธิการชี้แจงว่าแม้จะมีแนวทางกลางให้ แต่โรงเรียนแต่ละแห่งมีอำนาจอิสระในการกำหนดนโยบายทางวินัยและกฎกติกาของตนเองให้สอดคล้องกับแนวทางเหล่านี้ โดยมองว่าการจัดการกรณีการใช้สมาร์ตโฟนและนาฬิกาอัจฉริยะในทางที่ผิดถือเป็นส่วนหนึ่งของ ‘กระบวนการเรียนรู้’
“สำหรับการใช้สมาร์ตโฟนและนาฬิกาอัจฉริยะในทางที่ผิด ในฐานะส่วนหนึ่งของกระบวนการให้การศึกษา โดยทั่วไปโรงเรียนจะทำงานร่วมกับนักเรียนและดึงผู้ปกครองเข้ามามีส่วนร่วม เพื่อแก้ไขปัญหาที่ต้นเหตุและพัฒนากลยุทธ์เพื่อช่วยให้นักเรียนจัดการการใช้อุปกรณ์ของตนอย่างมีความรับผิดชอบ” กระทรวงกล่าวเสริม และย้ำว่าในกรณีที่จำเป็น โรงเรียนจะมีมาตรการทางวินัยเพื่อให้นักเรียนเรียนรู้ถึงผลที่ตามมาจากการกระทำที่ไม่เหมาะสม
จัสมิน หลิว รัฐมนตรีแห่งรัฐด้านการพัฒนาดิจิทัลและการศึกษา ได้โพสต์ข้อความผ่านอินสตาแกรมว่า โรงเรียนมัธยมต่างๆ จะแจ้งรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับแนวปฏิบัติใหม่นี้ในภายหลัง “ดิฉันหวังว่าผู้ปกครองจะยังคงร่วมมือกับเราในการชี้แนะบุตรหลานของเราไปสู่การใช้เทคโนโลยีอย่างสมดุลและรอบคอบ”
ทั้งนี้ แนวปฏิบัติและเหตุผลเบื้องหลังมาตรการเหล่านี้จะถูกสื่อสารผ่านช่องทางต่างๆ เช่น การพูดคุยหน้าเสาธงช่วงเปิดปีการศึกษา คู่มือนักเรียน เว็บไซต์โรงเรียน และการประชุมผู้ปกครอง เพื่อสร้างความเข้าใจที่ตรงกันและอำนวยความสะดวกในการร่วมมือระหว่างบ้านและโรงเรียน
ภาพ : mentatdgt / Shutterstock
อ้างอิง:
- https://www.channelnewsasia.com/singapore/secondary-school-can-use-phone-in-class-smartphone-screen-time-students-5495621
- https://www.straitstimes.com/singapore/parenting-education/no-phone-use-in-secondary-schools-from-2026-including-during-recess-and-ccas
- https://sg.finance.yahoo.com/news/singapore-curb-students-smartphone-during-204423481.html


