×

​อนุทินบอกเป็นนายกฯ เหมือนทุกขลาภ ชี้ปะทะชายแดนไม่มีทางเลือก หากหยุดคือแพ้ แย้มอาจยุบสภาก่อน 31 ม.ค.

โดย THE STANDARD TEAM
09.12.2025
  • LOADING...
​อนุทินบอกเป็นนายกฯ เหมือนทุกขลาภ ชี้ปะทะชายแดนไม่มีทางเลือก หากหยุดคือแพ้ แย้มอาจยุบสภาก่อน 31 ม.ค.

วันนี้ (9 ธันวาคม) อนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เป็นประธานการประชุมหัวหน้าส่วนราชการระดับกระทรวงหรือเทียบเท่า โดยระบุว่า วันนี้ถือว่าเป็นครั้งแรกที่ได้พบกับทุกคน ขอขอบคุณในความร่วมมือของทุกท่าน ซึ่งในฐานะหัวหน้ารัฐบาล ขอยืนยันให้มั่นใจ คลายกังวลใจว่าตั้งแต่ตนเข้ามาทำงานเป็นนายกรัฐมนตรี และบริหารราชการแผ่นดิน ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคมที่ผ่านมา จนถึงวันนี้ ตนได้รับความร่วมมือดียิ่งจากทุกท่านไม่มีสิ่งใดที่รู้สึกเคลือบแคลงใจ หรือรู้สึกว่าไม่ได้รับความร่วมมือ

 

การประชุมวันนี้ตนให้ความสำคัญ เพราะท่านทั้งหลายคือหัวหน้าส่วนราชการที่จะต้องขับเคลื่อนการบริหารราชการแผ่นดินให้เกิดความต่อเนื่องไม่ว่าจะมีสถานการณ์ทางการเมืองใดๆ เกิดขึ้น เวลารัฐบาลของตนอยู่ในช่วงนับถอยหลังแล้ว เพราะมีภารกิจที่เข้ามาเพื่อดำเนินการทางการเมืองให้เรียบร้อย ก่อนจะคืนอำนาจสู่พี่น้องประชาชนให้ได้ตัดสินใจที่จะมีรัฐบาลชุดใหม่

 

ดังนั้น ขอหัวหน้าราชการประคับประคองขับเคลื่อนนโยบายต่างๆ ทั้งของรัฐบาลที่ผ่านมา รวมถึงรัฐบาลของตนให้ดำเนินการอย่างเต็มที่ ก่อนที่ตนจะยุบสภา ซึ่งไม่นานหลังจากนี้แล้วขอย้ำว่าเต็มที่คือไม่เกิน 31 มกราคม แต่ท่าทางจะไม่ถึงมากกว่า

 

นายกรัฐมนตรีกล่าวต่อว่า แต่ในขณะที่เป็นรัฐบาลรักษาการก็ขอให้คำมั่นสัญญากับทุกท่านที่เป็นข้าราชการประจำและหัวหน้าส่วนข้าราชการ ว่าตนจะเคร่งครัดทั้งด้านมารยาท กฎระเบียบ และสิ่งที่รัฐบาลรักษาการได้ถูกกำหนดไว้ ขอทุกคนไม่ต้องกังวลว่าตนจะทำสิ่งใดที่นอกเหนือจากสิ่งที่กำหนดไว้ทางกฎหมาย ธรรมเนียม และหลักปฏิบัติ

 

นายกรัฐมนตรีกล่าวอีกว่า สิ่งที่ตนทำเหมือนทุกขลาภ เพราะมีภารกิจมากมาย และมีนโยบายมากมายที่ต้องได้รับการดำเนินการต่อไป เพื่อส่งต่อไปยังพี่น้องประชาชน ขอให้พวกท่านไม่ต้องแผ่วสิ่งที่ทำมา และสิ่งที่ได้รับความเห็นชอบจากสภาไปแล้วก็ขอให้ดำเนินการขับเคลื่อน เพื่อให้ประโยชน์ตกถึงประชาชนและประเทศ สืบเนื่องจากปัญหาใหญ่ทั้ง ยาเสพติด ภัยพิบัติ การแก้ปัญหาอาชญากรรมทางเทคโนโลยี สแกมเมอร์ และเรื่องที่เรามีความขัดแย้งกับเพื่อนบ้านอย่างประเทศกัมพูชา ซึ่งเราจะต้องร่วมกันเดินหน้าต่อไป หยุดไม่ได้ เพราะหากหยุดมันแพ้ทันที เราไม่มีทางเลือก ฉะนั้นเราต้องเดินหน้าต่อไป

 

สุดท้าย คือเรื่องการแก้ปัญหาเศรษฐกิจที่เราจะต้องดำเนินไปในทิศทางที่ดีขึ้น เพิ่มรายได้ และความเป็นอยู่ที่ดีให้กับพี่น้องประชาชน แต่มักมีสิ่งที่มาเป็นอุปสรรคที่ทำให้ความคืบหน้าเศรษฐกิจของประเทศเราไม่สามารถดำเนินไปได้ด้วยความราบรื่น แต่ด้วยความเข้มแข็งและการจัดวางระบบของราชการฝ่ายประจำเชื่อมั่นว่าจะสามารถผ่านพ้นไปได้ด้วยดี

 

นายกรัฐมนตรีกล่าวอีกว่า ในช่วงระยะเวลาที่เหลืออยู่ตนก็พร้อมที่จะให้ความสนับสนุนภารกิจของทุกท่านอย่างเต็มที่ และรัฐบาลบริหารราชการแผ่นดินโดยยึดเรื่องความสุจริตโปร่งใส มีความรับผิดชอบ เพื่อสร้างความเชื่อมั่นของประชาชน และมุ่งให้หน่วยงานของรัฐทุกระดับมีความสามัคคีและปฏิบัติงานในทิศทางเดียวกัน

 

นอกจากนี้ ขอให้ทุกคนมีความพร้อมในการทำงานไม่ต้องไปเกรงกลัวอำนาจหรืออิทธิพลใดๆ และทำให้ความพยายามใดๆ ก็ตามที่จะเป็นการตอบสนองทางการเมืองหรือการกระทำเพื่อเกิดประโยชน์กับกลุ่มคนในกลุ่มไม่ประสบผลสำเร็จ ตนเชื่อว่าทุกท่านมาถึงตรงนี้ ต้องยึดถือความถูกต้องเป็นสำคัญ ในอดีตคือการใช้กลไกอำนาจไปในทางที่ไม่ชอบ ใช้อำนาจรัฐในการกลั่นแกล้งผู้ที่คิดว่าเป็นคู่แข่ง หรือขวาง หรือเป็นอุปสรรคในการดำเนินการ สิ่งเหล่านี้จะเกิดขึ้นไม่ได้ หากข้าราชการไม่ให้ความร่วมมือ

 

นายกรัฐมนตรีกล่าวอีกว่า ทุกท่านได้เดินทางมาถึงจุดสูงสุดของหน้าที่การงานแล้ว เป็นระดับ c11 กันหมดแล้ว ควรที่ได้รับการเชิดชูไม่ว่าจะอยู่ในตำแหน่งใด จึงขอให้ทุกท่านมีความมั่นใจและร่วมมือกัน เพราะการรับราชการต้องแข็งแกร่งแข็งแรงที่สุดในการบริหารราชการแผ่นดิน

 

ฉะนั้น ใครที่เคยร่วมงานกับตนก็จะทราบว่า เป็นคนที่รักษากฎกติกาอย่างเต็มที่ไม่เคยที่จะไปก้าวล่วงในสิ่งที่ชอบที่ควร และยังพร้อมที่จะสนับสนุนสิ่งที่จะก่อให้เกิดประโยชน์ต่อการบริหารของข้าราชการอย่างเต็มความสามารถ และเราจะสามารถทำงานด้วยกันทั้งฝ่ายการเมืองและข้าราชการประจำ ผลักดันให้เกิดพลังอย่างมหาศาลในการพัฒนาประเทศของเราได้อย่างแน่นอน

 

นายกรัฐมนตรีกล่าวอีกว่า ในช่วง 3 เดือนที่ผ่านมาตนได้พบว่าถ้าเรื่องไหนก็ตามที่เราเห็นพ้องต้องการในระดับนโยบายทุกอย่างก็จะถูกดำเนินการด้วยความรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ และตนก็เห็นชอบในการที่จะให้การอนุมัติ หากข้าราชการกลั่นกรองมาแล้วก็ไม่มีปัญหา แม้ว่าจะมีการยุบสภาเกิดขึ้นในอีกไม่นานนี้ แต่ภายใต้รัฐธรรมนูญพวกเรายังคงต้องทำงานด้วยกันจนกว่าจะมีรัฐบาลใหม่ จนกว่าคณะรัฐมนตรีชุดใหม่จะเข้าเฝ้าถวายสัตย์ปฏิญาณฯ

 

“แม้ว่ารัฐบาลรักษาการจะมีกฎระเบียบข้อบังคับมากมาย แต่ผมถือว่า หากเจตนาดีที่จะทำอะไรให้เป็นประโยชน์ต่อบ้านเมือง และมีสิ่งจำเป็นที่ต้องตัดสินใจ โดยเฉพาะอย่างยิ่งช่วงนี้จะมีเหตุการณ์ที่คาดไม่ถึงเกิดขึ้น ตนก็จะใช้ทุกหนทางและทุกวิถีทางที่จะทำให้ทุกอย่างดำเนินไปได้เพื่อความราบรื่น เชื่อว่าทุกคนได้สัมผัสและร่วมกันเห็นการตัดสินใจ ก็ถือว่าผมเป็นคนที่มีความรวดเร็วและใช้เจตนารมณ์ความเชื่อถือที่มีต่อทุกท่าน หากทุกคนกล้าที่จะลงนามมา ผมก็กล้าที่จะให้ความร่วมมือตรงนั้น ในการให้ความเห็นชอบ เพราะเป็นความเข้าใจซึ่งกันและกันแม้จะมีสิ่งที่เราไม่คาดคิด”

 

ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรีกล่าวด้วยว่า เชื่อว่าเลขาธิการสํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาคงต้องหาช่องทางต่างๆ ให้ความเห็นชอบ หรือดำเนินการใดๆ ให้ประเทศของเราได้เดินหน้าต่อไปได้ เพื่อให้เกิดความปลอดภัยต่ออธิปไตยและแผ่นดินของเรา เพราะเราคงไม่ใช้คำว่าหากเป็นรัฐบาลรักษาแล้วมีเหตุการณ์คับขันเกิดขึ้น ก็จะไม่ทำและรอให้รัฐบาลใหม่เข้ามา ซึ่งอาจจะเกิดผลเสียอย่างมากมายต่อประเทศ ตนจะไม่ปล่อยให้สิ่งเหล่านั้นเกิดขึ้นอย่างแน่นอน

 

ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวได้สอบถามนายกรัฐมนตรีถึงการระบุในที่ประชุมว่าอาจมีการยุบสภาก่อนวันที่ 31 มกราคม 2569 นั้น นายกรัฐมนตรีระบุว่า “พูดเผื่อๆ ไว้”

  • LOADING...

READ MORE






Latest Stories

Close Advertising