สำหรับคนทั่วไปอาจไม่คุ้นชื่อ อิซาน บานุชาลี มากเท่าไร แต่สำหรับคนที่เคยดู หนุมาน สงครามมหาเทพ ซีรีส์ฟอร์มยักษ์จากแดนภารตะที่บริษัท เจเคเอ็น โกลบอล มีเดีย จำกัด (มหาชน) นำเข้ามาฉายทางช่อง 8 มาก่อน เชื่อว่าความน่ารัก บุคลิกกวนๆ รวมทั้งน้ำตาที่ไหลราวสั่งได้จาก ‘เด็กมหัศจรรย์’ อายุ 11 ปีคนนี้จะต้องเข้าไปอยู่ในหัวใจของใครหลายคนอย่างแน่นอน
สังเกตได้จากการมาประเทศไทยครั้งแรกเมื่อช่วงต้นปีแล้วมีแฟนคลับจำนวนหลายคนไปรอต้อนรับ ‘หนุมานน้อย’ อย่างอบอุ่นจนอิซานถึงกับยอมรับว่าไม่เคยมีที่ไหนมีคนมารอรับเขามากขนาดนี้มาก่อน
ล่าสุดเมื่อเขามีกำหนดต้องมาเยือนประเทศไทยเป็นครั้งที่ 2 หลังจากที่ซีรีส์ฉายจบ THE STANDARD มีโอกาสพูดคุยกับอิซานอย่างใกล้ชิด และหลายๆ คำตอบที่พูดออกมาด้วยความบริสุทธิ์ใจทำให้เรารู้ได้ทันทีว่าเด็กคนนี้ไม่ได้มีดีแค่ฝีมือการแสดงและความน่ารัก แต่ความคิดความอ่านของเขาก็น่าสนใจไม่แพ้กัน และถึงแม้ว่าซีรีส์เรื่อง หนุมาน สงครามมหาเทพ จะจบไปแล้ว แต่เราเชื่อเหลือเกินว่า ‘ตัวตน’ ทุกอย่างของเด็กคนนี้จะอยู่ในใจของทุกคนที่ได้รับชมผลงานของเขาไปอีกนาน
ถ้าไม่นับบทบาทในจอโทรทัศน์ ตามปกติแล้วอิซานเป็นเด็กแบบไหน ซนเหมือนตัวละครหนุมานหรือเปล่า
ผมเป็นเด็กดีนะ (ตอบทันที) ไม่ดื้อไม่ซนเท่าไร โดยเฉพาะถ้าอยู่ที่โรงเรียนจะเป็นเด็กดีมาก คุณครูค่อนข้างแฮปปี้กับผม แต่เวลาอยู่ที่บ้านอาจจะมีดื้อนิดหน่อย (หัวเราะ) ส่วนมากจะเป็นเรื่องการกิน เพราะผมกินอาหารยาก ต้องให้แม่บังคับ
เรื่องที่ผมจะไม่ดื้อเลยคือการทำการบ้าน โดยเฉพาะวิชาวิทยาศาสตร์ที่ผมชอบที่สุด เพราะทำให้ผมได้ทำการทดลองเรื่องต่างๆ อย่างการปลูกมันฝรั่งแล้วใช้แอลอีดีเร่งให้มันโตเร็วขึ้น ผมทำสำเร็จด้วยนะ แล้วคณิตศาสตร์ก็เป็นวิชาที่ผมชอบเหมือนกัน
นอกจากการเป็นนักแสดง มีความฝันอยากทำอาชีพอื่นเหมือนเด็กทั่วไปบ้างไหม
มีหลายความฝันที่ยังตัดสินใจไม่ได้ครับ ที่ผมเคยพูดบ่อยๆ คืออยากเป็นตำรวจคอยดูแลประชาชน แต่อีกความฝันคืออยากเป็นนักวิทยาศาสตร์ เพราะเป็นความฝันของคุณพ่อด้วย แต่ตอนนี้ความฝันที่ชัดที่สุดของผมคือการเป็นนักแสดง ผมอยากเป็นซูเปอร์สตาร์
จำความรู้สึกตอนที่ไปออดิชันงานแสดงครั้งแรกๆ ได้ไหม กว่าจะมาเป็นหนุมานที่มีคนชอบมากขนาดนี้ อิซานต้องผ่านอะไรมาบ้าง
น่าจะอายุประมาณ 6 ขวบ ไม่รู้เหมือนกันว่าแม่เห็นอะไรในตัวผม (คุณแม่อิซานคิดว่าหน้าตาของเขาน่ารักและคิดว่าน่าจะเป็นนักแสดงได้) ตอนนั้นผมยังไม่รู้จักการแสดงด้วยนะ แต่คิดว่าเป็นงานที่สนใจ อย่างที่บอกว่าผมอยากเป็นซูเปอร์สตาร์ (หัวเราะ) ก็เลยลองไปแคสต์ดู แล้วครั้งแรกก็ไม่ผ่านนะครับ ต้องออดิชันอยู่หลายครั้งกว่าจะได้เล่นโฆษณาตัวแรก
เสียใจบ้างไหมเวลาออดิชันไม่ผ่านหลายๆ ครั้ง
อาจจะผิดหวังบ้างนิดหน่อย แต่คิดว่าผมมีความสุขมากกว่านะ รู้สึกสนุก ตื่นเต้น และอาจเป็นเพราะผมยังไม่ได้คิดอะไรมากก็ได้ เลยไม่ได้รู้สึกผิดหวังมากเท่าไร เขาบอกให้ทำอะไรเราก็ทำตามนั้นให้ดีที่สุด
คิดว่าตัวเองน่ารักเหมือนที่แม่บอกจริงๆ หรือเปล่า
ไม่เลยครับ (หัวเราะ)
ถ้าอย่างนั้นคิดว่าอะไรคือจุดแข็งของเราที่ทำให้ได้รับเลือกมาเล่นทั้งโฆษณาและซีรีส์เยอะขนาดนี้
ไม่แน่ใจเหมือนกัน อันนี้น่าจะต้องให้ผู้กำกับเป็นคนบอกมากกว่า แต่ถ้าให้ผมเดาคงเป็นเพราะผมสามารถเข้าถึงบทบาทและอารมณ์ต่างๆ ได้ดีมั้งครับ เพราะผมเป็นคนร้องไห้ง่ายอยู่แล้วด้วย ผมเลยไม่ค่อยมีปัญหาในฉากที่แสดงต้องอารมณ์เยอะๆ
ปกติอิซานจะร้องไห้กับเรื่องอะไรบ้าง
เวลาเห็นคนพิการครับ ผมค่อนข้างเซนสิทีฟเวลาเห็นคนที่เขาลำบากกว่าเรา
ถึงจะเป็นคนอ่อนไหวขนาดไหน แต่การร้องไห้ก็ถือว่าเป็นเรื่องยากในศาสตร์การแสดงอยู่ดี โดยเฉพาะเด็กๆ ที่อาจจะยังไม่เข้าใจเรื่องความเศร้าและความสูญเสียด้วยซ้ำ
สำหรับผมไม่ยากเลย เพราะแม่จะคอยสอนผมถึงวิธีที่จะทำให้ผมสามารถร้องไห้ได้ตลอด เวลาถ่ายทำแม่ก็จะอยู่กับผมตลอด คอยบอกว่ารักผมมากขนาดไหน ค่อยๆ บิลด์อารมณ์ของผมขึ้นมา ผมก็แค่ตั้งใจรับอารมณ์ที่เธอถ่ายทอดแล้วส่งต่อออกมา กับอีกวิธีที่ช่วยได้มากคือการทำตาโตๆ มองไปที่ไฟนานๆ โดยไม่กะพริบตาก็จะทำให้น้ำตาไหลได้ง่ายขึ้น (หัวเราะ)
นอกจากเรื่องที่ทำให้ร้องไห้ มีเรื่องอะไรที่ทำให้คนที่ดูร่าเริงอย่างอิซานโกรธได้บ้างหรือเปล่า
ปกติผมไม่ค่อยโกรธนะ เพราะผมเป็นคนน่ารัก (หัวเราะ) เว้นแต่ตอนโดนเพื่อนที่ชื่ออาเรียมแกล้ง เขาชอบพูดจาแย่ๆ ใส่ร้ายผม บอกว่าผมเป็นเด็กไม่ดี นั่นทำให้ผมโกรธ แต่ผมทำอะไรไม่ได้นอกจากพูดจาสั่งสอนเขาแล้วก็ไปฟ้องแม่ (หัวเราะ) ผมไม่สามารถไปต่อยเขาได้หรอกนะ แม้ว่าจะอยากขนาดไหนก็ตาม (หัวเราะ) เพราะพ่อผมสอนเอาไว้
การถ่ายทำเรื่อง หนุมาน สงครามมหาเทพ ที่มีความยาว 212 ตอนเป็นอย่างไรบ้าง ซีรีส์ส่วนใหญ่ในประเทศไทยประมาณ 20 ตอนก็จบแล้วนะ
ที่อินเดียเป็นเรื่องปกติเลยครับ (หัวเราะ) ผมถ่ายเรื่อง หนุมาน สงครามมหาเทพ ตอนอายุ 8 ขวบครึ่ง ใช้เวลา 2 ปีที่ต้องถ่ายเกือบทุกวันเลย คือครึ่งวันเช้าไปโรงเรียน แล้วหลังจากนั้นไปถ่ายซีรีส์ต่อ ถามว่าเหนื่อยไหม ก็มีบ้างที่เหนื่อย แต่ที่กองถ่ายเขาก็จะมีเวลาว่างให้อยู่ แล้วถ้าวันไหนไปกองถ่ายแล้วผมเหนื่อยจริงๆ ผู้กำกับจะบอกให้ผมพักแล้วไปเล่นอะไรก็ได้เพื่อให้ผ่อนคลายแล้วค่อยกลับมาถ่ายต่อ เลยไม่รู้สึกว่าเป็นเรื่องที่ลำบากอะไร เป็นความรู้สึกสนุกที่ได้ทำมากกว่า
หนังจากที่รับบทหนุมานมาตลอด 2 ปี รู้สึกว่าชอบอะไรในตัวละครนี้มากที่สุด
อย่างแรกคือเป็นตัวละครเด็กที่มีความซนเหมือนเด็กทั่วๆ ไป ไม่ได้มีแต่เรื่องหนักๆ ให้เครียด แต่ที่ผมชอบที่สุดคือหนุมานเป็นคนดี มีความซื่อสัตย์ มีความกตัญญูสูงมาก ผมชอบทุกฉากที่หนุมานต้องเล่นกับแม่ของเขา เพราะเธอเป็นผู้หญิงที่ดีมากเหมือนคุณแม่ของผมเลย
การถ่ายทำซีรีส์เรื่องนี้ รวมทั้งชื่อเสียงและความสำเร็จที่ได้รับทำให้อิซานเปลี่ยนแปลงจากเดิมไปบ้างหรือเปล่า
เปลี่ยนในเรื่องความคิดที่ผมคุยกับคุณพ่อว่าจะนำรายได้ส่วนหนึ่งไปบริจาคให้กับคนด้อยโอกาสในด้านต่างๆ แต่ถ้าเรื่องนิสัยส่วนตัวผมยังเหมือนเดิม ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง
ได้เงินมาแล้วไม่อยากเอาไปซื้อของเล่นที่ตัวเองชอบบ้างเหรอ
ซื้ออยู่แล้วครับ (หัวเราะ) นอกจากเอาเงินให้คุณพ่อคุณแม่ จะมีสิ่งที่ผมชอบคือปืนของเล่น เพราะอย่างที่บอกว่าผมอยากเป็นตำรวจ เวลาถือปืนแล้วสามารถคิดว่าผมเป็นตำรวจไปจับผู้ร้ายได้
อิซานย้ำตลอดว่าตัวเองอยากเป็นซูเปอร์สตาร์ มองภาพซูเปอร์สตาร์ที่ตัวเองอยากเป็นไว้แบบไหน
เป็นเหมือน อมิตาภ พัจจัน (นักแสดงชาวอินเดียที่มีชื่อเสียงมาก ปัจจุบันอายุ 75 ปี) ผมเคยถ่ายโฆษณากับเขาหลายตัว และรู้สึกชอบและอยากเป็นแบบเขาให้ได้
เขาได้สอนอะไรคุณบ้างไหมในช่วงที่ได้ทำงานร่วมกัน
เขาเคยบอกผมว่าการแสดงไม่มีข้อจำกัด นักแสดงสามารถเรียนรู้เพื่อพัฒนาตัวเองได้ทุกวันจากสิ่งต่างๆ รอบตัว
สิ่งที่อิซานอยากทำมากที่สุด ถ้าวันหนึ่งได้เป็นซูเปอร์สตาร์แบบอมิตาภขึ้นมาคืออะไร
ผมอยากบริจาคเงินให้คนจน คนที่อยู่ชายแดนและกองทัพต่างๆ ในพื้นที่นั้นๆ และถ้าเป็นไปได้ก็อยากต่อสู้เพื่อช่วยเหลือพวกเขาให้ได้มากขึ้น
รู้สึกอย่างไรบ้างที่บรรดาแฟนคลับในประเทศไทยให้การตอบรับอิซานเป็นอย่างดี
ผมมาที่ประเทศไทยครั้งแรกตอนต้นปี มีคนมารอรับผมที่สนามบินเยอะมากจนผมรู้สึกประหม่า ไม่รู้จะทำตัวอย่างไรนอกจากโบกมือทักทาย แต่ตอนนี้ไม่ประหม่าแล้วนะครับ ต้องขอบคุณแม่ๆ (ชื่อที่อิซานเรียกกลุ่มแฟนคลับในประเทศไทย) ทุกคนด้วยนะครับที่ต้อนรับผมเป็นอย่างดี
ผมคิดว่าประเทศไทยน่าจะเป็นประเทศที่มีคนชอบผมเยอะที่สุดแล้วนะ เพราะตอนไปที่อินโดนีเซียหรือแอฟริกาใต้ก็ไม่ได้มีคนมารอรับขนาดนี้ และที่อินเดียผมก็ไม่ได้ดังอะไรมาก อย่างแรกเพราะที่อินเดียมีนักแสดงเยอะมาก อย่างที่สองคือคนอินเดียคิดว่าการเข้าไปกรี๊ดต่อหน้านักแสดงที่ชอบดูไม่ใช่เรื่องที่ดีเท่าไร แต่พอมาเจอการต้อนรับของแม่ๆ ที่นี่แล้วรู้สึกดีใจมากเลย
พอจบจากซีรีส์ หนุมาน สงครามมหาเทพ แล้วมีโปรเจกต์อะไรที่แฟนคลับจะได้ชมผลงานการแสดงของอิซานอีกบ้าง
ตอนนี้กำลังถ่ายทำซีรีส์เรื่องต่อไปชื่อ Papa By Chance ครับ กำลังเร่งถ่ายทำกันอยู่ ทำงานหนักเหมือนเดิม แต่ดีขึ้นมาหน่อยคือจากถ่ายทุกวันเป็นเหลือสัปดาห์ละ 6 วันแทน (หัวเราะ) และถือว่าเป็นการเปลี่ยนบทบาทของผมที่ทุกคนเคยเห็น เพราะเรื่องนี้ผมต้องเปลี่ยนจากเด็กน่ารักซนๆ กลายเป็นเด็กโมโหร้ายแทน
พิสูจน์อักษร: ภาสิณี เพิ่มพันธุ์พงศ์
- หนุมาน สงครามมหาเทพ คือซีรีส์ฟอร์มยักษ์ของประเทศอินเดียที่ใช้ทุนสร้างสูงถึง 2,000 ล้านบาท โดยตอนออกอากาศที่ประเทศอินเดียจะเป็นซีรีส์ที่มีความยาวทั้งหมด 631 ตอน ตอนละประมาณ 22 นาที
- เล่าเรื่องราวจากต้นกำเนิดสู่ยอดนักรบของหนุมาน ทหารเอกแห่งพระราม มหาเทพวานรผู้เก่งกาจ ซื่อสัตย์ และภักดี ผู้ร่วมรบเคียงข้างพระรามในศึกสงครามมหาเทพกับกองทัพอสูรของทศกัณฐ์
- ปืนที่อิซานชอบมากที่สุดคือ AK-47
- ถ้าอยู่ในโรงเรียน อิซานจะชอบวิ่งเล่นที่สนามหญ้ากับเพื่อนในเวลาว่าง แต่ถ้าอยู่บ้าน สิ่งที่เขาชอบมากที่สุดคือการเล่นไพ่ UNO กับครอบครัว
- สามารถรับชมซีรีส์ หนุมาน สงครามมหาเทพ ย้อนหลังได้ที่ หนุมาน สงครามมหาเทพ