วันนี้ (4 ธันวาคม) พล.ต.ต.ศิริวัฒน์ ดีพอ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยว่า ขณะนี้สถานการณ์อุทกภัยในพื้นที่ภาคใต้เริ่มคลี่คลายและเข้าสู่ช่วงการฟื้นฟูเยียวยา โดย พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) ได้กำชับให้ตำรวจทุกหน่วยในพื้นที่ประสบภัย เร่งเข้าช่วยเหลือประชาชนฟื้นฟูที่พักอาศัยและพื้นที่สาธารณะ
เพื่อให้ประชาชนกลับมาใช้ชีวิตได้ตามปกติโดยเร็วที่สุด พร้อมทั้งเร่งสำรวจและฟื้นฟูสถานที่ราชการและยานพาหนะของตำรวจที่ได้รับความเสียหาย เพื่อไม่ให้กระทบต่อการปฏิบัติหน้าที่ดูแลประชาชน
จากการสำรวจความเสียหายหลังน้ำลด พบว่า สถานีตำรวจภูธรหาดใหญ่ จ.สงขลา เป็นหนึ่งในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบหนัก โดยระดับน้ำท่วมสูงกว่า 3 เมตร ทำให้อาคารที่ทำการชั้น 1 เสียหายทั้งหมด รวมถึง รถจักรยานยนต์สายตรวจ ซึ่งเป็นพาหนะหลักในการระงับเหตุ จมน้ำเสียหายจนไม่สามารถใช้งานได้ถึง 94 คัน ส่งผลกระทบโดยตรงต่อภารกิจสายตรวจในช่วงเวลาที่จำเป็นต้องเพิ่มความถี่ในการตรวจตราความเรียบร้อยตามชุมชน
เพื่อแก้ปัญหาดังกล่าวอย่างเร่งด่วน ผบ.ตร. ได้สั่งการให้ สำนักงานส่งกำลังบำรุง (สกบ.) จัดสรรรถจักรยานยนต์ที่มีการจัดซื้อไว้รอส่งมอบ ดำเนินการขนส่งด่วนจากกรุงเทพมหานครไปยัง จ.สงขลา จำนวนทั้งสิ้น 340 คัน เพื่อกระจายต่อให้สถานีตำรวจในสังกัด 31 แห่ง โดยรถทั้งหมดเดินทางถึงพื้นที่ตั้งแต่วันที่ 3 ธันวาคม ที่ผ่านมา และได้มีการจัดสรรเร่งด่วน ดังนี้:
- สภ.หาดใหญ่: 100 คัน (ทดแทนรถที่เสียหาย)
- สภ.คอหงส์: 35 คัน
- สภ.เมืองสงขลา: 25 คัน
- สภ.สะเดา: 15 คัน
และกระจายไปยัง สภ. อื่นๆ ตามความจำเป็น
รองโฆษก ตร. กล่าวเพิ่มเติมว่า ในช่วงการฟื้นฟูเมือง ทาง ตำรวจภูธรภาค 9 ได้ระดมกำลังพลจาก จ.พัทลุง, ตรัง และสตูล เข้ามาเสริมในพื้นที่ อ.หาดใหญ่ โดยแบ่งพื้นที่การตรวจออกเป็น 6 โซน
“ก่อนหน้านี้ในช่วงสัปดาห์แรกหลังน้ำลด การปฏิบัติงานเน้นใช้รถยนต์และสายตรวจเดินเท้า แต่เมื่อได้รับรถจักรยานยนต์ใหม่เข้ามาทดแทนตั้งแต่วันนี้ จะทำให้เจ้าหน้าที่ตำรวจมีความคล่องตัวสูงขึ้น โดยจะใช้รถใหม่ทั้ง 100 คัน ออกตรวจแบบดาวกระจาย เข้าถึงทุกตรอก ซอก ซอย เสริมทัพร่วมกับสายตรวจรถยนต์และเดินเท้า เพื่อดูแลความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน สร้างความอุ่นใจให้กับพี่น้องชาวหาดใหญ่ได้อย่างทั่วถึงที่สุด” พล.ต.ต.ศิริวัฒน์ กล่าวทิ้งท้าย
