สำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) เร่งออกมาตรการช่วยเหลือและบรรเทาความเดือดร้อนแก่ผู้เอาประกันภัยที่ได้รับผลกระทบจากเหตุอุทกภัยในพื้นที่ภาคใต้อย่างเป็นรูปธรรม โดยเมื่อวันที่ 2 ธันวาคม 2568 คปภ. ได้เชิญสมาคมและบริษัทประกันเข้าร่วมหารือเพื่อออกมาตรการเร่งด่วน โดยมีสาระสำคัญคือ การออกคำสั่งนายทะเบียนจำนวน 4 ฉบับ เพื่อผ่อนผันเงื่อนไขกรมธรรม์ทั้งประกันชีวิตและประกันวินาศภัย รวมถึงกำหนดหลักเกณฑ์การจ่ายค่าสินไหมทดแทนให้มีความยืดหยุ่นและรวดเร็วยิ่งขึ้น เพื่อให้ผู้เอาประกันภัยยังคงได้รับความคุ้มครองอย่างต่อเนื่องและช่วยลดภาระทางการเงินในช่วงวิกฤต
เน้น ‘ผ่อนผัน ยืดเวลา และเพิ่มความคุ้มครอง’
อาภากร ปานเลิศ รองเลขาธิการ ด้านกำกับธุรกิจประกันภัย เปิดเผยว่า คำสั่งนายทะเบียนที่ออกมาในครั้งนี้ มีผลให้บริษัทประกันสามารถดำเนินการช่วยเหลือผู้เอาประกันภัยที่อยู่ในเขตพื้นที่ประสบภัยตามรายงานสถานการณ์สาธารณภัยของกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย กระทรวงมหาดไทยได้ทันที โดยครอบคลุมทั้งการผ่อนผันการชำระเบี้ย และการจ่ายค่าสินไหมทดแทน ดังนี้
1. การช่วยเหลือด้านประกันวินาศภัย (รถยนต์, อัคคีภัย และอื่น ๆ)
- ผ่อนผันการเก็บเบี้ยฯ รถยนต์: บริษัทสามารถผ่อนผันการเก็บและรับเบี้ยประกันภัยรถยนต์ทุกประเภท (ยกเว้นกลุ่ม 1 และ 2) ได้นานถึง 180 วัน นับแต่วันที่สัญญาประกันภัยมีผลคุ้มครอง
- ขยายเวลาชำระเบี้ยฯ ทั่วไป: ขยายระยะเวลาการเก็บเบี้ยประกันภัยให้แก่ผู้เอาประกันภัยออกไปได้ 90 วัน นับแต่วันแรกที่บริษัทต้องเก็บเบี้ยประกันภัย
- งดตรวจสุขภาพสำหรับกรมธรรม์สุขภาพที่ขาดอายุ: กรณีที่กรมธรรม์ประกันภัยสุขภาพหรือโรคร้ายแรงสิ้นผลบังคับเนื่องจากขาดการชำระเบี้ย บริษัทจะ งดการตรวจสุขภาพ ในการขอต่ออายุกรมธรรม์ประกันภัย
- เพิ่มเพดานสินไหมภัยน้ำท่วม:
- ประกันอัคคีภัยสำหรับที่อยู่อาศัย: พิจารณาชดใช้ค่าสินไหมทดแทนภายใต้ความคุ้มครองภัยธรรมชาติ จำนวน 20,000 บาท
- กรณีซื้อความคุ้มครองภัยน้ำท่วมเพิ่ม: พิจารณาจ่ายค่าสินไหมเพิ่มอีก 10,000 บาท (รวมสูงสุดไม่เกิน 30,000 บาท แต่ไม่เกินวงเงินความคุ้มครอง)
- ประกันภัยความเสี่ยงภัยทรัพย์สิน (IAR): กรณีซื้อความคุ้มครองภัยน้ำท่วมเพิ่ม ให้พิจารณาจ่ายค่าสินไหม 30,000 บาท แต่ไม่เกินจำนวนเงินความคุ้มครองตามกรมธรรม์
2. การช่วยเหลือด้านประกันชีวิต
- ขยายระยะเวลาผ่อนผันการชำระเบี้ยฯ: กรณีที่ครบกำหนดระยะเวลาผ่อนผันเดิมแล้ว บริษัทจะขยายระยะเวลาออกไปอีก 60 วัน
- งดตรวจสุขภาพและยกเว้น/ปรับลดดอกเบี้ย 6 เดือน: มาตรการนี้ใช้ในกรณีที่กรมธรรม์สิ้นผลบังคับจากการขาดชำระเบี้ยฯ หรือมีการกู้ยืมเงินตามกรมธรรม์ฯ อัตโนมัติ หากผู้เอาประกันภัยขอกลับคืนสู่สถานะเดิม บริษัทจะ งดการตรวจสุขภาพ และ ยกเว้นหรือปรับลดดอกเบี้ย ที่เกิดขึ้นเป็นเวลาไม่เกิน 6 เดือน
- ผ่อนผันการชำระเบี้ยรายงวดโดยไม่คิดดอกเบี้ย: สำหรับผู้เอาประกันภัยที่มีการชำระเบี้ยประกันภัยรายงวดที่น้อยกว่าหนึ่งปี บริษัทผ่อนผันให้ชำระเบี้ยในแต่ละงวดโดย ไม่คิดดอกเบี้ย เป็นเวลาไม่เกิน 6 เดือน
คปภ. เน้นย้ำว่า มาตรการเหล่านี้เป็นการสะท้อนความห่วงใยต่อประชาชนและสำนึกในความรับผิดชอบต่อสังคมของภาคธุรกิจประกันภัย โดยจะเร่งติดตามบริษัทประกันชีวิตบางแห่งที่อาจต้องดำเนินการแก้ไขระบบให้รองรับมาตรการนี้ และยืนยันว่าภาคธุรกิจประกันภัยพร้อมอยู่เคียงข้างประชาชนในการเยียวยา การจ่ายค่าสินไหมทดแทน และการฟื้นฟูสู่ภาวะปกติอย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ
ทั้งนี้ ประชาชนสามารถติดต่อ สายด่วน คปภ. 1186 เพื่อขอรับคำแนะนำและความช่วยเหลือด้านประกันภัย หรือตรวจสอบข้อมูลกรมธรรม์ประกันภัยผ่านช่องทาง ไลน์ @OICconnect ได้


