วันนี้ (27 พฤศจิกายน) ที่กระทรวงการคลัง อนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เดินทางมาเป็นประธานการประชุมบูรณาการช่วยเหลือ เยียวยา และฟื้นฟูผู้ประสบอุทกภัยภาคใต้ โดยได้เชิญกระทรวงการคลัง กระทรวงพาณิชย์ กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม และกระทรวงแรงงาน เข้าร่วมประชุม
เบื้องต้น กระทรวงการคลังจะวางมาตรการช่วยเหลือ แบ่งเป็น 3 ระยะ ได้แก่
- ระยะที่ 1: การช่วยเหลือผู้ประสบภัยอย่างเร่งด่วน มีการตั้งศูนย์อำนวยการช่วยเหลือ กระจายเครื่องอุปโภคบริโภค ฟื้นฟูระบบสาธารณูปโภคพื้นฐาน
- ระยะที่ 2: การเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบ มีมาตรการพักหนี้ พักดอกเบี้ย ลดค่าใช้จ่ายค่าน้ำ-ค่าไฟ สินเชื่อเยียวยา และให้ สำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) ดำเนินมาตรการเคลมประกันทันที ได้เงินหลังน้ำลด
- ระยะที่ 3: การฟื้นฟูเศรษฐกิจและทรัพย์สิน จะปล่อยสินเชื่อสำหรับที่อยู่อาศัย ช่วยค่าซ่อมบ้าน-ซ่อมรถ
นายกรัฐมนตรีกล่าวในที่ประชุมว่า รัฐบาลติดตามสถานการณ์อุทกภัยภาคใต้อย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะพื้นที่อำเภอหาดใหญ่ซึ่งมีความสำคัญด้านเศรษฐกิจ ต้องเร่งแก้ปัญหา ทั้งระยะเฉพาะหน้า ระยะฟื้นฟู และการวางแนวทางเยียวยาให้ผู้ประสบภัยกลับสู่ภาวะปกติ
นายกรัฐมนตรีระบุว่า ตนได้ลงพื้นที่และสั่งการชัดเจนว่าความปลอดภัยของประชาชนคือสิ่งสำคัญที่สุด ขณะนี้รัฐบาลได้ประกาศให้ใช้พระราชกำหนด (พ.ร.ก.) การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน เพื่อบูรณาการคำสั่งให้ดำเนินการได้อย่างสะดวกรวดเร็ว พร้อมขอบคุณกระทรวงการคลังที่ผ่อนปรนกฎระเบียบเพื่อให้เจ้าหน้าที่จัดซื้อจัดจ้างและจัดหาอุปกรณ์ช่วยเหลือประชาชนได้เร็วขึ้น
นายกรัฐมนตรีได้ขอให้ เอกนิติ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ประสานงานร่วมกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน พาณิชย์ และดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม เพื่อเร่งบูรณาการยกระดับประสิทธิภาพช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยในอำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา รวมถึงจังหวัดอื่น ๆ ในพื้นที่
นายกรัฐมนตรียืนยันว่า เรารอช้าไม่ได้ ทุกวินาทีมีความหมายกับประชาชน โดยการประชุมในวันนี้เตรียมมาตรการฟื้นฟูเศรษฐกิจและผู้ประกอบการที่ได้รับผลกระทบ เพื่อให้กลับมาดำเนินชีวิตได้ตามปกติเร็วที่สุด
ทั้งนี้ รัฐบาลตั้งกรอบให้เป็นการบูรณาการช่วยเหลือ-เยียวยา-ฟื้นฟู โดยเชื่อมโยงเครือข่าย ทรัพยากร และการสื่อสารให้เป็นทิศทางเดียวกัน พร้อมตั้งศูนย์บัญชาการที่ทำเนียบรัฐบาล เพื่อเป็นศูนย์กลางประสานงานและสื่อสารกับผู้ปฏิบัติในพื้นที่
นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า วันนี้จะขอให้ที่ประชุม โดยการชี้แนะของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง หามาตรการระยะสั้น เช่น เครื่องดื่ม ยา อย่างทั่วถึง รวมถึงมาตรการเยียวยาระยะกลาง เพิ่มรายได้ ลดภาระ มาตรการพักชำระหนี้ ดอกเบี้ย 0% และมาตรการด้านพาณิชย์ เช่น หาสินค้าราคาต่ำกว่าทุน โดยภาครัฐสนับสนุนเพื่อลดภาระประชาชน รวมถึงส่งต่อวัสดุและผลิตภัณฑ์ต่างๆ ให้ภาคเอกชนดำเนินการ
ส่วนการฟื้นฟูซึ่งเป็นความเสียหายจากภัยพิบัติ เชื่อว่าผู้ประกอบการส่วนใหญ่มีประกันภัยในทรัพย์สิน รัฐบาลต้องการให้บริษัทประกันเร่งจ่ายค่าสินไหมโดยเร็ว ควบคู่กับการจัดหาสินเชื่อดอกเบี้ย 0% สำหรับซ่อมแซมบ้าน ร้านค้า และทรัพย์สินที่เสียหาย โดยกระทรวงมหาดไทยจะร่วมสำรวจความเสียหายและเชื่อมโยงข้อมูลร่วมกัน เพื่อให้ดำเนินการได้เร็วที่สุด
ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรีเดินทางกลับจากพื้นที่น้ำท่วมอำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา ถึงกรุงเทพฯ ในช่วงกลางดึกคืนวันที่ 26 พฤศจิกายน เพื่อเข้าประชุมดังกล่าว และมีรายงานว่าในช่วงบ่าย นายกรัฐมนตรีอาจเดินทางลงพื้นที่อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลาอีกครั้ง







