×

เช็ก 5 สัญญาณอันตรายจากข่าวเครียด + วิธีรับมือ

26.11.2025
  • LOADING...
เช็ก 5 สัญญาณอันตรายจากข่าวเครียด + วิธีรับมือ

เราอยู่ในช่วงที่ข่าวร้ายถาโถม ทั้งน้ำท่วม เหตุฉุกเฉิน การเมือง และดราม่าบนโซเชียล หลายคนอาจไม่รู้ตัวเลยว่าจิตใจเริ่มรับไม่ไหวแล้ว การเสพข่าวมากเกินไป โดยเฉพาะข่าวลบหรือภาพเหตุการณ์ที่สะเทือนใจ อาจทำให้เราค่อยๆ จมอยู่ในความเครียดแบบเงียบๆ จนกระทบทั้งอารมณ์ การนอน และประสิทธิภาพการใช้ชีวิตนี่คือ 5 สัญญาณอันตราย ที่บอกว่าร่างกายและสมองกำลังร้องขอให้ “พักจากข่าว” พร้อมวิธีรับมือแบบง่ายๆ ที่นำไปใช้ได้ทันที

 

1. ปิดข่าวแล้วแต่ใจยังค้างอยู่

 

ถ้าคุณปิดมือถือไปแล้ว แต่สมองยังวนคิดภาพเหตุการณ์ วิตกกังวลตามต่อ หรือรู้สึกเหมือนอยู่ในเหตุการณ์จริง นี่คือสัญญาณว่าคุณ “เสพเกินพอดี” แล้ว
รับมือ: ตั้งเวลาเช็กข่าวในแต่ละวัน เช้า-เย็นพอ ไม่ต้องไถฟีดตลอดเวลา

 

2. นอนยาก หลับไม่สนิท

 

หลายงานวิจัยพบว่า การเสพข่าวลบหรือเลื่อนฟีดก่อนนอน จะทำให้สมองตื่นตัวเกินไปจนหลับยาก หรือตื่นกลางดึกด้วยความกังวล
รับมือ: หยุดเสพข่าวอย่างน้อย 1 ชั่วโมงก่อนนอน เปลี่ยนเป็นฟังเพลงช้าๆ หรืออ่านอะไรเบาสมองแทน

 

3. อารมณ์แกว่ง หงุดหงิดง่าย

 

ข่าววิกฤตและคอมเมนต์ดราม่ากระตุ้นระบบประสาทให้ตื่นตัวมากเกินไป จนทำให้อารมณ์แปรปรวน ขัดใจกับเรื่องเล็กๆ หรือรู้สึกโกรธผู้มีอำนาจจนคุมตัวเองยาก
รับมือ: พักโซเชียลเป็นช่วงๆ และออกไปขยับร่างกายสัก 5-10 นาที จะช่วยลดระดับฮอร์โมนเครียดได้ดีมาก

 

4. สมาธิสั้น ทำอะไรไม่ค่อยได้

 

ถ้าทำงานไป เช็กข่าวไป หรือไถฟีดทุก 10 นาที แปลว่าสมองกำลังโดน “ดึงความสนใจ” ตลอดเวลา ทำให้โฟกัสงานไม่ได้ และเกิดความล้าแบบเรื้อรัง
รับมือ: ลองใช้เทคนิค Pomodoro ตั้งเวลาโฟกัสงาน 25 นาที แล้วพัก 5 นาที ห้ามเช็กข่าวระหว่างนั้น

 

5. รู้สึกหมดหวัง เบื่อหน่ายโลก

 

การเห็นเหตุร้ายซ้ำๆ อาจนำไปสู่ภาวะที่เรียกว่า emotional numbness คือความรู้สึกว่างเปล่า หมดแรง หรือสิ้นหวังกับสังคม ซึ่งมักเกิดจากข่าวหนักเกินไป
รับมือ: เลือกเสพเฉพาะสื่อที่เชื่อถือได้ และเติมสมดุลด้วยคอนเทนต์ที่ดีต่อใจ เช่น ธรรมชาติ คลิปสัตว์น่ารัก หรือเรื่องราวเชิงบวกที่ช่วยฮีลใจได้

 

คำแนะนำสั้นๆ ที่ช่วยได้ทันที

 

  • ปิดแจ้งเตือนข่าวที่ไม่จำเป็น
  • เลือกเสพจากช่องทางที่เชื่อถือได้ ไม่อ่านทุกคอมเมนต์
  • จัด “เขตปลอดสื่อ” สัก 1-2 ชม. ต่อวัน
  • โทรหาหรือคุยกับคนที่ทำให้รู้สึกปลอดภัย
    ถ้ารู้สึกหนักมาก ให้ปรึกษานักจิตวิทยาหรือสายด่วนสุขภาพจิต 1323 
  • LOADING...

READ MORE






Latest Stories

Close Advertising