วันนี้ (25 พฤศจิกายน) ที่ ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก ศาลนัดฟังคำพิพากษาในคดีหมายเลขดำที่ อ.1225/2566 ที่ พรรคภูมิใจไทย (ภท.) โดยอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรค มอบอำนาจให้ศุภชัย ใจสมุทร เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง ชูวิทย์ กมลวิศิษฐ์ อดีตนักการเมืองเป็นจำเลย ในความผิดฐานหมิ่นประมาทผู้อื่นโดยการโฆษณา
คดีนี้สืบเนื่องจากช่วงก่อนการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร เมื่อวันที่ 2 พฤษภาคม 2566 ขณะที่อนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย กำลังขึ้นเวทีปราศรัยหาเสียงและแนะนำผู้สมัคร สส. บริเวณลานกีฬาแฟลตดินแดง ท่ามกลางประชาชนกว่า 2,000 คน ชูวิทย์ (จำเลย) ได้เดินทางไปยังบริเวณดังกล่าว พร้อมตั้งโต๊ะแถลงข่าว ใช้โทรโข่งประกาศ และแจกเสื้อรณรงค์แก่ประชาชน
โดยมีเนื้อหาโจมตีนโยบายกัญชาของพรรคโจทก์ อ้างว่าเป็นเรื่องโกหกหลอกลวงและมีผลประโยชน์ทับซ้อนเกี่ยวกับธุรกิจกัญชง-กัญชา พร้อมเรียกร้องให้ประชาชนงดเว้นการลงคะแนนให้แก่ผู้สมัครของพรรคภูมิใจไทย ซึ่งโจทก์มองว่าเป็นการใส่ความด้วยข้อความอันเป็นเท็จ ทำให้พรรคได้รับความเสียหาย
ศาลพิเคราะห์พยานหลักฐานแล้วเห็นว่า โจทก์ (พรรคภูมิใจไทยและอนุทิน) มีสถานะเป็นบุคคลสาธารณะ และได้นำนโยบายกัญชาเสรี มาใช้ในการหาเสียงเลือกตั้ง ซึ่งข้อเท็จจริงปรากฏว่าในปี 2565 ได้มีการประกาศปลดล็อกกัญชาและกัญชงออกจากบัญชียาเสพติด ทำให้สามารถนำไปใช้เสพได้โดยทั่วไปและยังไม่มีกฎหมายควบคุมที่ชัดเจนในขณะนั้น
สำหรับประเด็นที่จำเลยกล่าวหาว่าโจทก์มีความเกี่ยวข้องกับกลุ่มทุนธุรกิจกัญชง และมุ่งเน้นผลประโยชน์ทางธุรกิจมากกว่าประโยชน์ทางการแพทย์นั้น ศาลเห็นว่า จำเลยกระทำในฐานะประชาชนที่มีความห่วงใยต่อปัญหาสังคมและเยาวชน โดยไม่เห็นด้วยกับนโยบายกัญชาเสรีที่มองว่าเป็นอันตราย
การกระทําของจำเลยจึงเป็นการแสดงความคิดเห็นและติชมด้วยความสุจริต เพื่อต่อต้านไม่ให้ประชาชนเลือกพรรคที่มีนโยบายดังกล่าว แม้ถ้อยคำที่ใช้โจมตีจะมีความรุนแรงอยู่บ้าง แต่ในฐานะที่โจทก์เป็นบุคคลสาธารณะและพรรคการเมือง ย่อมต้องยอมรับการวิพากษ์วิจารณ์และการตรวจสอบจากภาคประชาชนได้


